คุณชายเลี้ยงหมู...คุณหนูเลี้ยงแกะ
คุณชายเลี้ยงหมู...คุณหนูเลี้ยงแกะ
 

คุณชายเลี้ยงหมู...คุณหนูเลี้ยงแกะ

ละครดังที่คิดถึง จันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.20 น.

บทประพันธ์ : เล่าเต็ง บทโทรทัศน์ : อภิวัฒน์ เล่าสกุล

ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์,ไปรยา สวนดอกไม้,พูลภัทร อัตถปัญญาพล,กรรณาภรณ์ พวงทอง,อังคณา วรรัตนาชัย,สิริลภัส กองตระการ,พีรกร โพธิ์ประเสริฐ,อัศนัย เทียนทอง

เรื่องย่อคุณชายเลี้ยงหมู...คุณหนูเลี้ยงแกะ

“ เมื่อสาวจอมกะล่อนกลับกะล่อนไม่ออกเมื่อต้องไปพัวพันกับเหตุฆาตกรรมระดับชาติ   ชีวิตจึงหักเหหลบซ่อนเข้ามาอยู่ในฟาร์มหมู   แต่ไม่หมูอย่างที่คิด  เพราะต้องพบเจอกับคุณชายติสแตก  แล้วสาวเจ้าเมื่อเห็นคุณชายเลี้ยงหมู   คุณหนูอย่างเราจะทำอะไร  ก็ต้องเลี้ยงแกะซิคะ ”

ไผ่พญา  (ไปรยา  สวนดอกไม้) หรือที่คนในวงการเรียกกันว่า จูเลีย อ๊ะๆ ไม่ใช่วงการบันเทิงหรอก วงการที่ว่าคือ ดิออร์แกน  คอกเทลเลาจ์ระดับเอ็กซ์คลูซีฟนั่นเอง   ผู้คนที่เข้ามาถ้าไม่ใช่นักการเมืองก็ต้องเป็นพวกมหาเศรษฐีเท่านั้น     ไผ่พญาถือเป็นดาวและเป็นแม่เหล็กของที่นี่   เศรษฐีทุกคนต่างอยากได้ตัวของไผ่พญาทั้งนั้น   แต่ทุกคนก็ต้องเกรงอกเกรงใจ  สมสุข...(โอริเวอร์  บีเวอร์) เศรษฐีที่ร่ำรวยจากการส่งออก   แต่ใครๆ ก็รู้ว่าเบื้องหลังของเขา คือ เจ้าพ่อยาเสพติดรายใหญ่ที่มีเครือข่ายตั้งแต่เหนือสุดจนใต้สุดของประเทศไทย   ไผ่พญาอยากจะเปลี่ยนชื่อสมสุขเป็นสมสู่จริงๆ   เพราะที่สมสุขมาเที่ยวทุกคืนก็เพราะอยากได้ไผ่พญาเป็นเมียเก็บอีกคน   แต่ไผ่พญาก็รู้ทันพวกผู้ชาย แล้วใครๆ ก็รู้ว่าไผ่พญานั่นแหละเป็นปลาไหลตัวแม่เลยทีเดียว   เพราะอย่างนี้ไผ่พญาถึงยังทำงานเป็นเด็กนั่งดริ๊งก์ได้   โดยที่ไม่เคยพลาดท่าใคร   จนกระทั่งคืนนี้  ความเหลืออดของสมสุขถึงที่สุดยังไงคืนนี้เขาต้องได้เธอให้ได้  สมสุขจึงได้ให้บรรดาลูกน้องล้อมหน้าล้อมหลังพาไผ่พญาไปยังบ้านเขา   ไผ่พญาตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน   ยังดีที่เธอพกยานอนหลับอย่างแรงเอาไว้ติดตัวเผื่อฉุกเฉินเสมอ  

สมสุขนอนยิ้มกริ่มหลับไปไม่รู้ตัว  ไผ่พญามองแล้วยี้ปากว่าคนอย่างสมสุขไม่มีทางได้แอ้มเธอแน่   ก่อนที่ไผ่พญาจะเห็นสร้อยทองมีจี้เป็นแท่งสี่เหลี่ยมที่คอของสมสุข   ไผ่พญาจึงขอมาเป็นค่าเปลืองเนื้อเปลืองตัวของเธอสำหรับคืนนี้ หรือเรียกง่ายๆ ว่าตบทรัพย์นั่นเอง  ไผ่พญากำลังจะย่องหนีออกมา  แต่แล้วเสียงปืนหลายสิบนัดก็ดังสนั่นหวั่นไหว   ไผ่พญาตกใจก่อนจะเห็นกลุ่มชายชุดดำหลายคนบุกเข้ามาในบ้านของสมสุขแล้วฆ่าลูกน้องของสมสุขจนเกลี้ยงตับ  ไผ่พญาพยายามปลุกสมสุขแต่สมสุขก็ไม่รู้สึกตัว   ขณะที่ไผ่พญาเองก็ได้ยินเสียงเท้าคนเดินเข้ามาใกล้ทุกที   ไผ่พญารีบหลบเข้าไปในตู้เสื้อผ้า   แล้วสิ่งที่เธอเห็นจากรอยแยกที่ประตูตู้เสื้อผ้าก็ คือ มือที่ใส่ถุงมือดำกำลังลั่นไกใส่สมสุข   เธอไม่เห็นว่าใครเป็นคนที่ใส่ถุงมือนั้น  แต่คนที่เธอเห็นหลังจากไอ้มือดำนั่นยิงสมสุขก็คือ  พายัพ  (สาริน  บางยี่ขัน) ที่กำลังมองร่างไร้วิญญาณของสมสุขอย่างสะใจ   ระหว่างนั้นลูกน้องต่างเข้ามารายงานว่าไม่พบสิ่งที่หา   แต่แล้วเสียงของไอ้มือดำก็ดังขึ้น   ว่ายังมีผู้หญิงอยู่ที่นี่   พายัพหันไปมองก็เห็นรองเท้าของไผ่พญา   ไผ่พญาที่หลบอยู่ในตู้รีบสวดมนต์เป็นการใหญ่   แล้วก็เหมือนคำสวดมนต์จะได้ผล   เมื่อเสียงรถหวอตำรวจดังมาแต่ไกล   พายัพจึงได้บอกทุกคนให้รีบหนีกันก่อน

ไผ่พญากลับมาบ้านอย่างอกสั่นขวัญแขวน   ก่อนที่  ลำไย...(ณหทัย  พิจิตตรา) แม่บังเกิดเกล้าผู้เอาแต่กินเหล้ากับเล่นไพ่   พอเห็นไผ่พญาก็ไม่วายขอเงินอีก   แล้วยิ่งเห็นไผ่พญาใส่สร้อยทองที่เพิ่งได้จากสมสุขมาก็อยากขอไปทำทุน   แต่ไผ่พญากลับรู้สึกผิดจากการที่ทำให้สมสุขต้องตาย ถ้าเธอไม่ใช้ยานอนหลับ  บางทีเขาอาจจะหนีพ้นแล้วก็ได้   ไผ่พญาปฏิเสธที่จะให้สร้อยกับลำไย   ถึงแม้เธอจะรักแม่ขี้เมาแค่ไหนแต่เธอให้สร้อยเส้นนี้กับใครไม่ได้  

ข่าวการเสียชีวิตของสมสุขดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง ไผ่พญาลังเลว่าควรจะนำเรื่องนี้ไปบอกกับตำรวจดีมั้ย   ไผ่พญาคิดไม่ตกเพราะถ้าทำอย่างนั้นก็เหมือนพาตัวเองเข้าไปสู่อันตราย   ไผ่พญาจึงทำตัวเงียบแล้วไปทำงานตามปกติ   ทันทีที่ถึง  ขิง...(ทศพร  รถกิจ) บาเทนเดอร์ชายเพื่อนจอมแสบ  กับ  กระดังงา...(คีตภัทร  อันติมานนท์) แฟนสาวที่คอยหาเรื่องหาราวให้กับไผ่พญาตลอดเวลา รีบมาบอกไผ่พญาว่ามีคนมารอพบไผ่พญา ดูท่าจะเป็นเสี่ยกระเป๋าหนักกว่าสมสุขอีก   ไผ่พญาคิดว่าหลังพายุฟ้าย่อมแจ่มใสเสมอ   แต่ไผ่พญากลับคิดผิด   เพราะคนที่มารอพบเธอคือ พายัพ นั่นเอง ไผ่พญารีบหนีออกมาแล้วได้รู้ว่าที่พายัพมาหาเธอเพราะคิดว่าเธอต้องรู้อะไรที่สมสุขให้ไว้กับเธอก่อนตาย  ไผ่พญาหนีรอดจากการไล่ล่าของพายัพมาได้   แต่ก็เหมือนหนีเสือปะจระเข้  เมื่อไผ่พญาได้ยินข่าวในโทรทัศน์ว่า ขณะนี้ทางตำรวจกำลังตามหาหญิงสาวที่อยู่กับสมสุขก่อนตาย   ซึ่งคาดว่าจะเป็นนกต่อให้มือปืนเข้ามาฆาตกรรมสมสุข

พระเจ้า !!!  ไผ่พญาถึงกับอุทานออกมาด้วยความตกใจ   ทำไมเธอถึงได้ซวยขนาดนี้   ไผ่พญาคิดสะระตะแล้ว   เธออยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้เด็ดขาดจึงได้รีบกลับไปบอกลำไยให้ย้ายที่อยู่ แต่ลำไยไม่ยอมเพราะถ้าย้ายแล้วเธอจะเข้าบ่อนที่ไหน   ไผ่พญาไม่อยากทิ้งลำไยเอาไว้คนเดียว   ระหว่างนั้นขิงกับกระดังงามาหาไผ่พญาแล้วเล่าเรื่องพายัพอาละวาดจนที่ทำงานพังยับ  ทั้ง 2 คาดคั้นไผ่พญาว่าไปทำอะไร   พายัพถึงได้อยากเจอตัวไผ่พญาขนาดนี้   ไผ่พญาบอกไม่ได้เพราะไม่อยากให้เพื่อนเดือดร้อน   ไผ่พญาจึงตัดสินใจจะไปจากที่นี่ซักพักให้เรื่องเงียบก่อน   ก่อนที่ไผ่พญาจะฝากฝังลำไยให้กับเพื่อนรักทั้ง 2 ช่วยดูแล  

วันรุ่งขึ้นไผ่พญารีบขึ้นรถทัวร์หวังจะไปให้ไกลที่สุด   เป้าหมายของเธอ คือ ภูเก็ตเพราะเธอคิดจะหางานทำพร้อมกับหลบซ่อนตัวไปพลางๆ แต่แค่นครปฐม ไผ่พญาก็ต้องเจอกับตำรวจที่ตั้งด่านตรวจซะแล้ว   ไผ่พญารีบหาทางเอาตัวรอดทันที   ไวเท่าความคิด ไผ่พญารีบคว้ากระเป๋าจะลงจากรถ   แต่ก็ไม่ทัน   เมื่อไผ่พญาได้พบกับ  ชาติกล้า...( อัศนัย  เทียนทอง) สารวัตรมือปราบที่เรียกไผ่พญาเอาไว้   ไผ่พญาหน้าซีดเพราะถ้าตรวจกระเป๋า จะต้องรู้แน่ๆ ว่าเธอคือใคร   แต่แล้วไผ่พญาก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าในกระเป๋าของเธอมีแต่หนังสือต่างๆ   พร้อมกับจดหมายแนะนำตัวว่าตัวเองเป็นครู   ระหว่างนั้นตำรวจที่ตรวจค้นบนรถรีบเข้ามาแจ้งว่าพบหญิงสาวผู้ต้องสงสัยแล้ว  ไผ่พญาหันไปก็เห็นว่าเป็นผู้หญิงที่นั่งข้างๆ เธอ   ในมือมีกระเป๋าที่เหมือนของเธอ   ใช่แล้ว !  เพราะกระเป๋าของเธอกับกระเป๋าของผู้หญิงคนนั้นดันเหมือนกัน   จึงทำให้ไผ่พญารอดพ้นจากการจับกุมของชาติกล้ามาได้อย่างหวุดหวิด  

ไผ่พญาดูจดหมายแนะนำตัวก็ได้รู้ว่าคุณครูที่โดนจับแทนเธอไปนั้นกำลังจะไปที่ฟาร์มสุข   แล้วสมองอันฉลาดแกมโกงของไผ่พญาก็ทำงานทันที   เพราะถ้าเธอเนียนเป็นครูแล้วหลบอยู่ในฟาร์มสุขไปเรื่อยๆ ก็ดีเหมือนกัน   แล้วนั่นไผ่พญาจึงได้มุ่งหน้าไปสู่ฟาร์มสุขทันที

แต่ยังไม่ถึงที่ฟาร์มสุข ไผ่พญาก็มีปัญหาซะแล้ว  เมื่อเจ้ารถสองแถวดันเสียกลางทางทำให้เธอต้องลงเดินเท้า  แต่ก็เหมือนมีรุกขเทวดาได้ส่ง  ตะวันฉาย...(พูลภัทร  อัตถปัญญาพล) ปศุสัตว์อำเภอหนุ่มรูปงามเข้ามาช่วย   ไผ่พญาดีใจเมื่อรู้ว่าตะวันฉายกำลังจะไปที่ฟาร์มสุขพอดี เธอจึงได้ขออาศัยติดรถตะวันฉายไปด้วย   โดยไม่รู้เลยว่าระยะทางและระยะเวลาจากกลางทางถึงฟาร์มสุข  ได้ทำให้ตะวันฉายประทับใจในตัวของไผ่พญาจนกลายเป็นรักแรกพบของชายหนุ่มก็ว่าได้

เมื่อมาถึงฟาร์มสุข   ไผ่พญาก็ต้องอึ้งไปเพราะฟาร์มสุขที่ทำให้เธอคิดภาพเหมือนกับสวรรค์   แต่ที่จริงแล้วมันคือฟาร์มเลี้ยงหมูที่มีกลิ่นขี้หมูลอยอบอวลนั่นเอง ไผ่พญาตัดสินใจใหม่ว่าเธอคงอยู่ดมกลิ่นขี้หมูนี่ทุกวันไม่ได้แน่ จึงได้ค่อยๆ ย่องออกมา  แต่แล้วไผ่พญาก็ได้พบกับชายคนหนึ่งกำลังทำลับๆ ล่อๆ อยู่ ก่อนจะร้องโวยวายทำให้คนภายในฟาร์มสุขต่างตกใจ   แต่แล้วสิ่งที่ไผ่พญาคิดว่าตัวเองต้องได้รับความดีความชอบก็กลับตาลปัตร เมื่อชายคนที่เธอเพิ่งเอาไม้ฟาดหัวไปนั่นคือ ภูวนัย...(ศิวัฒน์  โชติชัยชรินทร์) ผู้ที่ว่าจ้างเธอนั่นเอง   และทำให้  เผ่าพงศ์ ...(กฤตย์  อัทธเสรี) ผู้เป็นพ่อที่มีอาการอัลไซเมอร์หัวเราะเอิ้กอ้ากชอบใจ  ยังดีที่ ปลายฟ้า...(กรรณาภรณ์  พวงทอง) หมอสาวแสนสวยประจำตัวเผ่าพงศ์อยู่ด้วย   จึงช่วยปฐมพยาบาลภูวนัย   ส่วน พรรษา...(ไปรมา  รัชตะ) แม่บ้านประจำตระกูลกลับไม่พอใจทันที   ยิ่งมารู้ว่าไผ่พญา คือ ครูคนใหม่ที่จะมาสอนกริยามารยาทให้กับเด็กๆ ก็ยิ่งทำให้พรรษากลัวว่าจะยิ่งทำให้เด็กๆ ห่างจากความรู้มากขึ้นไปอีก   ไผ่พญาที่ชอบเอาชนะคนอยู่แล้วจึงได้ท้าพนันกับภูวนัยว่า ถ้าหากเธอไม่สามารถสอนเด็กๆ ได้   เธอยินดีที่จะจ่ายเงินคืนให้เป็น 2 เท่า   ที่ไผ่พญาพูดออกไปอย่างนั้นเพราะเธอไม่ชอบสายตาและความไว้ตัวที่ออกไปทางหยิ่งของภูวนัยนั่นเอง  

เสกสรร ...(ถนอม  สามโทน) เจ้าของรีสอร์ทที่อยู่ข้างๆ ฟาร์มสุขของภูวนัย   เสกสรรเป็นไม้เบื่อไม้เมากับภูวนัยมาตลอด   เพราะกลิ่นขี้หมูที่ลอยมาจากฟาร์มของภูวนัย  ทำให้ไม่มีแขกเข้ามาพักที่รีสอร์ทของเสกสรร เสกสรรจึงได้พยายามหาทางที่จะฮุบหรือไม่ก็เอาไอ้ฟาร์มหมูออกไปให้ได้

ไผ่พญาอยากจะตบปากตัวเองซักสองสามฉาดที่ดันไปท้าพนันกับภูวนัยเอาไว้   เพราะเพียงวันแรกที่เธอได้พบเด็กๆ  เพราะดูแล้วท่าทางแสบกันทุกคน  ม่านหมอก...(อังคณา  วรรัตนชัย) พี่สาวคนโตวัย 15 ขวบนั้นราวกับถอดแบบมาจากนักร้องดังเมืองปลาดิบ   ม่านเมฆ...(ชินพรรธน์ กิตติชัยวรางค์กูร) น้องชายคนเล็กวัย 10  ขวบ  แสนซนและคิดว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่   2 พี่น้องสุดป่วนก็เล่นงานไผ่พญาเข้าให้เพียงแค่วันแรกที่เจอแต่ไผ่พญาก็หาได้ยอมแพ้  จะให้ยอมได้ยังไงก็ในเมื่อพนันกับภูวนัยไปแล้วนี่  

ไผ่พญาคิดหาวิธีการรับมือต่างๆ นานา   รวมถึงการสอนแบบคุณครูจำแลง  ไผ่พญาจึงได้นำเด็กๆ ไปที่เล้าหมู   ที่นั่นทำให้เธอได้พบกับ ผจญ...(ชวนภ  โพธิ์ประเสริฐ) หนุ่มชาวอีสานบ้านเฮา ที่มาลงหลักปักฐานที่นี่  เพราะความหลงใหลในกลิ่นขี้หมู  แก้วใจ...สาวชาวใต้ผู้แสนจะเรียบร้อย และคนงานอีกจำนวนนึง   ทุกคนล้วนแต่เป็นคนร่าเริงสนุกสนานพูดจาเป็นมิตร  จะมีก็แต่ พรรณราย...(สิริลภัส  กองตระการ) ลูกสาวสุดรักสุดหวงของเสกสรร   ผู้มีใจให้กับภูวนัยอย่างเต็มที่แม้ว่าจะถูกเสกสรรสั่งห้ามยุ่งเกี่ยว   แต่เรื่องหัวใจมันห้ามกันได้ยังไง   พรรณรายมักจะไปมาหาสู่  เรียกว่าเข้ามาจีบภูวนัยที่ฟาร์มสุขแทบทุกวัน  นั่นเองจึงทำให้พรรณรายได้พบไผ่พญา   พรรณรายวางท่ารังเกียจไผ่พญาตั้งแต่แรกเห็น   จะว่าไปไม่ใช่ไผ่พญาหรอกที่เป็นคนแรกที่พรรณรายตั้งท่ารังเกียจรังงอนใส่   แต่พรรณรายจะปฏิบัติตัวเป็นปรปักษ์กับผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้ภูวนัย   เพราะเธอถือคติว่ากันไว้ดีกว่าแก้   เพราะรักแท้มักแพ้ระยะทาง

ภูวนัยถูกพักราชการเนื่องจากทำงานผิดพลาดหลายครั้ง  ทำให้ไผ่พญาได้เจอภูวนัยที่ฟาร์มบ่อยขึ้น  ไผ่พญารู้สึกประทับใจในความคิดของภูวนัยที่เอาหมูออกมาเลี้ยงในทุ่งโล่งเหมือนวัว  และความสวยงามของฟาร์มที่เหมือนรีสอร์ตเลยทีเดียว   แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าความสวยนั้นกลับปราศจากความมีชีวิตชีวา   จนเธอพาลนึกไปถึงภูวนัยที่หน้านิ่งเป็นหินไร้ความรู้สึกตลอดเวลา 

ไผ่พญาแอบติดต่อกลับไปหาขิงและกระดังงาเพื่อถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของผู้เป็นแม่   ทั้ง 2 พยายามถามหาที่อยู่ของไผ่พญา   แต่ไผ่พญาไม่บอกเพราะเธอไม่รู้ว่าจะอยู่ที่นี่ไปได้อีกนานแค่ไหน   ทันทีที่ไผ่พญาวางสาย   จึงได้เห็นว่าพายัพกับลูกน้องกำลังจับตัวขิงและกระดังงาเอาไว้เพื่อรีดความลับจากไผ่พญา
  
ไผ่พญาต้องทนอยู่กับคนหน้ายักษ์ (ภูวนัย) ไปจนกว่าเรื่องจะเงียบลง   การปฏิบัติหน้าที่ครูจำเป็นจึงได้เริ่มขึ้น   ครั้งนี้ไผ่พญาตั้งรับสถานการณ์ได้ดี   แม้ว่าเด็กๆ จะพยศกับเธอแค่ไหน   ไผ่พญาเริ่มจับความชอบของเด็กๆ แต่ละคน   แล้วไผ่พญาก็ได้มารู้ว่าม่านหมอกนั้นแอบชอบตะวันฉาย   เมื่อไผ่พญาจับจุดของม่านหมอกได้   ทำให้ไผ่พญาเปลี่ยนจากครูสอนหนังสือเป็นการสอนจริตหญิงเพื่อให้ผู้ชายชอบ   โดยไม่รู้เลยว่าผจญหนุ่มคนงานเองก็แอบชอบม่านหมอกเช่นกัน

ขณะเดียวกันไผ่พญาก็ต้องตกใจเมื่อได้พบชาติกล้ามาปรากฏตัวที่ฟาร์มสุข   ชาติกล้าสงสัยในอาการลุกลี้ลุกลนของไผ่พญา  ไผ่พญากำลังตกที่นั่งลำบาก   แต่แล้วปลายฟ้าก็ปรากฏตัวขึ้นช่วยเธอเอาไว้   เพียงแค่ชาติกล้าพบปลายฟ้า   อาการของชาติกล้าก็เปลี่ยนไปทันที   ไผ่พญามองชาติกล้ากับปลายฟ้าปราดเดียวก็รู้ว่าชาติกล้านั่นชอบปลายฟ้าอยู่   แต่แท้ที่จริงแล้วปลายฟ้าแอบชอบภูวนัยมาตั้งแต่เด็ก   โดยที่เธอ  ชาติกล้า   และภูวนัยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ยังเล็กนั่นเอง   จนกระทั่งภูวนัยได้พบรักกับเหมือนฝัน  และทั้ง 2 ทำท่าจะแต่งงานกัน   แต่แล้วก็เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่และทำให้เหมือนฝันจากไปอย่างไม่วันกลับ   ภูวนัยเปลี่ยนไปตั้งแต่นั้น   ปลายฟ้ารู้ดีว่าภูวนัยยังจดจำความรักครั้งนั้นอยู่   เช่นเดียวกับปลายฟ้าที่เธอเองก็ยังคงความรู้สึกนั่นอยู่เช่นเดิม   ชาติกล้าเองก็ได้แต่เก็บความรู้สึกของตัวเองที่แอบชอบปลายฟ้าเอาไว้เช่นกัน
  
หลังจากภูวนัยถูกพักราชการ  ชาติกล้าก็ได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าหน่วยแทนภูวนัย  แม้จะอยู่ที่ฟาร์ม แต่ภูวนัยก็ติดตามข่าวของพายัพที่ขึ้นมามีอิทธิพลแทนที่สมสุขที่ตายไปโดยตลอด   ภูวนัยไม่เห็นด้วยกับชาติกล้าที่แถลงข่าวว่าในหน่วยมีหนอนบ่อนไส้  และคนๆ นั้นคือ พ.ต.อ. มารุต (นึกคิด บุญทอง) ซึ่งเป็นหัวหน้าของทั้ง 2 คน    ภูวนัยตัดสินใจเข้ากรุงเทพแล้วขอคุยกับชาติกล้าว่าตนเองจะหาหลักฐานมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของมารุตให้ได้  เมื่อชาติกล้าไม่สามารถหยุดภูวนัยได้ จึงตัดสินใจเปิดเผยว่า ตัวเขาเองต่างหาก คือ หนอนบ่อนไส้คนนั้น   ภูวนัยและชาติกล้ายิงต่อสู้กัน  ภูวนัยพลาดท่าถูกยิงตกน้ำไป

คืนนั้น...หลังจากที่ภูวนัยถูกชาติกล้ายิงตกน้ำแล้ว ภูวนัยรอดตายอย่างปาฏิหาริย์ เพราะได้พลเมืองดีช่วยเอาไว้  ไผ่ตกใจเมื่อเห็นข่าวว่าภูวนัยถูกยิง รีบเดินทางไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล แล้วก็ได้พบว่าภูวนัยที่ยังไม่ได้สติกำลังตกอยู่ในอันตราย   ตอนนี้ไผ่พญาคิดออกอย่างเดียวว่าคนที่จะช่วยภูวนัยที่กำลังบาดเจ็บสาหัสได้ คือ ตัวเธอเองเท่านั้น   เมื่อชาติกล้ารู้ว่ายังกำจัดภูวนัยไม่ได้  จึงต้องรีบให้ข่าวว่าภูวนัยเป็นตำรวจเลว ร่วมแก๊งกับพายัพเพื่อค้ายาเสพติด   ไปจนถึงการตายของมารุตที่ชาติกล้าก็โยนความผิดว่าเป็นฝีมือของภูวนัย

หลังจากภูวนัยเริ่มรู้สึกตัว   สิ่งแรกที่ภูวนัยนึกได้ นั่นคือ การแก้แค้นชาติกล้า   แต่เพราะสภาพร่างกายของเขายังไม่พร้อมทำให้ภูวนัยต้องพักรักษาตัวโดยมีไผ่พญาคอยดูแล ด้วยความใกล้ชิดทำให้ภูวนัยกับไผ่พญาเริ่มมีใจให้กัน   ไผ่พญาแปลกใจที่ภูวนัยลืมความรักที่เขามีให้กับเหมือนฝันแล้วเหรอ   ภูวนัยจึงเล่าความจริงให้ไผ่พญาฟังว่าชาติกล้าบอกความจริงกับเขาก่อนที่ชาติกล้าจะยิงเขา ว่าเหมือนฝันเป็นลูกสาวของเสี่ยเกี๊ยะ...พ่อค้ายารายใหญ่จากภาคอีสาน ถูกส่งมาให้ประกบความเคลื่อนไหวของภูวนัยเพื่อประโยชน์ในการส่งข่าวให้กับผู้เป็นพ่อ   จนกระทั่งเสี่ยเกี๊ยะเกิดการหักหลังกับสมสุข   สมสุขจึงให้ชาติกล้าไปฆ่าเหมือนฝันเพื่อเชือดไก่ให้ลิงดู ไผ่พญารับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดของภูวนัยที่โดนแม้กระทั่งคนรักหักหลัง ภูวนัยเป็นห่วงทุกคนที่ฟาร์มสุข  แต่ขณะนี้เขากำลังกลายเป็นผู้ต้องสงสัย   ไผ่พญาจึงอาสากลับไปส่งข่าวที่ฟาร์มให้  พรรณรายเริ่มปะติดปะต่อได้ว่า  ไผ่พญาปลอมตัวมาเป็นครู และกำลังจะแฉเรื่องของไผ่พญาว่าเป็นครูกำมะลอ   จากหลักฐานที่เธอได้มานั่นเอง   แต่มีหรือที่ไผ่พญาจะไม่รู้ทัน   ไผ่พญาจึงจากมาก่อนที่พรรณรายจะเปิดโปงเธอ  

แต่ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ภูวนัยรู้ความจริงว่าไผ่พญาเป็นใคร   เขาโกรธไผ่พญาที่หลอกลวงเขาเหมือนคนอื่น   แม้ว่าไผ่พญาพยายามจะบอกกับภูวนัยหลายทีแต่ก็ไม่มีโอกาส   ภูวนัยจากมาด้วยความเสียใจ   แต่สิ่งที่เขาต้องทำก่อนก็คือการแก้แค้นชาติกล้าและพายัพ   ซึ่งตอนนี้ความเหิมเกริมของพายัพสร้างความไม่พอใจให้กับแม่เลี้ยงรัญญา ...(ศิริพิชญ์  วิมลโนช) เจ้าแม่ผู้คุมเรื่องผิดกฎหมายทางภาคเหนือ /  เสี่ยแคน ...(ศตวรรษ  ดุลยวิจิตร) ผู้มากอิทธิพลทางภาคอีสาน /  กำนันเต่า ...(วีระชัย  หัตถ์โกวิท) ผู้คุมธุรกิจทางด้านตะวันตกทั้งหมด /  นายหัวคึก ...(พิพัฒน์พล  โกมารทัต) ผู้เป็นใหญ่ในภาคใต้ / ส่วนผู้ที่เคยคุมเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลก็คือสมสุขนั่นเอง   ทั้ง 5 คนคือ ผู้คุมธุรกิจสีดำของประเทศไทยทั้งหมดโดยแบ่งการปกครองเป็นภาค   และไม่ยุ่งเกี่ยวกัน   เพราะทั้งอำนาจและเงินทอง   ทั้ง 5 คนต่างก็ไม่มีใครยิ่งหย่อนไปกว่าใคร   จนกระทั่งพายัพเด็ดหัวสมสุขแล้วขึ้นเป็นใหญ่แทน   พายัพก็เริ่มคิดการใหญ่   พายัพเปิดโต๊ะคุยกับ  4 ผู้ยิ่งใหญ่ถึงผลประโยชน์ว่าเขาต้องการจะขอส่วนแบ่งเพิ่ม   เมื่อโดนลูบคม   บรรดาเจ้าพ่อเจ้าแม่ที่ยิ่งใหญ่ต่างก็พากันหัวเสีย   ยกเว้นก็แต่นายหัวคึกที่ไม่ขวางทางน้ำที่กำลังเชี่ยวพร้อมกับ ล็อบบี้แม่เลี้ยงรัญญา  เสี่ยแคนและกำนันเต่าให้เห็นด้วย   แล้วนั่นเองพายัพเริ่มพาตัวขึ้นสู่จุดที่ตอนนี้แม้แต่เทวดาก็ห้ามไม่อยู่   พายัพกระจายยาเสพติดมากขึ้น   เริ่มแผ่อิทธิพลมากขึ้นจนสังคมเริ่มกลายเป็นสังคมแห่งอาชญากรรม  


ภูวนัยวางแผนลอบสังหารชาติกล้ากับพายัพ   แต่เพราะตอนนี้ความแข็งแกร่งของพายัพและชาติกล้านั่นเกินกำลังของภูวนัย   ทำให้ภูวนัยพลาดท่าอีกครั้ง   ยังดีที่คราวนี้ภูวนัยได้รับการช่วยเหลือจากชายลึกลับคนนึงที่มาช่วยภูวนัยได้อย่างหวุดหวิด   ก่อนที่ภูวนัยจะมารู้ทีหลังว่าเขาคือ  พลตำรวจตรีอภิวัฒน์...(จิราวัฒน์  วชิรศรัณย์ภัทร) นายตำรวจผู้รักชาติเป็นที่สุด   แล้วยังเป็นหัวหน้าของมารุตโดยตรง   อภิวัฒน์เล่าให้ภูวนัยฟังถึงภารกิจและหน้าที่ของเขาว่า  ตอนนี้บ้านเมืองกำลังแหลกเหลวเพราะยาเสพติดและสิ่งชั่วๆ   มารุตได้รับมอบหมายให้ดึงภูวนัยมาร่วมงานแต่เสียดายที่พวกมันรู้ตัวเสียก่อนทำให้มารุตต้องตายไป   อภิวัฒน์พร้อมหนุนสิ่งที่ภูวนัยต้องการทำเพราะมันคือการกำจัดคนชั่วเพื่อให้สังคมไทยกลับมาอยู่อย่างสงบอีกครั้ง   ภูวนัยบอกกับอภิวัฒน์ว่าตอนนี้เราจะเอากำลังที่ไหนเพราะพายัพและ 4 เสือต่างก็มีอำนาจมากเหลือเกิน   อภิวัฒน์จึงบอกภูวนัยว่ามีผู้ช่วยคนสำคัญที่จะมาช่วยภูวนัยนั่นก็คือ  สมสุข นั่นเอง

ภูวนัยตกใจเมื่อเห็นสมสุขปรากฏตัวอีกครั้ง   ภูวนัยปฏิเสธที่จะร่วมมือกับโจร   อภิวัฒน์จึงบอกว่าการจะจับโจรต้องใช้โจรจับ  สมสุขเองก็อาสาช่วยทุกอย่างเพราะเขาอยากเห็นสิ่งเดียวคือความย่อยยับของ  ชาติกล้าและพายัพนั่นเอง

ภูวนัยเริ่มแผนการให้เสือกัดกันเองโดยการใส่ร้ายให้พวก 4 เสือเข้าใจผิดกันเอง    สถานการณ์เริ่มบานปลายเพราะต่างก็ไม่มีใครยอมใคร   พายัพเองก็หัวเสียที่อนาคตที่กำลังจะรุ่งกลับต้องวุ่นวาย   แล้วพายัพก็เริ่มสงสัยว่าต้องมีคนวางแผนทำอย่างนี้   จนกระทั่งพายัพสืบรู้ว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของภูวนัย

พายัพอาศัยวิธีที่โหดเหี้ยม   นั่นก็คือการฆ่าเผ่าพงศ์   พายัพคิดว่าถ้าเผ่าพงศ์ตายภูวนัยย่อมต้องมางานศพของผู้เป็นพ่ออย่างแน่นอน   แล้วก็จริงอย่างที่พายัพคิด   ภูวนัยแอบมางานศพของเผ่าพงศ์ด้วยความเคียดแค้นที่สุด   ชาติกล้าเองเพื่อต้องการกำจัดเสี้ยมหนามอย่างภูวนัยให้หมดไป จึงจับม่านเมฆกับม่านหมอกเป็นตัวประกัน   ภูวนัยจะไม่ยอมให้ใครต้องตายเพราะเขาอีกจึงรีบไปช่วยหลานทั้ง 2 คน   ขณะที่ภูวนัยกำลังจะพลาดท่าถูกพายัพเก็บ   ไผ่พญา  สมสุข  และอภิวัฒน์  ก็มาช่วยไว้ได้ทัน

ภูวนัยนำข้อมูลลับทั้งหมดออกมาเปิดโปง  โดยมีสมสุขเป็นพยานมัดผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าพ่อ เจ้าแม่  ตำรวจ  นักการเมือง  ข้าราชการชั่วทั้งหลายแหล่   ที่มีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันกับอำนาจมืดทั้งหลาย   ภูวนัยได้รับเหรียญกล้าหาญที่นำความสงบสุขและชื่อเสียงของตำรวจกลับมาอีกครั้ง ส่วนบทสรุปของความรักหลายเส้าจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามได้ใน “คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ” ทุกวันพุธ และพฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี

แกลลอรีคุณชายเลี้ยงหมู...คุณหนูเลี้ยงแกะ