เจ้าหญิงแตงอ่อน
เจ้าหญิงแตงอ่อน
 

เจ้าหญิงแตงอ่อน

ละครพื้นบ้าน เสาร์-อาทิตย์ เวลา 8.15 น.

บทประพันธ์ : บทโทรทัศน์ :

ด.ช.ชญานิน เต่าวิเศษ

เรื่องย่อเจ้าหญิงแตงอ่อน

วันอาทิตย์ที่ 20 ม.ค.56 ตอน 40

ทางด้านจันทร์วดี เห็นอาการพระมเหสีรัศมีเทวีไม่สู่ดี นางตัดสินใจปลอมเป็นยายแก่ลอบเข้าวังตะนูวดีเพื่อชำระความไวยราชลูกอกตัญญู  ระหว่างทางได้ยินอสูรดำกับฤทธิเดชอำมาตย์ชั่วหารือเรื่องที่จะให้องค์ไวยราชลุ่มหลงสุราสะสมความคั่งแค้นเพื่อจะได้กลายเป็นปีศาจ  จันทร์วดีในร่างหญิงชราขันอาสาปรุงสุราถวาย นางจึงรอดตายจากเหล่าอสูร

เจ้าชายไพรงาม กับ หมื่นจวงจันทร์ เดินทางกลับมายังทางสามแพร่ง เส้นทางของเหล่าสัมภเวสีอีกครั้ง! ตกดึก..ภูตผีปีศาจออกอาละวาด แต่ก็สยบลงได้เพราะผลบุญที่เจ้าชายไพรงามอุทิศให้

เจ้าแม่พฤกษาให้เมตตาต่อเจ้าหญิงแตงอ่อนที่กำลังตกระกำลำบาก ประทานผ้าห่มทองคำห่มกายคลายหนาวเพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อ  เช้าวันรุ่งขึ้น..เกตุทิพย์บดีขี่มังกรไฟบินผ่านป่าทึบพบสถูปร้าง  กุมารน้อยได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ!  

ติดตามชมละครจักรวงศ์ เรื่องใหม่  “เจ้าหญิงแตงอ่อน” ทุกเช้าวันเสาร์-อาทิตย์ เวลาดี 08.15 น. ทางช่อง 7 สี  พร้อมทั้งติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง www.samsearn.com

---------------------------------------------------

วันเสาร์ที่ 19 ม.ค. 56  ตอน 39


เจ้าหญิงแตงอ่อนให้การเลี้ยงดูปทุมธิดาดุจลูกยา  ทั้งรอคอยที่จะได้รับโอรสน้อยในอุทร  หากแต่เคราะห์กรรมยังไม่สิ้น นางยักขมูขียังคงชิงชังลวงแตงอ่อนไปยังสถูปร้างเพื่อกักขังนางเอาไว้

หลังพ่ายแพ้แก่เจ้าชายไพรงาม และกุมารน้อยเกตุทิพย์บดี นกยักษ์วายุภักษ์ได้พาร่างสะบักสะบอมไปเข้าพวกกับอสูรดำผู้เป็นสหาย  เมื่อได้เจ้านกยักษ์เป็นกำลังเสริม องค์ไวยราชก็ได้ยกพลบุกโจมตีโกสีย์นครที่เจ้าชายไวกรูย์พำนักอยู่ 

เจ้าชายไวกรูย์ขอกำลังพลจากท้าวทศนัยตั้งค่ายธนูไฟเพื่อรับมืออสูรร้าย และก็เป็นจริงดังคาดองค์ไวยราชตามมาคิดบัญชีแค้น แต่หมู่มารก็พ่ายกลับไปรวมถึงองค์ไวยราชที่ถูกฟันเข้าที่ใบหน้าเป็นครั้งที่สอง

เมื่อรู้ว่าเจ้าชายไพรงามกำลังออกตามหาลูกเมีย  เกตุทิพย์บดีจึงตัดสินใจบอกความจริงว่าตนนั้นเป็นโอรส หากแต่เจ้าชายไพรงามคิดว่ากุมารน้อยล้อเล่น ทำให้เกตุทิพย์บดีหนีไปด้วยความน้อยใจ
--------------------------------------------------

วันอาทิตย์ที่ 13 ม.ค. 56 ตอน 38


คืนหนึ่ง...ท้าวรณชิตฝันสยองว่าเมียรักกลายร่างยักษ์น่าเกลียดน่ากลัวคิดจะจับพระองค์บีบให้ตายคามือ ครั้นพอรุ่งเช้าก็ให้โหราจารย์ทำนายฝันว่าดีร้ายประการใด ยังไม่ทันที่โหรจะกล่าว  มเหสียักษ์กับนางขมูขีก็รีบเท็จทูลว่านางในฝันนั้นเป็นกาลกิณีให้รีบขับไล่ออกจากเมือง  โดยสองนางยักษ์หารู้ไม่ว่านางในฝันของพญายักษ์นั่นคือ เลื่อมลายวรรณนั่นเอง! เลยเข้าตำราให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว

ฝ่ายวายุภักษ์บินกลับมารุกรานเมืองเด็กกำพร้าด้วยความคั่งแค้น  สิ้นคำสั่งโจมตีของไพรงามเจ้าชายผู้กล้า เด็กๆ ก็ระดมยิงกระสุนดินใส่นกยักษ์  มังกรไฟที่เกตุทิพย์บดีกับพวกขี่หลังบินผ่านมาถูกลูกหลง  ร่างมังกรไฟร่วงสู่พื้นดิน เกตุทิพย์บดีเฝ้าดูการกระทำที่แสนเกเรของวายุภักษ์  พญาปักษีไม่สามารถจับเด็กๆ กินได้ เพราะมีเจ้าชายไพรงามคอยให้การช่วยเหลือ

---------------------------------------------------

วันเสาร์ที่ 12 ม.ค. 56 ตอน 37

เจ้าชายไพรงาม เลือกทางเดินสามแพร่งอีกครา ครั้งสองพลัดเข้าสู่ป่าเมืองเด็กกำพร้า ก่อนผ่านหุบเขาลึกลับพบพ่อค้าอาข่าน และพวกปรากฏตัวพร้อมกล่าวปริศนาให้ขบคิด ครั้งแรกรอดชีวิตมาได้เพราะความซื่อสัตย์ ส่วนครั้งสองจะรอดพ้นได้เพราะพลังแห่งคุณธรรม

เจ้าชายไพรงาม หมื่นจวงจันทร์ ช่วยเด็กๆ ขับไล่ “วายุภักษ์” พญาปักษีที่คอยมารังควาญจับมนุษย์กินเป็นอาหาร  กลุ่มเด็กกำพร้าร้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าชายผู้กล้า เพราะรู้ว่าพญาปักษีที่เคยจับพ่อแม่ของพวกตนกินนั้นจะต้องกลับมาแก้แค้นเป็นแน่   เจ้าชายไพรงามแนะให้เด็กรวมพลังสามัคคีช่วยกันตั้งค่ายกล ปั้นกระสุนดินไว้รับมือกับพญาปักษีจอมเกเร

ทางด้านนางยักษ์ขมูขี ยังคงยุยงให้มเหสีเลื่อมลายวรรณหาทางกำจัดแตงอ่อน วางแผนข่มขู่ให้โหราจารย์ทำนายทายทักว่านางมนุษย์นั้นเป็นกาลกิณีต่อรณชิต

---------------------------------------------------

วันอาทิตย์ที่ 6 ม.ค. 56 ตอน 36

ชะตาฟ้ากำหนดให้เจ้าชายไพรงามพบพักตร์เวฬุราในยามฝนพรำ ทำให้ทั้งสองมีโอกาสใกล้ชิดกัน  และก่อนที่จะมีอะไรเกินเลย  พลันเกิดฟ้าผ่า..ไพรงามระลึกรู้ว่ามิควรทรยศต่อความรักของแตงอ่อนอีก 

ในกาลต่อมา “วิรูปักษ์” นาคราชตามทวง“เวฬุรา”ธิดาคืน  จังหวะที่เข้าจู่โจมหมายปลิดชีพมนุษย์หนุ่ม  “เวฬุรา”พุ่งตัวเข้ามารับดาบตายแทนไพรงาม วิรูปักษ์ยิ่งคลั่งแค้น แต่แล้วก็ถูกหมื่นจวงจันทร์พุ่งดาบปักทรวงพญานาคราชสิ้นใจล้มลง

ยิ่งได้พูดคุย ไวกรูย์ ยิ่งคุ้นกลิ่นกายเด็กน้อย“เกตุทิพย์บดี” และสอบถามถึงการมาเยือนโกสีย์นคร เกตุทิพย์บดี ตอบได้เพียงว่ามาตามหาพ่อ แล้วก็ต้องรีบยังรุดไปช่วยไวกรูย์ปราบอสูรกวนเมือง  กุมารน้อยเป่าปากเรียกมังกรไฟมาสยบอสูร พร้อมทั้งส่งร่างผู้บุกรุกกลับไปตกยังหน้าบัลลังก์องค์ไวยราช   เสร็จภารกิจเกตุทิพย์บดี ยักษ์ปักหลั่น และเจ้าหนอน  ก็ขี่มังกรไฟจากไป

---------------------------------------------------

วันเสาร์ที่ 5 ม.ค. 56 ตอน 35

เจ้าชายไวกรูย์ให้อาหารแก่ยักษ์ปักหลั่นกับเกตุทิพย์บดี  ส่วนตัวนั้นกินหญ้าเพราะไม่ปรารถนาข้าและน้ำ เพื่อจะได้ไม่ต้องเป็นหนี้บุญคุณเจ้าเมืองโกสีย์!

พอพลบค่ำ “เวฬุรา” คืนร่างเป็นนางพญานาคเลื้อยมาแอบดู “ไพรงาม”เจ้าชายรูปงามด้วยจิตพิศวาสคิดอยากจะเป็นคู่สู่สมเพื่อที่นางจะได้มีร่างมนุษย์ถาวร 

ในยามคับขันที่เหล่าอสูรดำบุกโกสีย์นคร  องศ์ทศนัยเจ้าเมืองได้ประจักษ์ถึงฝีมือเก่งฉกาจของไวกรูย์บุรุษมาดขรึม คิดจะมอบยศศักดิ์ให้รับราชการ แต่ไวกรูย์มิใยดีขอเป็นคนเลี้ยงม้าต่อไป

---------------------------------------------------

วันอาทิตย์ที่ 16 ธ.ค.55  ตอน  30

ระหว่างพักแรมกลางป่า เจ้าหญิงแตงอ่อนอาสาตักน้ำให้องค์ไวกรูย์ได้ล้างหน้า  เจ้าแม่พฤกษานึกสงสารบรรดาลให้ดอกบัววิเศษและน้ำค้างกลางหาวผสานฤทธิ์วิเศษ เมื่อแตงอ่อนเกลือกใบหน้าลงบนเกสรดอกบัว ใบหน้าของนางงดงามดุจเดิม
             
ด้านเจ้าชายไพรงาม หมื่นจวงจันทร์ ลอบเข้าปราสาทเมืองลับแล  เจ้าชายพลาดล้มขวางขบวนเสด็จ  เป็นเหตุให้ได้พบพักตร์เจ้าหญิงพินธุวดีผู้เลอโฉม  เจ้าหญิงพึงพอใจในความสง่างามขององค์ไพรงาม คิดจะสานสัมพันธ์รัก  ฝ่ายเจ้าชายไพรงามพยายามครองสติมิให้พลั้งเผลอต่อพลังเสน่หา
             
กุมารน้อย “เกตุทิพย์บดี” เสกให้เถาวัลย์วิเศษบีบรัดหัวยักษ์เกเรนาม “ปักหลั่น” สั่งสอนจนมันยอมเป็นข้ารับใช้
              
หลังส่งให้แตงอ่อนเดินทางไปกับอำมาตย์สิทธาเพื่อสมทบกับรัศมีเทวีพระมารดาแล้ว องค์ไวกรูย์ก็ได้กลับไปยังตะนูวดีนครเพื่อทวงบัลลังก์คืน  ด้วยมีฤทธิ์ที่กล้าแกร่ง องค์ไวกรูย์เกือบได้ชัย แต่ก็ต้องล่าถอยเพราะอสูรดำมาช่วยเจ้าชายไวยราชเอาไว้

---------------------------------------------------

วันเสาร์ที่ 15 ธ.ค.55  ตอน 29

พระอินทร์พิโรธไวกรูย์มนุษย์โอหัง หากแต่มีความตั้งมั่นที่จะขอน้ำค้างกลางหาวเพื่อช่วยแตงอ่อนน้องรักให้กลับมีรูปโฉมดุจเดิม  องค์อินทร์จึงประทานของวิเศษ แลกกับวิกฤตของชาวประชา! แม้ไวกรูย์คิดจะเปลี่ยนใจ แต่ก็สายไปเสียแล้ว   ฝ่ายเจ้าชายไพรงาม หมื่นจวงจันทร์เดินทางเข้าไปเมืองลับแลพร้อมกลุ่มพ่อค้า           

กล่าวถึงกุมารี ปทุมธิดา ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขภายในวังของท้าวรณชิต เป็นที่รักของมเหสีเลื่อมลายวรรณ ส่วนทางด้านยักษ์ใหญ่ยังคิดหาทางกิน “เกตุทิพย์บดี”  กุมารน้อยเดินหลงเข้าไปในปากยักษ์เกเร แต่ก็รอดออกมาได้เพราะเถาวัลย์วิเศษ

เจ้าหญิงแตงอ่อนยังไม่สิ้นวิบากกรรม  นางถูกพญาปักษีนาม “วายุพักตร์” บินโฉบอุ้มร่างนางไป เสียงร้องขอความช่วยเหลือยินถึงไวกรูย์พระเชษฐา  ไวกรูย์พุ่งตัวแย่งชิงแตงอ่อน ผอบน้ำค้างกลางหาวหลุดจากมือลอยตกลงยังธารน้ำ  ฝ่ายพญาปักษีถูกไวกรูย์ฟันปีกหักได้รับบาดเจ็บสาหัส

---------------------------------------------------

วันอาทิตย์ที่ 2 ธ.ค.55  ตอน  26

         “เกตุทิพย์บดี” กับหนอนน้อย รู้ว่าฝูงงูเกรี้ยวกราดตามล้างแค้นผู้ที่ฆ่านางพญางู กุมาน้อยจึงเข้าห้ามปรามฝูงงูเล็ก ขอให้อโหสิกรรมต่อกัน

         หลังจากที่เจ้าชายไพรงามจากไป พิษงูแผ่ซานในกายแตงอ่อน นางล้มสิ้นสติ เคราะห์ดี “ปทุมธิดา” กุมารีผู้หลบหนียักษ์ใหญ่ไล่จับกินมาพบ  “ปทุมธิดา”มาเก็บดอกบัวที่หนองน้ำ เกิดพลัดตกน้ำ โชคดีที่จระเข้ไวกรูย์ช่วยชีวิตไว้  และตามมาพบแตงอ่อนน้องรักที่บัดนี้เสียโฉมเพราะพิษแห่งไฟ  ปทุมธิดาเร่งออกเดินทางกลับบ้านเพื่อหานางยักษีผู้เป็นแม่

         อสูรดำแนะสูตรปรุงยาอายุวัฒนะให้แก่องค์ไวยราช ส่วนสำคัญคือ เลือดจระเข้ เพราะหวังให้องค์ไวยราชกลายเป็นปีศาจไปชั่วนิรันดร์  ไม่นานจระเข้ไวกรูย์ก็ติดตาข่ายอาคมของอสูรดำ เคราะห์ดีที่เจ้าชายไพรงาม และเกตุทิพย์บดี มาช่วยให้พ้นพันธนาการ

---------------------------------------------------

วันเสาร์ที่ 1 ธ.ค.55  ตอน 25
         “เกตุทิพย์บดี” ใช้วิชาผสานกายก่อร่างทรงพลังจากธาตุทั้งสี่ ดิน-น้ำ-ลม-ไฟ ให้เจ้าชายไพรงาม องค์ไวยราช องค์ไวกรูย์ ได้ประจักษ์ก่อหายลับไปในป่า  จากนั้นกุมารน้อยได้มาพบหมื่นสิทธา และพวกในร่างคางคกหลบหนีอสูรร้าย แต่ไม่สามารถกลับร่างเดิมได้เพราะหมื่นสิทธาลืมคาถา เกตุทิพย์บดีจึงช่วยเสกให้คืนร่างมนุษย์

          ฝ่ายเจ้าชายไพรงาม กับหมื่นจวงจันทร์ เดินทางออกตามหาชายาแตงอ่อน และโอรสน้อย จนมาถึงนครพยุหะคีรี เจ้าชายรูปงามถูกนางพญางูรัดร่างพาตัวไปยังถ้ำลึกลับ หวังสมสู่เป็นคู่เคียง เจ้าชายไพรงามขัดขืนถูกนางงูยักษ์ฉกได้รับบาดเจ็บก่อนที่นางงูยักษ์จะถูกปลิดชีพ

          แตงอ่อนพบเจ้าชายไพรงามนอนสลบเพราะพิษงู นางช่วยดูดพิษร้ายพร้อมหารากไม้มาพอกบาดแผลช่วยชีวิตสวามี  เมื่อฟื้นคืนสติเจ้าชายกลับจำไม่ได้ว่านางผู้ช่วยชีวิตที่มีใบหน้าอัปลักษณ์นั่นคือ แตงอ่อน เมียรัก!!

---------------------------------------------------

วันอาทิตย์ที่ 28 ต.ค.55  ตอน 16

             เจ้าชายไพรงาม ยังคงชิงชังกล่าวหาแตงอ่อนว่าท้องกับชายชู้ แต่ก็ใจอ่อนสั่งเลื่อนการประหารนางออกไปจนกว่าจะคลอดลูกน้อย

             องค์ไวกรูย์ปรากฏกายในคืนเดือนดับ ลอบเข้าวังตามหาแตงอ่อน  พบเจ้าชายไพรงามเมามายสุรา  คว้าดาบไล่ฟันด้วยความแค้นใจ  ไวกรูย์ถอยหนีหายตัวไปช่วยแตงอ่อนที่ถูกคุมขัง   ไวกรูย์คิดพาน้องสาวหนีไปอยู่บ้านป่า แต่แตงอ่อนขออยู่พิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ     

             ไวยราชเจ้าชายผู้ถูกมารร้ายครอบงำวางแผนจับตัวแตงอ่อน เพื่อบีบบังคับให้นางบอกที่ซ่อนตัวของไวกูรย์  โดยส่งอสูรดำปรากฏร่างโบยบินน่านฟ้าโกสีย์นคร  สุนิจดาเห็นหนทางกำจัดแตงอ่อน เสนอต่อท้าวทศนัยและองค์ไพรงาม ให้ส่งตัว แตงอ่อน และลูกชู้ไปเป็นเหยื่ออสูรร้าย

---------------------------------------------------

วันเสาร์ที่ 27 ต.ค.55  ตอน 15

          เจ้าชายไพรงามไล่ฟัน ไวกูรย์ ด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด  ส่วน ไวกูรย์ ปัดป้องหนีคมดาบด้วยการกระโจนลงน้ำ และแม้ แตงอ่อน พยายามจะอธิบายว่านางมิเคยคิดหยามเกียรติ องค์ไพรงาม  นางกลับถูกสวามีตวาดกลับกล่าวหาว่า เป็นหญิงแพศยา!  สั่งทหารนำตัว แตงอ่อน ไปขังรอวันประหาร

             รุ่งขึ้น...ทหารนำ แตงอ่อน ใส่กรงขัง แบกประจาน สภาพนางนั่นอิดโรย  ชาวเมืองต่างขว้างปาหินด่าแช่งแตงอ่อน ด้วยความชิงชัง  แต่นางก็รอดมาได้เพราะ พ่อค้าอาข่าน กล่าวให้สติชาวบ้านว่า ใครบ้างมิเช่นทำชั่ว!

             ค้างคาวไฟ ในร่างของ อสูรดำ รีบนำข่าวกลับไปบอก องค์ไวยราช ว่าตอนนี้ แตงอ่อน ไม่ใช่หญิงพรหมจรรย์ และนางกำลังตั้งครรภ์  ส่วนตัว ไวกรูย์ คาดเดาว่าคงอยู่ไม่ห่างจาก แตงอ่อน เป็นแน่

            เจ้าชายไพรงาม เสียใจดื่มเหล้าเมามายพร้อมออกคำสั่งให้ตัดหัว แตงอ่อน  ขณะที่ เพชฌฆาต กำลังจะลงดาบ แตงอ่อน ก็อ้วกออกมา หมื่นจวง และ เจ้าคุณวิเศษ รีบนำความไปกราบทูล ท้าวทศนัยน์ มเหสีพวงอุบล สุนิจดา และนางๆ ต่างตื่น
ตระหนกเมื่อรู้ว่า แตงอ่อน ตั้งครรภ์

---------------------------------------------------

วันอาทิตย์ที่ 21 ต.ค.55 ตอน 14

พ่อค้าอาข่าน ให้ แมงป่องยักษ์ ในหีบพยนต์จัดการกับเหล่า อสูร  องค์ไวยราชเกิดความโลภอยากครอบครอง หีบพยนต์ จึงส่งทหารผีดิบออกตามล่ากลุ่ม พ่อค้าอาข่าน
        
สุนิจดา อาศัยช่วงเวลาที่ แตงอ่อน หลบไปดูแลจระเข้ เข้าหา องค์ไพรงามพร้อม ให้การปรนนิบัติเอาอกเอาใจ ก่อนนำความไปเย้ยหยัน แตงอ่อน
             
และแล้วสิ่งที่ กรมวัง  กราบทูล องค์ไพรงาม ว่าจะเกิดเหตุเภทภัยต่อการสืบสันตติวงศ์ของโกสีย์นคร ในคืนเดือนดับก็เป็นจริง เมื่อ ไพรงาม ลอบตาม แตงอ่อน ไปที่สระน้ำ พบนางถูกโอบกอดปลอบประโลมด้วย ไวกรูย์ พระเชษฐา แต่ด้วยความหึงหวงทำให้เจ้าชายเข้าใจผิดคิดว่า แตงอ่อน คบชู้สู่ชาย  โดยหารู้ไม่ว่านางกำลังตั้งครรภ์

---------------------------------------------------

วันเสาร์ที่ 20 ต.ค.55 ตอน 13

เกรงว่าพระเชษฐาจะมีภัย แตงอ่อน (กุ๊กกิ๊ก-กรกร) จึงเอ่ยขอต่อไวกรูย์ (ปอนด์-โอภาภูมิ) ให้ละความพยาบาทที่จะช่วงชิงบัลลังก์ตะนูวดีจากองค์ไวยราช (ต้าร์-พศิน)

มเหสีพวงอุบล พร้อมสะใภ้หลวงทั้ง 6 ซุ่มดูแตงอ่อนป้อนข้าวปั้นให้จระเข้ ก่อนตั้งข้อสงสัยกับไพรงาม (เอ-เอกราช) ว่าแตงอ่อนมีเชื้อสายจระเข้? 
            
ถึงคืนเดือนดับ...แตงอ่อนลอบออกจาตำหนักนำผลไม้มาให้ไวกรูย์  ระหว่างทางกลับแตงอ่อนได้เจอกับพวกของสุนิจดา (โบกี้-วทันยา) พูดจาถากถางหาว่านางเป็นเผ่าพันธุ์จระเข้ แตงอ่อนอับอายวิ่งหนีไป มีเพียงจันทร์ดวงที่มองตามด้วยความสงสาร

อำมาตย์สิทธา (เด๋อ ดอกสะเดา)  และพวกออกหาเผือกมันเพื่อประทังชีวิต พบนกสองหัว คาบข่าวมาบอกเรื่องไวยราชตั้งใจจะฆ่าไวกูรย์ให้ตาย และสั่งให้คนออกตามหาหีบพยนต์เพื่อไขปริศนาว่าจะทำไมไวกูรย์ถึงฆ่าไม่ตาย  อำมาตย์สิทธารีบนำความมาบอกแก่รัศมีเทวี (แคนดี้)  มเหสีแห่งตะนูวดียินดีเป็นยิ่งนัก

---------------------------------------------------

วันอาทิตย์ที่ 7 ต.ค.55 ตอน 10

แตงอ่อน หมอบกราบอยู่ตรงหน้า องค์ท้าวทศนัย และ พระมเหสีพวงอุบล ส่วนนางทั้งหกต่างมองกันเลิ่กลั่กด้วยความร้อนใจ ยกเว้น สุนิจดา (โบกี้-วทันยา) นั่งเงียบ นัยน์ตาซ่อนความผิดหวังคั่งแค้นคิดแผนกำจัดมารหัวใจ พวงอุบล ส่งแตงอ่อนไปอยู่ในโรงครัว องค์ทศนัย ลำบากใจยิ่งนัก

แตงอ่อน รู้สึกเจ็บปวดที่ถูก คุณท้าวหม้อทอง โขลกสับทารุณแต่งนางก็มิได้ปริปากกะไร ยอมก้มหน้ารับกรรมหวังเพียงให้ ไวกรูย์ ในร่างจระเข้อาศัยอยู่ในบึงน้ำกลางอุทยาน เจ้าชายไพรงาม และ หมื่นจวง งุนงงเมื่อเห็น แตงอ่อน นำอาหารป้อนให้จระเข้

ไพรงาม รู้ความที่ พระมารดา สั่งให้ คุณท้าวหม้อทอง กลั่นแกล้ง แตงอ่อน จนเป็นลมล้มพับ เจ้าชายนึกเสียใจกล่าวขอโทษแทนพระมารดา พร้อมสารภาพอภิเษกกับ 6 นางเพราะความจำเป็น สุนิจดา ลอบมองด้วยความริษยาพยาบาท

มังกรไฟ คั่งแค้นที่ แตงอ่อน ถูกชิงตัวไป สั่ง ไวยราช และพรรคพวกจัดหาสาวพรหมจรรย์มาสังเวยแด่เทพอัคคี ครั้น ถึงคืนเดือนดับ เจ้าชาย ไวกรูย์ ได้คืนร่างมนุษย์ บอกแตงอ่อนน้องรักให้รอวันสิ้นกรรมเวร แล้วจะพาไปพบกับพระมารดา ในขณะเดียวกันที่ รัศมีเทวี (แคนดี้) และพวกออกเดินทางตามหาลูกยา


---------------------------------------------------

วันเสาร์ที่ 6 ต.ค.55 ตอน 9

แตงอ่อน (กุ๊กกิ๊บ-กชกร) ลอบลงจากเรือเพื่อไปตามหา ไวกรูย์ (ปอนด์-โอภาภูมิ) เมื่อพบ แตงอ่อน จึงอ้อนวอนพี่ชายให้ตามไปอยู่โกสีย์นครกับนางที่ตัดสินใจไปใช้ชีวิตร่วมกับเจ้าชายไพรงาม (เอ-เอกราช)

ด้าน ไวยราช (ต้าร์-พศิน) เกรี้ยวกราดเมื่อรู้ว่า แตงอ่อน กับ ไวกรูย์ รอดชีวิต สั่ง อสูรดำ ออกตามหา มารร้ายหาไม่พบเพราะ พ่อค้าอาข่าน (โยกเยก) คนแคระ และ อามิน ใช้มนต์ในหีบพยนต์อำพรางพาไปส่งยังที่หมาย...ชายฝั่งโกสีย์นคร

ณ โกสีย์นคร หกชายาเรียนงานร้อยพวงมาลัยจากพวงอุบลและคุณท้าวใหญ่โดยมีเจ้าคุณวิเศษเฝ้าถวายงาน แต่แล้วทั้งหกนางก็ฝันสลาย เมื่อพบว่า เจ้าชายไพรงาม พาหญิงงามนาม “แตงอ่อน” เข้าวังมาถวายตัวเป็นพระชายา


---------------------------------------------------

วันอาทิตย์ที่ 23 ก.ย.55 ตอน 6
เพียงแวบเดียวที่ได้เห็นแตงอ่อน เจ้าชายไพรงามก็นึกหลงรัก จึงขี่ม้าออกตามหา ครั้นเดินทางมาถึงเชิงเขาประกายรุ้ง พบบนยอดเขามีดวงไฟแดงฉานก็รู้สึกอัศจรรย์ จึงชวนหมื่นจวงจันทร์ (ติ๊ก-ฉัตรมงคล) ปีนเขาขึ้นไป ใกล้ถึงยอดเขาพบเข้ากับพ่อค้า คนแคระ และอามิน ทั้งสามเอ่ยเตือนให้ระวังภัยจากมังกรไฟ ไพรงามมิเชื่อจึงเดินทางต่อ

ไม่นานไพรงามและหมื่นจวงก็ถูกมังกรไฟไล่ล่าจนตกลงมาหมอบอยู่ตรงพ่อค้า คนแคระ อามิน และหีบพยนต์ ก่อนที่ทั้งหมดจะหายวับไป หมื่นจวงคิดว่าเจ้าชายไพรงามจะยอมกลับโกสีย์นคร แต่ที่ไหนได้เจ้าชายกลับออกสืบหาเรื่องราวของมังกรไฟ และหีบพยนต์ต่อ

ด้านไวกรูย์และแตงอ่อน ลี้ภัยมาปลูกกระท่อมอยู่บนเนินดิน โดยหารู้ไม่ว่า ใต้ดินมีจระเข้ใหญ่จำศีลอยู่ ชาวบ้านเตือนไวกรูย์ว่า อย่าเทน้ำร้อนลงพื้นดินเด็ดขาด มิเช่นนั้นจะเกิดอันตรายใหญ่หลวง เช้าวันต่อมา...ไวกรูย์ออกไปทำไร่ ด้วยความหวังดีแตงอ่อนจึงก่อไฟหุงข้าว นางเผลอทำน้ำต้มข้าวหกราดลงพื้นดิน ทำให้จระเข้ที่จำศีลอยู่ใต้พิภพร้อนทุรนทุราย!


---------------------------------------------------

วันเสาร์ที่ 22 ก.ย.55 ตอน 5
ร่างไร้สติของจันทร์วดี (ฝน-พัชรมัย) ลอยทวนน้ำกลับไปยังลำธารที่รัศมีเทวี (แคนดี้ เอเวอรี่) และพระราชา (เจค-ศตวรรษ) หลบซ่อนตัวอยู่ในถ้ำ เมื่อฟื้นคืนสติจันทร์วดีร่ำไห้ที่มิอาจหยุดหยั้งไวยราช (ต้า-พศิน) บุตรผู้เนรคุณต่อแผ่นได้ รัศมีเทวีสั่งอำมาตย์สิทธา (เด๋อ ดอกสะเดา) ไปสืบความในตะนูวดีนคร พบว่าบัดนี้ไวยราชถูกอสูรร้ายครอบงำ ชาวบ้านล้มตายถูกปีศาจจับกินเป็นอาหาร อีกทั้งได้ยินคำองค์ไวยราชที่สั่งปุโรหิตชั่วให้พลิกแผ่นดินหาตัวแตงอ่อนเจ้าหญิงผู้เลอโฉมกลับมาเข้าพิธีอภิเษก

ด้านเจ้าชายไพรงาม (เอ-เอกราช) หลังเข้าพิธีอภิเษกกับ 6 นางแล้ว ก็หาเหตุออกป่าหลีกเลี่ยงที่จะอยู่ด้วยกับ 6 นาง ระหว่างทางกลางป่าพบแตงอ่อน (กุ๊กกิ๊ก-กชกร) ร้องขอความช่วยเหลือจากการถูกค้างคาวไฟโฉบตัวไป ไพรงามยิ่งธนูใส่ค้างคาวไฟ ร่างแตงอ่อนตกลงจมหายไปกับสายน้ำ นางถูกกระแสน้ำพัดพาให้มาพบกับไวกรูย์ (ปอนด์-โอภาภูมิ) พระเชษฐาอีกครา

ไวกรูย์และแตงอ่อนล่องแพข้ามน้ำมาถึงตลาดใหญ่ พบชาวบ้านกำลังมุงดูระบำในหีบพยนต์ของพ่อค้า (โยกเยก) คนแคระ และอามิน (เทพ จ๊ะทิงจา) ด้วยความสนใจ สองพี่น้องจำได้ว่าเป็นหีบวิเศษ! ทันใดนั้นพ่อค้าและพวกพร้อมหีบพยนต์ก็หายวับไป

---------------------------------------------------

วันอาทิตย์ที่ 16 ก.ย.55 ตอน 4

กล่าวถึง “ไพรงาม” (เอ-เอกราช) เจ้าชายรูปงามแห่งโกสีย์นคร หลังสำเร็จวิชาตัดธาราก็ได้เดินทางกลับนครพร้อมด้วยหมื่นจวง ไม่นานเจ้าชายไพรงามจำใจเข้าพิธีอภิเษกกับราชาธิดาจากหัวเมืองทั้ง 6 ที่ส่งตัวมาขอผูกไมตรี เพราะมิอาจขัดใจท้าวทศนัยพระบิดา และพวงอุบลพระมารดาได้

ยักษ์ตวัดร่างไวกรูย์ และแตงอ่อน มาวางบนหน้าผา ยักษ์แสร้งเอ่ยปากขอศพแตงอ่อนกินด้วยเราเป็นยักษ์ถือศีล ไวกรูย์ไม่ยอมเพราะสงสารน้อง เสนอให้กินตนเองที่พร้อมตายอยู่แล้ว ยักษ์จะได้ไม่บาป ฉับพลันยักษ์ใหญ่กลายร่างเป็นพระอินทร์ (เล็ก-เจษฎา) มอบอาหารทิพย์แกไวกูรย์ แต่เจ้าชายกลับเอาอาหารทิพย์ป้อนให้ศพน้องสาว ไม่นานเกิดมหัศจรรย์..ที่ตัวเจ้าหญิงแตงอ่อนค่อยมีสีเลือดขึ้นจนนางฟื้นขึ้นในที่สุด

อสูรดำ ใช้อำนาจสถาปนาเจ้าชายไวยราชขึ้นครองตะนูวดีนคร บ้านเมืองเกิดวิปริตมืดฟ้ามัวดิน ซากศพเกลื่อนเมือง เพราะถูกอสูรดูดเลือด ปุโรหิตแนะให้องค์ไวยราชเสกซากศพให้ฟื้นชีพไว้เป็นบริวารปีศาจ

---------------------------------------------------

วันเสาร์ที่ 15 ก.ย.55 ตอน 3

วันเวลาผ่านนานนับสิบปี...พระราชาแห่งตะนูวดี (เจ็ค-ศตวรรษ) ประชวรหนักเพราะถูก ปุโรหิต กับ อำมาตย์ฤทธิ์เดช (นกน้อย-บริพันธ์) วางยา! พระสนมเอกจันทร์วดี (ฝน-พัชรมัย) จึงให้ปุโรหิตไปตามตัวเจ้าชายไวยราช (ต้าร์-พศิน) กลับมาเฝ้าเสด็จพ่อ

เจ้าชายไวยราชปรากฏกาย ณ วังตะนูวดี จำไม่ได้แม้กระทั่งจันทร์วดีผู้เป็นมารดา ปุโรหิตได้ทีประกาศกร้าวว่าองค์ไวยราชกลับมาเพื่อทวงบัลลังก์ในฐานะพระโอรสองค์โต

อำมาตย์สิทธา (เด๋อ ดอกสะเดา) เห็นท่าไม่ดี รวมพลทหารผู้ภักดีพาพระราชา พระมเหสีรัศมีเทวี (แคนดี้) สนมเอกจันทร์วดี หลบหนีออกจากวัง ด้านเจ้าชายไวกรูย์ (ปอนด์-โอภาภูมิ) รั้งท้ายขบวนรับมือกับองค์ไวยราช เจ้าหญิงแตงอ่อน (กุ๊กกิ๊ก-กชกร) ห่วงไวกรูย์พระเชษฐา ปรี่เข้ามาขวาง องค์ไวยราชชมชอบในความงามจึงจับตัวแตงอ่อนไว้ แตงอ่อนฉวยดาบฟันเข้าที่แขนไวยราช ไวยราชบันดาลโทสะฆ่าเจ้าหญิงแตงอ่อนตาย

เจ้าชายไวกรูย์ผวากอดศพแตงอ่อนร่ำไห้ อุ้มร่างไร้วิญญาณของแตงอ่อนกระโดดหน้าผาหวังจบชีวิตไปพร้อมกับน้องยา ทันใดนั้นมีอุ้งมือใหญ่ของยักษ์รับร่างทั้งสองไว้!!

---------------------------------------------------

วันอาทิตย์ที่ 9 ก.ย.55 : ตอน 2

พระราชา คิดเปลี่ยนให้เจ้าชาย ไวกูรย์ ซึ่งเกิดจาก รัศมีเทวี เป็นรัชทายาทสืบบัลลังก์ ส่วน เจ้าหญิงแตงอ่อน แม้ยังทรงพระเยาว์ แต่มีศิริโฉมงดงามจนเป็นที่เลื่องลือ

กาลต่อมา.. มีพ่อค้านามว่า “อาข่าน” (โยกเยก) พร้อม คนแคระ และ อามิน นำเรือสำเภามาเทียบท่า แจ้งความประสงค์จะนำหีบพยนต์ของวิเศษถวายแด่พระราชา ภายในหีบมีนางงามร่างจิ๋วร่ายรำมโนราห์บูชายัญ ระบำแขก ก่อนกลายร่างเป็นแมลงป่องยักษ์ พาให้ทุกคนตื่นกลัว พระราชาไม่ปรารถนาในหีบประหลาด แต่เจ้าชายไวยราช ต้องการจึงเอ่ยขอ พ่อค้าปฏิเสธเพราะไม่มั่นใจในไวยราช ว่าเมื่อเติบใหญ่จะเป็นผู้มีทศพิธราชธรรมเฉกเช่นพระบิดา

ด้าน อำมาตย์ฤทธิเดช (นกน้อย-บริพันธ์) ผู้มากด้วยเล่ห์ มีใจคิดคดพยายามเสี้ยมสอนไวยราช ให้ชิงชังน้องไวยราช ไขว้เขวหลงเชื่อจึงเข้าลาพระบิดาเพื่อแสวงหาอาจารย์ดีมีวิชาตามธรรมนิยมของผู้มีเชื้อสายกษัตริย์ แม้จันทร์วดี พระมารดาจะคัดค้านอย่างไรก็ไม่ฟัง ที่สุดไวราช ก็ออกเดินทางไปร่ำเรียนวิชาสำนักอสูรดำ ณ เขาประกายรุ้ง ตามคำแนะนำของปุโรหิต อสูรดำให้เจ้าชายไวยราช ผ่านพิธีล้างไฟ ก่อนรับเป็นศิษย์สอนสรรพวิชามนต์ดำ

---------------------------------------------------

วันเสาร์ที่ 8 ก.ย.55 : ตอน 1

ในราตรีที่ จันทร์วดี (ฝน-พัชรมัย) พระสนมเอกของ พระราชาแห่งตะนูวดีนคร (เจ็ค-ศตวรรษ) ให้กำเนิดโอรสองค์แรก นาม “ไวยราช” บังเกิดลมฝนพายุพัดกระหน่ำ ปรากฏร่างค้างคาวไฟอสูรร้าย 5 ตนโบยบินอยู่เหนือปราสาทราชวัง

อำมาตย์สิทธา (เด๋อ ดอกสะเดา) หมื่นนพนรา หัวหมู่แบน รีบนำความทูล พระราชา เพราะเกรงจะเกิดอาเพศ ด้าน ค้างคาวอสูรทั้ง 5 คิดครอบครองตะนูวดีนครผ่าน ไวราช (น้องจีโน่) องค์รัชทายาท

ตามกฎมณเฑียรบาล จันทร์วดี สนมเอกจะได้เลื่อนชั้นขึ้นเป็นมเหสี แต่นางไม่ยอมรับตำแหน่ง มเหสีรัศมีเทวี (แคนดี้ เอเวอรี่) ผู้มีใจอารีตัดสินใจลอบหนีออกจากวังเพื่อไปถือศีลในป่า ระหว่างทางถูก อสูรร้าย หมายจับกิน เดชะบุญ พระอินทร์ (เล็ก-เจษฎา) ช่วยให้ รัศมีเทวี และบริวารรอดพ้น อำมาตย์สิทธา พารัศมีเทวีกลับวัง จากนั้นรัศมีเทวี ก็มีอาการแพ้ท้อง

รัศมีเทวี มีประสูติกาลเป็นพระโอรส ไวกรูย์ (น้องเทอร์โบ) และพระธิดาแตงอ่อน (น้องส้มโอ) ท่ามกลางความยินดีของพระราชา และ จันทร์วดี