เดินทางมาถึงภาคที่ 5 กับ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ยุทธหัตถี” โดยครั้งนี้กลับมาสร้างความยิ่งใหญ่ไม่แพ้กับภาคอื่นๆ เพราะภาคนี้มีการนำเสนอเรื่องราวสงครามการทำยุทธหัตถีที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งประวัติศาสตร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย หม่อมเจ้า ชาตรี เฉลิมยุคล และยังได้นักแสดงมากคุณภาพอย่าง ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ กับบท มณีจันทร์ มเหสีคู่ชีวิต ที่มีความกล้าหาญ และคอยอยู่เคียงข้าง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่รับบทโดย วันชนะ สวัสดี อยู่เสมอ นอกจากนักแสดงจะมีคุณภาพแล้ว ทีมงานอีกนับพันชีวิตก็เป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมกันทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สมบูรณ์แบบและเป็นที่พูดถึงในวงกว้างเป็นอย่างมาก

เรื่องราวของแผ่นดินกรุงศรีอยุธยากำลังจะลุกเป็นไฟอีกครั้ง เมื่อ พระเจ้านันทบุเรง (จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์) ทรงพ่ายแพ้การทำสงครามให้แก่ สมเด็จพระนเรศวรฯ (วันชนะ สวัสดี) จนทำให้ใบหน้าถึงกับเสียพระสิริโฉม หลังจากเหตุการณ์นั้น พระเจ้านันทบุเรง รู้สึกโกรธและเครียดแค้นมาก จึงได้มาระบายความแค้นกับ พระสุพรรณกัลยา (เกรซ มหาดำรงค์กุล) พระพี่นางของ พระนเรศวรฯ ที่กำลังตกเป็นองค์ประกันอยู่ในขณะนั้น จนทำให้พระพี่นางถึงกับเลือดตกยางออก เมื่อสมเด็จพระมหาธรรมราชา พระราชบิดาทราบความก็โมโหมาก และรู้สึกผิดเมื่อพระราชธิดาและบ้านเมืองต้องตกอยู่ในเหตุการณ์เช่นนี้ก็เป็นเพราะว่าตนเอง จึงได้ตรอมใจและตายไปในที่สุด หลังจากนั้น สมเด็จพระนเรศวรฯ ได้เสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติครองกรุงศรีอยุธยาต่อจากพระราชบิดา และเมื่อพระเจ้านันทบุเรง ได้ทราบเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงการปกครองของกรุงศรีอยุธยา จึงถือโอกาสบุกไปตีกรุงศรีอยุธยาอีกครั้ง แต่ด้วยความเฉลียวฉลาดของ สมเด็จพระนเรศวรฯ จึงได้นำช้างทรงโปรดของพระองค์วิ่งฝ่าเข้าไปในทัพพม่ารามัญ เพื่อเข้าไปท้าอุปราชหงสามาทำยุทธหัตถีเพื่อให้เป็นเกียรติแก่แผ่นดิน สุดท้ายแล้วสมเด็จพระมหาอุปราชาก็ต้องพ่ายแพ้และสิ้นพระชนม์จากการทำยุทธหัตถีในครั้งนี้  และทัพหงสาก็ได้ถอยทัพและนำพระศพพระมหาอุปราชากลับคืนบ้านเกิด

ม.จ.ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล กำกับการแสดง