ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง
ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง
 

ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง

ละครดังที่คิดถึง จันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.30 น.

บทประพันธ์ : บุษยมาส บทโทรทัศน์ : สิริกร

ศุกลวัฒน์ คณารศ,ดาวิกา โฮร์เน่,ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์,นุ้ย ภัสสราภร,วัชรบูล ลี้สุวรรณ,ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์,อธิชนัน ศรีเสวก,ฮาน่า ลีวิส

เรื่องย่อร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง

ออกอากาศวันเสาร์ ที่ 9 มีนาคม 2556

ตอน 12 “ใหม่” ตบ “เวียร์” หน้าสั่น โทษฐานจูบจริง

เพลิงแค้นถูกแทนด้วยไฟรัก...เธอจึงตกเป็นเหยื่อพิศวาสที่เขามิอาจหักใจ งานนี้พระเอกในคราบซาตานอย่าง “เวียร์-ศุกลวัฒน์  คณารศ” เลยต้องสวมบทโหด  ฉุดกระชากลากถู  นางเอกสาวแสนบางบอบอย่าง “ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่” ที่ตกเป็นเหยื่อรองรับอารมณ์ของเขา งานนี้สาวใหม่จะเอาตัวรอดหรือไม่ต้องติดตามในละคร  “ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง” ของค่าย “ดาราวิดีโอ”

ฉากนี้เป็นตอนที่กร้าว (เวียร์-ศุกลวัฒน์) โมโหที่อนุช (ใหม่-ดาวิกา) ร่วมหัวกับชายธง (แม็ค-วีรคณิศร์) แบ็คเมล์เขา แต่อนุชปฏิเสธแกล้งเปลี่ยนเรื่อง กร้าวพยายามคาดคั้นดึงอนุชเข้ามากอด อนุชพยายามดิ้น ไม่ยอมตอบ กร้าวเลยลงมือกอดปลุกปล้ำ อนุชตบหน้ากร้าวแล้ววิ่งหนีออกไป

เบื้องหลังฉากนี้ถ่ายทำกันที่หมู่บ้านเกศินีวิลล์ ย่านเหม่งจ๋าย บรรยากาศในกองถ่ายค่อนข้างสนุกสนาน ครึกครื้น แตกต่างจากในฉากมากๆ เพราะในฉากค่อนข้างดราม่า เชือดเฉือน ต่อปากต่อคำ มีลงไม้ลงมือ ฉุดกระชากลากถู  งานนี้สาวน้อยน่าทะนุถนอมอย่างสาวใหม่ น่าสงสารเป็นที่สุด เพราะต้องโดนหนุ่มเวียร์ปลุกปล้ำ ลงไม้ลงมือ กอดรัดฟัดเหวี่ยงอีกแล้ว แต่อย่าคิดว่าสาวใหม่จะยอมเป็นฝ่ายถูกกระทำอยู่ข้างเดียว พอได้โอกาสจากหนุ่มเวียร์ที่เอ่ยปากขอให้สาวใหม่ตบจริงๆ เลยในฉาก เพราะจะได้ฟิวส์ อารมณ์จะได้ออก เล่นแบบเทคเดียวผ่าน  งานนี้เลยเข้าทางสาวใหม่จัดให้ตามคำขอแบบไม่ต้องรอเลยจ้า ว่าแล้ว ผกก.ก็สั่งเดินกล้องถ่ายทำทันที เริ่มที่หนุ่มเวียร์พยายามคาดคั้นสาวใหม่ให้บอกความจริงว่ากำลังคิดจะทำอะไรอยู่ ใหม่ตีหน้าซื่อ ปฏิเสธเสียงแข็ง พยายามเบี่ยงเบนเปลี่ยนเรื่องคุยแต่เวียร์ไม่ยอม กระฟัดกระเฟียดจะเค้นความจริงจากปากใหม่ให้ได้ โดยกระชากแขนบีบแขนทั้งสองข้างของใหม่อย่างแรง ใหม่พยายามร้องส่งสัญญาณว่าเจ็บ แต่เวียร์ก็ไม่ฟัง ใหม่เลยดิ้นจะสะบัดตัวออก เวียร์ก็ยิ่งกระชับรัดเข้ามาประชิดตัวมากขึ้นแล้วจับดันลงนอนที่บนโซฟา พยายามจะเอาหน้าไปไปซุกไซร้ซอกคอของสาวใหม่ ใหม่ก็ปัดป้องสุดฤทธิ์ เวียร์หงุดหงิดเลยกระชากใหม่ลุกขึ้นมาทะเลาะกันต่อ  ใหม่ทำอะไรไม่ได้นอกจากต่อปากต่อคำกับเวียร์ จนเวียร์โกรธเลือดขึ้นหน้า กระชากตัวใหม่เข้ามาจูบปากประกบปาก บดขยี้ซ้ายขวา ใหม่ก็พยายามออกแรงสู้ จนสะบัดตัวหลุดออกมาแล้วไม่พูดพร่ำตบเข้าที่หน้าของเวียร์อย่างจัง จนหน้าสั่นสะเทือนดังเพี๊ยะ!! แต่ก็ควบคุมสมาธิได้ดีเล่นต่อจนจบ พอสิ้นเสียงคัทเท่านั้น สาวใหม่ก็รีบยกมือไหว้ขอโทษเวียร์ยกใหญ่ แต่เวียร์บอกว่าสบายมาก ไม่เจ็บเลย แต่แอบเห็นรอยแดงๆ ที่หน้าของเวียร์แล้วรู้ทันทีเลยว่าสาวใหม่มือหนักเหมือนกันนะเนี่ย แต่ภาพออกมาได้ฟิวส์และอารมณ์สุดๆ แบบเทคเดียวผ่านจ้า

โปรดติดตามชมฉากนี้ที่ทั้งเวียร์และใหม่ทุ่มเทสุดๆ ทั้งยอมให้ตบจริง จูบจริง อยากรู้ว่าภาพจะออกมาเด็ดดวงขนาดไหนต้องติดตามชมในละคร “ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง” ออกอากาศวันเสาร์ ที่ 9 มีนาคม 2556หลังข่าวภาคค่ำ ทางช่อง 7 สี


**************************************************************

ออกอากาศวันศุกร์ ที่ 1 มีนาคม 2556

“หยก” สวมเขา...เล่นชู้กับ “เวียร์” “เชน” กอดขาหลั่งน้ำตา “ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง”

ในที่สุดความจริงที่นางร้ายสุดเซ็กซี่แถวหน้าอย่าง “หยก-ธัญยกันต์  ธนกิตติ์ธนานนท์” ปกปิด สวมเขาแอบลักลอบเล่นชู้กับพระเอกหนุ่มหล่อล่ำ “เวียร์-ศุกลวัฒน์  คณารศ” ที่ปกปิดมาเนิ่นนาน ก็ถูกเปิดเผยจนได้ด้วยฝีมือของเธอเอง จนทำเอานักแสดงหนุ่มหล่อเข้มมากฝีมืออย่าง “เชน-ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์” ถึงกับอึ้งกิมกี่ กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ปล่อยโฮสุดพลัง ในละครสุดดราม่า “ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง” ของค่าย “ดาราวิดีโอ”

ฉากนี้เป็นตอนที่อสิต (เชน-ณัฐวัฒน์) รู้ความจริงว่าเมียสุดที่รักอย่างลลิตา (หยก- ธัญยกันต์) สวมเขา เล่นชู้กับกร้าว (เวียร์-ศุกลวัฒน์) ซึ่งลลิตาเป็นคนเปิดเผยเรื่องนี้ทั้งหมด เพราะทนเห็นกร้าวแต่งงานกับอนุช (ใหม่-ดาวิกา) ไม่ได้ อสิตอึ้ง พยายามคาดคั้นลลิตา จับมือลลิตาไว้ ลลิตาดึงกระชากทิ้งจนอสิตตกลงจากรถเข็น นอนราบกับพื้น ลลิตาก้มลงนั่งแล้วต่อว่าอสิตว่าสภาพพิการแบบนี้ แถมหมดตัวล้มละลายอีก ไม่มีใครเลือกหรอก แล้วเดินจากไป อสิตพยายามกอดขาลลิตาอ้อนวอน ลลิตาก็ไม่สนใจสะบัดขาหนี ปล่อยให้อสิตร้องไห้เสียใจ

เบื้องหลังฉากดราม่ารันทนฉากนี้ ทีมงานยกกองไปถ่ายทำที่โรงแรมโนโวเทล ย่านประตูน้ำ พอได้เวลาทั้งหยกและเชนต่างก็เตรียมตัวมาพร้อมเต็มที่ โดยเฉพาะหนุ่มเชนที่ขอจัดเต็มเพื่อฉากไคลแม็กซ์ฉากนี้ ผกก.จัดวางมุมกล้องและจัดเซ็ทสถานที่ตรงบริเวณทางเดินหน้าห้องรับแขกเสร็จแล้ว ก็เรียกเชนและหยกมาซ้อมคิวบ๊อกกิ้งเบาๆ ระหว่างตอนซ้อมหยกก็พยายามบิ้วและส่งอารมณ์ให้เชนอย่างต่อเนื่อง จนซ้อมเสร็จทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ผกก.ก็สั่งเดินกล้องถ่ายทำทันที เริ่มที่สาวหยกถูกลากตัวออกมาจากในงานแต่งของเวียร์และใหม่ โดยที่เชนก็เข็นรถออกตามมาติดๆ หยกเอะอะโวยวายตวาดให้ปล่อย เชนยืนดูเหตุการณ์ด้วยอาการงง ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เชนถามหยกว่ามันเกิดอะไรขึ้น หยกโมโหฉุนเฉียวหันมาประจันหน้าจ้องตาเชนเขม็ง แล้วค่อยๆ เดินไปหยุดที่ตรงหน้าเชน พร้อมกับตวาดเสียงใส่เชน แล้วบอกว่าเธอไม่ได้รักเชนแล้ว แต่รักเวียร์มากกว่า เชนอึ้ง ตาค้างไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้ยินคำนี้จากปากของหยก เชนคว้ามือไปจับที่ข้อมือของหยกกำไว้แน่น หยกไม่พอใจพยายามสะบัดมือออก กระชากเต็มแรง จนเชนทรงตัวไม่อยู่ตกลงมาจากรถเข็น นอนราบกับพื้น ขยับตัวไม่ได้เพราะขาไม่มีแรง หยกไม่สนใจยืนมองด้วยสายตาระอา เชนพยายามขอร้องอ้อนวอนหยก หยกค่อยๆ ก้มลงนั่งข้างๆ เชนแล้วก็บอกความจริงทั้งหมดว่าทนอยู่กับคนพิการ และล้มละลายหมดตัวอย่างเชนไม่ไหวแล้ว และจะไม่ทนอยู่ พอพูดจบหยกก็ค่อยๆ ลุกขึ้นจะก้าวตัวออกไป เชนก็เอื้อมสุดมือคว้าขาของหยกมากอดอ้อนวอน ร้องไห้โฮแบบหมดคราบสภาพลูกผู้ชาย หยกก็ยังไม่เห็นใจแถมยังสะบัดขาหนีอีก แล้วก็เดินจากไปอย่างเลือดเย็น ปล่อยให้เชนร้องไห้น้ำตาไหลพรากหยดเป็นเม็ดๆ เห็นแล้วขนลุกซู่ สงสารเชนสุดหัวใจ ต้องขอปรบมือให้เชนไปเต็มๆ เลยกับฉากนี้ เชนเล่นได้เข้าถึงอารมณ์มากๆ รับรองว่าฉากนี้ออกอากาศต้องเรียกคะแนนสงสารจากสาวๆ ได้แน่นอนจ้า

ติดตามชมฉากเรียกน้ำตาของหนุ่มเชนฉากนี้ได้ในละคร “ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง” ออกอากาศวันศุกร์ ที่ 1 มีนาคม 2556 หลังข่าวภาคค่ำ ทางช่อง 7



**************************************************************
นายประสิทธิ์ วิชเวทย์  (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) และคุณอังกาบภรรยา ถึงแก่กรรมพร้อมๆ กันด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ บุตรชายหญิง ๓ คน จึงต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิต เพราะจากหน้าฉากร่ำรวยเป็นเจ้าของกิจการบริษัทรัตนกิจก่อสร้าง มีบ้านใหญ่โต ความเป็นอยู่หรูหรา ชื่อ “มโนรมย์” กลายเป็นมีหนี้สินจำนวนมหาศาล หนำซ้ำบ้านยังติดจำนองอยู่ในธนาคาร

อสิต (ณัฐวัฒน์  เปล่งศิริวัธน์) พี่ชายคนโต แต่งงานกับ ลลิตา (ธัญยกันต์ ธนกิตต์ธนานนท์) ได้เข้ามาดูแลกิจการของบริษัท อรชา (ภัสสราภร คนคำแหง) น้องสาวคนรอง ช่วยดูแลกิจการในบ้าน ส่วน อนุช (ดาวิกา โฮร์เน) น้องสาวคนสุดท้องกำลังเรียนหนังสือที่ประเทศอังกฤษ อสิตได้ปรึกษาน้องๆ ด้วยการตกลงกันว่าจะขายเครื่องเพชรมูลค่าสูงลิ่วที่มารดาได้สะสมไว้ เพื่อมาดำรงเกียรติยศของตระกูล “วิชเวทย์” ต่อไป ซึ่งทุกคนก็เห็นดีด้วย

แต่เดิม อนุชได้ไปเรียนหนังสือที่ประเทศอังกฤษด้วยทุนทรัพย์ของบิดา ต่อมาเมื่อสถานการณ์การเงินเปลี่ยนแปลง อนุชคิดจะกลับเมืองไทย เพราะไม่มีเงินเรียน แต่อนุชบอกตัวเองว่าอย่าเพิ่งยอมแพ้ เธอจึงประกาศหาผู้อุปการะ และก็ได้รับความช่วยเหลือจากชายสูงอายุคนหนึ่งในประเทศไทย ในนามของ “ป๋า” ด้วยเหตุผลว่าลูกสาวที่ตายไป ชื่อ “นุช” เหมือนกัน

ลลิตา พี่สะใภ้เป็นคนอารมณ์ดี ใจเย็น นั่นคือเปลือกภายนอก แต่ไม่มีใครรู้ว่าภายในจิตวิญญาณของเธอเป็นคนร้อนแรงเสน่ห์ ไม่สนใจในศีลธรรมของความผิดชอบชั่วดี เธอทำทุกอย่างตามใจที่เธอปรารถนาทั้งสิ้น เธอใช้เงินเป็นเบี้ยเหมือนอสิต และเช่นเดียวกับอรชาที่จะต้องทำตัวเชิดๆ เริดๆ ระเหิดระหงในวงสังคมชั้นสูงอยู่เสมอ ครอบครัวนี้จึงต้องอยู่กับภาพลวงตาที่ต่างสร้างขึ้นมาหลอกตัวเอง

ชายหนุ่มนาม กร้าว ศุภกาญจน์ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นหัวข้อสนทนาของสมาชิกบ้าน “วิชเวทย์” ว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีหนุ่มโสดและหน้าตาดีมาก เขากำลังจะทำสัญญาว่าจ้างบริษัทรัตนกิจก่อสร้างให้รับเหมาสร้างโรงแรมชั้นหนึ่ง มูลค่าหลายร้อยล้านบาท ทุกคนมุ่งหวังงานใหญ่ชิ้นนี้ และตื่นเต้นกับคุณสมบัติครบสูตรของ กร้าว ศุภกาญจน์ โดยหารู้ไม่ว่า ความหายนะกำลังจะเข้ามาเยี่ยมเยียนโดยชายหนุ่มผู้นี้เป็นผู้นำมา

เมื่อทุกคนได้พบกับ กร้าว ศุภกาญจน์ เป็นครั้งแรก แต่ละคนต่างมีความรู้สึกแตกต่างกันไป อสิตมีความหวังว่าจะได้งาน จึงพยายามเอาอกเอาใจชายหนุ่มอย่างเปิดเผย อรชาพบว่า กร้าว ศุภกาญจน์ มีกิริยาประหลาดกับเธอ เพราะเขาไม่สนใจความสาวความสวยของเธอ จนทำให้เธอขุ่นใจ และคนสุดท้ายคือ ลลิตาถึงกับตกใจแทบลืมหายใจ เพราะ กร้าว ศุภกาญจน์ ช่างคล้ายคลึงหรือแทบจะเป็นคนเดียวกับ ชีวิน โชคภักดิ์ ผู้ชายที่เธอเคยลักลอบได้เสียกับเขาเมื่อ ๖ ปีที่แล้ว เมื่อเธอเบื่อก็สลัดทิ้งอย่างไม่ไยดี ชีวินผิดหวัง ใช้ชีวิตล่องลอยไร้ทิศทางจนตายจากไป ลลิตาเฝ้าบอกกับตัวเองว่าชีวินตายไปแล้ว ไม่มีวันตามมาทวงถามความรักความหลังได้อีก แต่สิ่งที่ “วิชเวทย์” ทุกคนพบจาก กร้าว ศุภกาญจน์ คือสีหน้าเยาะหยัน สายตาหมิ่นแคลน และวาจาสุภาพแต่เชือดเฉือนอย่างมีนัย

อนุช “วิชเวทย์”  กลับจากประเทศอังกฤษพร้อมกับ กรวิก พัชรกุล (อธิชนัน ศรีเสวก) เพื่อนรักที่เรียนหนังสือด้วยกัน ครอบครัว “วิชเวทย์” ไปรับอนุช และช่างบังเอิญเหลือเกินที่ กร้าว ศุภกาญจน์ ไปรับกรวิก เพราะกรวิกเป็นลูกสาวของประเวชและกาญจนา (ขวัญฤดี กลมกล่อม) เพื่อนรักรุ่นพี่ของ กร้าว ศุภกาญจน์ ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่เวลาต่อมา กร้าว ศุภกาญจน์ ได้พบอนุชที่บ้านกรวิกอยู่เสมอ อนุชก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกับ “วิชเวทย์” คนอื่นๆ พบว่า กร้าว ศุภกาญจน์ ช่างเป็นคนลึกลับ แปลกประหลาดและเย็นชา กร้าว ศุภกาญจน์ กระด้างสมชื่อ แต่หากถ้าอนุชได้ยินคำพูดในใจของ กร้าว ศุภกาญจน์ ที่พูดถึงเธอแล้ว เธอคงจะตกใจที่สุด เพราะคำพูดนั้นคือ กร้าว ศุภกาญจน์ จะต้องทำลายเพื่อนรักของกรวิกให้ตกจมธรณีให้ได้

เวลาต่อมา อนุชไม่สามารถตัดความคิดคำนึงต่อ กร้าว ศุภกาญจน์ ไปได้ เธอเฝ้าคิดถึงนัยน์ตาคมกล้าจนกลายเป็นดุดัน เธอรู้สึกว่ามันมีอำนาจทำให้เธอกลัวและหวั่นไหวอย่างประหลาด และที่สำคัญ ความรู้สึกของเธอต่อชายธง (วีรดนย์ หวังเจริญพร) ชายคนรักของเธอ ที่เธอเริ่มเปลี่ยนแปลงไม่เหมือนเดิม แม้ชายธงจะให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอ แต่อนุชปฏิเสธว่ายังไม่พร้อม ชายธงผิดหวังและงุนงงต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันของอนุช ซึ่งนายเธียร (ตฤณ เศรษฐโชค) นายธนาคารใหญ่ พ่อของชายธงกลับพอใจในการตัดสินใจของอนุช และยังบอกลูกชายอีกว่าอย่ายุ่งเกี่ยวกับพวก “วิชเวทย์” เพราะคนในสกุลนี้น่ารังเกียจ โดยเฉพาะนายประสิทธิ์ พ่อของ “วิชเวทย์” ทั้งสาม ที่มีพฤติกรรมที่เปรียบเสมือนสัตว์ป่าดีๆ นั่นเอง

นั่นเป็นเพราะนายเชียรเป็นเพื่อนกับญาติของคนที่นายประสิทธิ์ได้เคยกระทำไว้

โลกช่างกลมจริงๆ เพราะ นายชาติ นิติชัย (ชลิต เฟื่องอารมณ์) หรือ “ป๋า” ของอนุช คือลุงของ กร้าว ศุภกาญจน์ กำลังหาคนมาดูแลเพราะสุขภาพไม่ดี กร้าว ศุภกาญจน์ แนะนำให้นายชาติบอกอนุชหาคนมาทำหน้าที่นี้ แต่อนุชหาใครไปทำหน้าที่นี้ไม่ได้ จึงคิดจะไปเสียเอง โดยไม่รู้เลยว่า ณ ที่นั้น กร้าว ศุภกาญจน์ กำลังรอเธออยู่

กร้าว ศุภกาญจน์ หันมาทำตามแผนกับผู้หญิงคนต่อไป คือ อรชา วิชเวทย์ อสิตให้อรชามาหา กร้าว ศุภกาญจน์ เพื่อถามเรื่องสัญญาการก่อสร้างโรงแรม กร้าว ศุภกาญจน์ ล่วงเกินอรชา เขากอดและจูบอรชาอย่างรุนแรง อรชางุนงงและไม่เข้าใจว่าทำไม กร้าว ศุภกาญจน์ ถึงหยาบคายกับเธอเช่นนั้น

ต่อจากนั้น กร้าว ศุภกาญจน์ เดินทางไปพิษณุโลก ไปหานายชาติผู้เป็นลุง เขาพบอนุช และเช่นเดียวกัน เขาแสดงกิริยาหยาบหยามอนุช ทำให้อนุชเพิ่มความเกลียดชัง กร้าว ศุภกาญจน์ ยิ่งขึ้น วันหนึ่ง อนุชเดินเล่นในบริเวณไร่ เธอตกใจแทบสิ้นสติเมื่อเผชิญหน้ากับงูตัวใหญ่ในระยะกระชั้นชิด เสียงปืนดัง และงูตัวนั้นตกจากกิ่งไม้ตายคาที่ กร้าว ศุภกาญจน์ นั่นเองที่ยิ่งงูตาย และอุ้มอนุชที่ตกใจกลัวจนหมดสติกลับบ้าน อนุชเป็นไข้สูง กร้าว ศุภกาญจน์ ต้องดูแลพยาบาลอย่างใกล้ชิด ความน่ารักของอนุชทำให้ กร้าว ศุภกาญจน์ หวั่นไหว แต่เขาพยายามหักห้ามความรู้สึกดีๆ ที่มีต่ออนุช คอยเตือนตนเองอยู่เสมอว่าเขาต้องแก้แค้น เขาทำให้อนุชไม่เข้าใจมากขึ้นกับพฤติกรรมแปลกๆ ของเขาที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย

สถานการณ์การเงินของอสิตย่ำแย่ยิ่งขึ้น เจ้าหนี้ต่างมาทวงเงิน หากไม่ได้เงินกลับไปก็จะยึดบ้านมโนรมย์ของพี่น้อง “วิชเวทย์” เมื่อ กร้าว ศุภกาญจน์ รู้ เขายื่นมือเข้าช่วยเหลือโดยจ่ายเงินจำนวนยี่สิบล้านบาทให้ไถ่ถอนบ้าน ซึ่งเท่ากับบ้านได้เปลี่ยนมือไปเป็นของ กร้าว ศุภกาญจน์ เหตุการณ์ยิ่งเลวร้ายมากขึ้น เมื่ออสิตถูกรถชนอาการสาหัส เหตุการณ์นี้ทำให้ กร้าว ศุภกาญจน์ เข้าไปใกล้ชิดกับลลิตา ซึ่งเขาวางไว้เป็นศัตรูคนต่อไปที่เขาต้องจัดการ เขาไปพบลลิตาพร้อมทั้งคอยหยอดคำหวานอันมีนัยกับลลิตาเสมอ ลลิตาผู้ไม่แคร์ต่อศีลธรรมข้อใดๆ ได้รอคอยวัน เวลาที่จะเกิดขึ้นตามการวางหมากของ กร้าว ศุภกาญจน์ โดยเธอไม่รู้แผนการณ์นี้เลย

ดังนั้น เวลานี้ ผู้หญิงทุกคนใน “วิชเวทย์” จึงเสมือนตกอยู่ในเวทมนตร์ของ กร้าว ศุภกาญจน์ พวกเธองุนงง สงสัยและไม่เข้าใจ แต่ กร้าว ศุภกาญจน์  กลับกำลังครุ่นคิดคำนึงถึงกรวิก กร้าว ศุภกาญจน์ บอกกับตัวเองว่าเขารักกรวิก ถ้าเขาแก้แค้นพวก “วิชเวทย์” เรียบร้อย เขาจะแต่งงานกับกรวิกทันที เขารู้ดีว่ากรวิกมีใจตรงกับเขา และแน่นอน ความรู้สึกในใจของทั้ง กร้าว ศุภกาญจน์ และกรวิก ไม่รอดพ้นสายตาของอนุชไปได้ อนุชรู้ดีว่าเพื่อนรักของเธอหลงรัก กร้าว ศุภกาญจน์ หมดหัวใจ อนุชอยากจะมั่นใจว่า กร้าว ศุภกาญจน์ เองก็รักกรวิกเช่นกัน แม้ว่าบางครั้งอนุชจะหวั่นไหวกับสายตาประหลาดของ กร้าว ศุภกาญจน์ ที่มองเธอในยามเผลอตัวก็ตาม

อสิตต้องใช้เงินจำนวนมากมารักษาตัว กร้าว ศุภกาญจน์ จ่ายเงินก้อนใหญ่ให้กับอรชาที่จำใจต้องรับไว้ กร้าว ศุภกาญจน์ จ่ายเงินอีกจำนวนหนึ่งให้ลลิตาด้วย อรชาออกไปทำงานเพื่อหารายได้มาช่วยค่าใช้จ่ายในบ้าน อนุชให้อรชาหางานให้ด้วย หลังจากที่เธอได้ดูแล “ป๋า” จนหายดีแล้ว และเธอก็ได้ลาออกจากงานนั้นแล้วด้วย เพราะเธอละอายที่จะใช้เงินของ “ป๋า” อีกทั้งเธอก็ไม่สามารถทนการถูกสายตาเยาะเย้ยและคำพูดดูถูกของ กร้าว ศุภกาญจน์ ในที่สุด อรชาก็ได้พูดกับสุรางค์ เพื่อนสนิทให้รับอนุชเข้าทำงานในบริษัทของตน แต่อนุชรู้ว่าสุรางค์เป็นญาติสนิทของชายธง เพื่อหลีกเลี่ยงการต้องพบกับชายธง อนุชจึงตัดสินใจทำงานกับ กร้าว ศุภกาญจน์ ที่รู้เรื่องนี้และกำลังชักชวนอนุชให้มาทำงานที่บริษัทของเขาอยู่พอดี

กร้าว ศุภกาญจน์ บอกตัวเองว่าถึงเวลาแล้วที่จะเริ่มทำตามแผนที่วางไว้ เพราะขณะนี้ผู้หญิงทั้งสามคนของ “วิชเวทย์” อยู่ในเส้นทางแก้แค้นของเขาแล้วคนแรก ลลิตา วิชเวทย์ กร้าว ศุภกาญจน์ ทำให้ลลิตาพร้อมที่จะเป็นชู้กับเขา ความสัมพันธ์คืบหน้าไปจนเกือบสุดหนทาง กร้าว ศุภกาญจน์ หยุดระหว่างทาง ทำให้ลลิตาที่กำลังเคลิบเคลิ้มเต็มที่ต้องเสียอารมณ์หนัก พฤติกรรมระหว่าง กร้าว ศุภกาญจน์ และลลิตานั้น เผอิญมีผู้รู้เห็น ไม่ใช่ใครเลย ชายธงนั่นเอง เขานำเรื่องราวเหล่านี้มาบอกกับอนุช อนุชทั้งเกลียดทั้งเศร้าใจต่อพฤติกรรมของทั้งสองคน แต่เห็นแก่อสิตที่กำลังนอนเจ็บป่วยอยู่ จึงยังไม่จัดการอะไรทั้งสิ้น

กร้าว ศุภกาญจน์ ทำให้ลลิตาเพ้อฝันว่าจะได้ร่วมชีวิตกับเขา โดยการเสนอให้ลลิตาหย่าจากอสิต และหมายมั่นที่จะเป็นคู่ชีวิต กร้าว ศุภกาญจน์ ให้ได้

คนที่สอง อรชา วิชเวทย์ กร้าว ศุภกาญจน์ พาตัวเข้ามาใกล้ชิดอรชา เขาติดพันซื้อของให้ และป้อนคำหวานจนอรชาเริ่มจะไขว้เขว ความเกลียดค่อยๆ จางลง กร้าว ศุภกาญจน์ บอกให้อรชาเลิกคบปรารภ (วัชรบูล ลี้สุวรรณ) ผู้ชายที่อรชายอมให้ได้ชื่อว่า “คนรัก” อย่างเด็ดขาด ซึ่งอรชาก็เชื่อและยอมทำตามคำของ กร้าว ศุภกาญจน์ ทั้งที่ปรารภเป็นคนดีมาก เขาดูแลเอาใจใส่อรชาทุกด้าน ตั้งแต่อาหาร เสื้อผ้า สิ่งของต่างๆ ที่อรชาต้องการแล้วจะไม่ได้ รวมทั้งการคิดการตัดสินใจต่างๆ แต่อรชากลับไม่ชอบไม่รักผู้ชายที่ดีอย่างปรารภ เธอเฝ้าคิดถึง กร้าว ศุภกาญจน์ ผู้ชายที่ดุดัน ก้าวร้าว กักขฬะ จู่โจมล่วงเกินเธอในทุกครั้งที่มีโอกาส

อนุชพูดกับ กร้าว ศุภกาญจน์ ตรงๆ ว่าเลิกติดต่อกับพี่สาวและพี่สะใภ้ของเธอเสียที กร้าว ศุภกาญจน์ ถามถึงข้อแลกเปลี่ยน อนุชบอกให้ กร้าว ศุภกาญจน์ เสนอมา เมื่อ กร้าว ศุภกาญจน์ เสนอข้อตกลง อนุชตะลึงงัน เพราะเขาเสนอให้เธอแต่งงานกับเขา อนุชตอบรับเพราะไม่ต้องการให้อสิตต้องเสียใจ และเพื่อช่วยเหลืออรชา เพราะอรชาเคยแสดงตัวตลอดเวลาว่าเกลียด กร้าว ศุภกาญจน์ เข้ากระดูกดำ แต่ตอนนี้กลับมาเป็นรักมากที่สุด ไม่ยอมให้ใครมาแย่ง กร้าว ศุภกาญจน์ มาจากเธอได้

สิ่งที่ตามมาคือ ลลิตาโกรธแค้นจนแทบด่าวดิ้น เธอรัก กร้าว ศุภกาญจน์ จนไม่ลืมหูลืมตา และไม่ประหยัดกิริยาและวาจากับสามีผู้นอนป่วย อสิตเสียใจมากที่สุด ส่วนอรชาก็รู้สึกทั้งเสียใจและโกรธแค้นมากเช่นกัน ซึ่งผู้หญิงทั้งสองคนหาทางออกเดียวกันคือ พยายามนำตัวไปเสนอกับ กร้าว ศุภกาญจน์ ซึ่งเขายอมมีความสัมพันธ์กับลลิตา แต่ละเว้นอรชาไว้ ทำให้อรชาละอายในพฤติกรรมของตนเอง และต่อมาอรชาเมื่อรู้ว่าไม่ได้ กร้าว ศุภกาญจน์ อย่างที่หวังไว้ เธอจึงประชดชีวิตด้วยการตัดสินใจแต่งงานอย่างเงียบๆ กับปรารภ

อนุชแต่งงานกับ กร้าว ศุภกาญจน์ กรวิกเสียใจมาก หนีไปประเทศอเมริกาพร้อมพ่อแม่ กร้าว ศุภกาญจน์ ขอเวลา ๑ ปี ที่เขาจะหย่ากับอนุช แต่ต่อมาเขากลับระงับความต้องการไม่ได้ จึงใช้กำลังข่มขืนอนุชให้เป็นภรรยา อนุชผิดหวังเสียใจ หวาดกลัวเขามาก จน กร้าว ศุภกาญจน์ ตัดสินใจเล่าเหตุผลที่เขาต้องทำกับ “วิชเวทย์” เช่นนี้ เพราะแม่ของเขาถูกพ่อของอนุชข่มขืน แม้ว่าตอนนั้นแม่มีเขาแล้ว แม่เจ็บแค้นแสนสาหัส และในที่สุดเสียจริตและจากโลกนี้ไป ในขณะที่เขายังเด็กอยู่มาก อนุชฟังแล้วรู้สึกว่าเธอไม่มีทางเลือกเลย

หลังจากที่อนุชได้รู้ความจริงแล้ว กร้าว ศุภกาญจน์ ก็ยังทรมานอนุชโดยวิธีนานาสารพัน ทั้งวาจา ทั้งการกระทำ ดังนั้นอนุชจึงเสมือนลูกไก่ในกำมือของ กร้าว ศุภกาญจน์ เขาจะบีบก็ตายจะคลายก็รอด และส่วนใหญ่เขาบีบเธอแทบตลอดเวลา โดยไม่รู้เลยว่าขณะที่เขาทำหน้าเคร่ง นัยน์ตาดุดัน และทั้งกอดทั้งจูบเธอโดยอ้างว่าแก้แค้น นั่นแหละคือเขากำลังรักเธอมากขึ้นทุกวัน

ลลิตาตามมาบอก กร้าว ศุภกาญจน์ ว่าหย่ากับอสิตแล้ว และยังคิดถึงความสัมพันธ์กับ กร้าว ศุภกาญจน์ เสมอ เช่น ณ เวลานี้ ลลิตาพยายามยั่วยวนให้ กร้าว ศุภกาญจน์ รักเธออีกครั้ง กร้าว ศุภกาญจน์ ทั้งโกรธ ขยะแขยง จึงตวาดด่าว่าลลิตาอย่างรุนแรง หนำซ้ำยังถามลลิตาอีกว่า ยังจำชีวินได้หรือไม่ ชีวิน คนที่เธอหักอกเขายับเยิน ชีวินเป็นน้องชายของเขา ชีวินเสียใจจนต้องฆ่าตัวตาย จากนั้น กร้าว ศุภกาญจน์ ก็ยังพูดเยาะเย้ยใส่หน้าลลิตาว่า ผู้หญิงอย่างเธอไม่มีค่าไม่มีราคา ขอให้ออกไปจากทางชีวิตของเขาได้แล้ว ลลิตาทั้งเจ็บทั้งอายทั้งโกรธแค้นที่ถูกหลอก ทำให้ชีวิตของเธอต้องพังภินท์

และแล้วเสียงปืนก็ดังขึ้นติดๆ กันทั้งสามนัด ร่างของ กร้าว ศุภกาญจน์ เซไปโดยแรง ด้วยการถูกโถมเข้าชนร่างของใครคนหนึ่ง กร้าว ศุภกาญจน์ แทบเป็นบ้า เมื่อเห็นร่างของอนุชที่ฟุบจมกองเลือด อนุชขอปืนจากลลิตา ขอสัญญาให้บอกตำรวจว่าอนุชทำปืนลั่นเอง

เวลาต่อมา กร้าว ศุภกาญจน์ ต้องเสียน้ำตาให้แก่ลูกสาวศัตรู ไม่รู้วันละกี่หน กำลังใจทั้งหมดได้ถ่ายทอดไปให้อนุช ที่มีอาการเป็นตายเท่ากัน

เวลาผ่านไป ชีวิตของทุกคนเปลี่ยนผันไปตามกาลเวลา อรชากำลังจะให้กำเนิดทายาทคนแรก อสิตเมื่อหายป่วยและรู้เรื่องราวทั้งหมด ตัดสินเดินทางไปประเทศอเมริกา และเวลานี้เขากำลังหาประสบการณ์ของงานใหม่ในประเทศอเมริกาอยู่ ลลิตาถูกศาลตัดสินจำคุกในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา อนุชหายเป็นปกติ และเธอก็ยังคงพูดอยู่เสมอว่า เวลาของเธอใกล้จะหมดแล้ว กรวิกคงจะกลับมาในไม่ช้า เพื่อแต่งงานกับ กร้าว ศุภกาญจน์ ตามที่ได้สัญญาไว้

วันหนึ่ง จดหมายของอสิตได้ส่งมาถึงอนุชว่า พบกรวิกที่นิวยอร์ก ท่าทางสดใส ไม่มีร่องรอยว่าจะอกหัก อาจเป็นเพราะหนุ่มนักเรียนไทยที่ชื่อ เอกภพ ธงชัย อนุชเสียใจกับ กร้าว ศุภกาญจน์ ที่ผิดหวัง แต่ กร้าว ศุภกาญจน์  กลับบอกว่าแค่คิดว่ารักเท่านั้น ความจริงเขารักนางฟ้าที่ชื่ออนุชต่างหาก และเขารู้และแน่ใจว่า วันนั้น วันที่เขาถูกลลิตายิง แล้วนางฟ้าองค์นั้นได้ช่วยชีวิตเขา ก็รักซาตานอย่างเขาเช่นกัน


*********************************************************************
 
…............................

แกลลอรีร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง