เรื่องย่อภูตสาวคาเฟ่
เรื่องย่อละครภูตสาวคาเฟ่
“ ฉันถูกขังมานานเหลือเกิน
เวลานานเนิ่นเกินกว่าจะรอคอย
เพียงใครสักคนเหลียวแลฉันหน่อย
มาช่วยปลดปล่อยฉันพ้นจากกรง ”
ลินิน...นักร้องสาวพราวเสน่ห์กำลังร้องเพลงขับกล่อมอยู่บนเวทีประกวดเพลงลูกทุ่ง ทุกสายตาของคนดูจับจ้องมาที่ลินินอย่างเคลิบเคลิ้มในน้ำเสียงที่กังวาลดังแก้วใส ทันทีที่ลินินร้องจบ เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั้งฮอล และคณะกรรมการกำลังจะบอกว่าการร้องเพลงของลินินจะผ่านหรือไม่ แต่แล้วทันใดนั้นเสียงของชายคนนึงก็ดังขึ้น “อ้าวๆ...ตื่นๆ ถึงแล้วๆ”
ลินินสะดุ้งตื่นจากฝันก่อนจะพบว่าตัวเองนั่งอยู่บนรถตู้ที่เธอเดินทางจากอีสานบ้านเฮาเข้ามาที่เมืองกรุงเพื่อต้องการขุดทองในเมืองหลวงเมืองฟ้าอมรที่ใครๆก็คิดว่าจะรวยจากที่นี่ เช่นเดียวกับลินินที่ต้องการหางานทำเพื่อส่งเงินกลับไปทดแทนบุญคุณลุงและแม่ที่เลี้ยงเด็กกำพร้าอย่างเธอมาตั้งแต่เด็ก โดยที่ลินินได้แต่หวังในใจลึกๆว่าจะมีใครมาเห็นความสามารถในการร้องเพลงของเธอ และเธออาจจะได้เป็นนักร้องอย่างที่ฝันก็ได้ แต่เรื่องเฉพาะหน้าที่ลินินต้องทำก่อนตอนนี้ก็คือ การหางานทำให้เร็วที่สุด เพราะทั้งเนื้อทั้งตัวเธอมีเงินติดตัวแค่ห้าร้อยเท่านั้น แต่แล้วลินินก็ได้บททดสอบทันทีจากเมืองหลวง เมื่อลินินโดนกระชากกระเป๋าจากโจรกรุง แต่เจ้าโจรกรุงเองก็ได้เจอกับบททดสอบเหมือนกัน เมื่อไม่รู้ว่าลินินเองก็เป็นสาวนักบู๊ที่ขึ้นชื่อที่บ้านเกิดเหมือนกัน ลินินไล่ตามโจรไปติดๆ
ลินินกำลังจะจับเจ้าโจรนั่นได้ แต่แล้วทันใดนั้นก็มีชายคนนึงชนเข้ากับลินิน ทำให้ลินินล้มลงแล้วเจ้าโจรก็หนีไปได้อย่างลอยนวล ลินินโมโหเป็นที่สุด เพราะเงินห้าร้อยที่โดนขโมยไปคือทางรอดเดียวที่เธอมีอยู่ตอนนี้ ลินินหันไปเอาเรื่อง เตชัส...ชายหนุ่มที่เพิ่งเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯเช่นเดียวกัน เตชัสจะช่วยพยุงลินินแต่ลินินกลับซัดแม่ไม้มวยไทยใส่เตชัส เพราะเธอสงสัยว่าเตชัสคือพวกเดียวกับเจ้าโจรเมื่อครู่นี้ ไม่อย่างนั้นเตชัสจะเข้ามาขวางเธอได้อย่างถูกจังหวะอย่างนี้ได้ยังไง เตชัสพยายามอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ลินินไม่ฟัง และนั่นจึงทำให้ลินินกับเตชัสต้องไปโรงพักด้วยกัน และนั่นจึงทำให้เตชัสต้องถูกจับเพราะเตชัสดันไปไม่รู้ตัวเมื่อเจ้าโจรแอบเอากระเป๋าสตางค์ของลินินยัดใส่กระเป๋าของตนตอนไหนไม่ทราบได้ แล้วนั่นจึงทำให้ทั้งลินินและเตชัสกลายเป็นศัตรูคู่แค้นที่อย่าหวังว่าจะดีกันได้อีกเลยชาตินี้
หลังจากที่ลินินออกจากโรงพัก ลินินจึงเพิ่งนึกออกว่าสิ่งที่เธอต้องทำเป็นอย่างแรกก็คือการหางานทำ แล้วเหมือนโชคชะตาเล่นตลก และนำพาให้ลินินมายืนอยู่หน้า “ นิวหรรษาคาเฟ่ ” ซึ่งกำลังรับสมัครพนักงานต้อนรับหลายอัตรา หลังจากที่ปิดบริการนานแรมเดือนนัยว่าเพื่อปรับปรุงการบริการชั่วคราว และเปิดให้บริการใหม่แก่บรรดาเหยี่ยวราตรีด้วยรูปโฉมทันสมัยฟู่ฟ่ากว่าเดิม และเพียงแค่แรกเห็น เสี่ยเด่นภูมิกับจักรพล สองพ่อลูกเจ้าของคาเฟ่ก็รับสมัครลินินทันที เป็นเพราะเสี่ยเด่นภูมิถูกใจในความสวยน่ารักพูดจาฉาดฉานกล้าแสดงออกของลินิน เช่นเดียวกับจักรพลหนุ่มเจ้าสำอางค์นิสัยเจ้าชู้ประตูดินชอบกินไก่วัด เรื่องนี้สองพ่อลูกต่างก็รู้กันเพราะมีนิสัยคล้ายกันนั่นเอง แต่ยิ่งลินินได้คะแนนเสน่หาจากสองพ่อลูก เธอก็ยิ่งถูกพวงดาวกับพราวเดือนสองนักร้องดาวเด่นประจำคาเฟ่ริษยา
คืนแรกของการทำงานของลินินที่ทำท่าจะผ่านพ้นไปด้วยดีกับหน้าที่สาวรีเซฟชั่น แต่แล้วลินินก็ต้องอึ้งไปเมื่อเจอกับเตชัส เพียงแค่เตชัสปรากฏตัวในคาเฟ่ สาวน้อยสาวใหญ่ต่างหลงเสน่ห์ของเตชัสกันในบัดดล ยกเว้นก็เพียงลินินที่ปะทะคารมและเอาต้มโคลงปลากรอบสาดใส่เตชัสทันที เพียงเพราะเธอคิดว่าเตชัสกำลังจะมาเอาเรื่องเธอนั่นเอง เรื่องราวทำท่าจะบานปลายจนทั้งหมดต้องแยกทั้งคู่ออก ป้าโฉม...หัวหน้าพนักงานเปิดห้องพักหนึ่งในจำนวนห้องพักของบ้านพักพนักงานหญิงให้หล่อนเข้าพักได้เป็นอย่างดี คืนนั้นขณะที่หล่อนกำลังเคลิ้มๆอยู่ก็ได้ยินเสียงดนตรีเพลงหวานเศร้าดังมาจากด้านนอกห้องพัก ไฟในห้องก็ติดๆดับๆ หน้าต่างห้องทั้งสองบานก็เปิดปิดปึงปังคล้ายๆ มีคนกระชากหน้าต่างปิดเต็มแรง ทำเอาหญิงสาวแทบจะไม่ได้หลับได้นอนทั้งคืน ลินินพยายามจะไม่คิดอะไรมากกว่าเกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิคบางประการ แต่หลังจากผ่านพ้นไปก็ยังเกิดเรื่องประหลาดต่างๆอยู่ดี อาทิซีดี.ที่หล่อนไม่เปิด แต่กลับทำงานเล่นเพลงของมันเองได้โดยอัตโนมัติ ลินินยังคงได้ยินเสียงดนตรีหวานเศร้าชวนเคลิบเคลิ้มทำนองเพลงเก่าดังแว่วมาจากที่ใดที่หนึ่งอยู่เสมอ ยิ่งไปกว่านั้นลินินยังรู้สึกว่าหล่อนถูกสายตาลึกลับคู่หนึ่งคอยจับจ้องมองดูหล่อนตลอดเวลา
รุ่งขึ้นขณะที่เตชัสกับดาบเติ้ล กำลังรายงานภารกิจให้กับ ผู้การพิทยาฟัง เพราะว่าแท้ที่จริงแล้วเตชัส คือนายตำรวจหนุ่มไฟแรง ฝีมือดี และที่สำคัญเห็นแก่ความถูกต้องมากกว่าเงินและสินบน นั่นเองจึงเป็นสาเหตุที่ผู้การพิทยาเรียกตัวเตชัสมารับภารกิจสืบหาจับกุมเด่นภูมิกับจักรพล ที่ผู้การพิทยาหรือคนทั่วไปต่างก็รู้ว่าสองพ่อลูกทำเรื่องผิดกฏหมายสารพัด แต่ที่จับไม่ได้เพราะสองพ่อลูกได้ติดสินบนเจ้าพนักงาน ทำให้เวลาที่วางแผนเข้าจับกุม สองพ่อลูกจึงได้ไหวตัวทันทุกครั้ง แต่ครั้งนี้พิทยามั่นใจและเชื่อใจว่าเตชัสจะไม่โดนซื้อเหมือนกับคนอื่นๆ เตชัสรายงานให้ผู้การพิทยาฟังว่าวันแรกยังไม่ได้เรื่องอะไรเพราะดันเจอผู้หญิงโรคจิต (ลินิน) คนเดิม แต่เตชัสก็ให้คำมั่นว่าจะต้องหาหลักฐานจับตัวเด่นภูมิกับจักรพลให้ได้อย่างแน่นอน
เช้าวันรุ่งขึ้น เพื่อนร่วมงานหลายคนต่างพากันสัมภาษณ์ลินินว่าพบเจออะไรบ้างหรือเปล่า ซึ่งหญิงสาวก็ตอบไปว่าไม่เจออะไร หล่อนแปลกใจว่าทำไมใครต่อใครจึงไม่ค่อยกล้าเข้ามาในห้องพักของหล่อนกันเลย มีแต่เรียกอยู่หน้าห้องแล้วก็รีบเผ่นแนบไปทางอื่นโดยเร็วเป็นประจำ แล้วยิ่งมารู้ว่าในแต่ละเดือนเสี่ยเด่นภูมิจะต้องปิดคาเฟ่สองครั้งคือวันพระใหญ่สิบห้าค่ำเพื่อให้อาจารย์โตมาทำพิธีทางไสยศาสตร์ ก็ยิ่งสงสัย แม้หญิงสาวจะอยากรู้อยากเห็นว่าพิธีกรรมที่ว่านั่นเป็นอย่างไรแต่หล่อนก็มักจะถูกครูนิหน่าซึ่งเป็นครูกะเทยฝึกท่าเต้นของบรรดานักร้องในคาเฟ่ ชวนไปซ้อมร้องเพลงบ้าง เต้นเพลงใหม่ๆ ชวนไปช้อปปิ้งข้างนอกบ้าง ครั้งหนึ่งลินินพบว่าห้องพักส่วนตัวของหล่อนถูกใครบางคนบุกรุกเข้ามาแต่พอถามใครก็ไม่มีใครยอมรับกันสักคน ซึ่งลินินเองก็ยังเชื่อว่าต้องเป็นใครสักคนในคาเฟ่แน่ๆ เพราะมีหลายๆคนที่ไม่ชอบหน้าเธอเท่าไหร่นัก
ขณะที่เตชัสได้รับมอบภารกิจจากผู้การพิทยาว่าเสี่ยเด่นภูมิกำลังจะมีการส่งเนื้อสดที่เป็นพวกสาวๆ ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน สิ่งที่เตชัสต้องทำก็คือการหาแหล่งที่ซ่อนที่เป็นสาวๆเพื่อช่วยเหลือ แต่ปัญหาก็คือเตชัสจะปลอมตัวเข้าไปหาข่าวยังไง ทันใดนั้นดาบเติ้ลก็เสนอความคิดขึ้นมาทันทีว่าเตชัสน่าจะไปสมัครเป็นช่างไฟที่คาเฟ่ดีกว่าเพราะสามารถเข้าถึงทุกซอกทุกมุมในคาเฟ่ได้อย่างแนบเนียน อีกทั้งสาวๆที่นั่นชอบเตชัสกันทั้งคาเฟ่ เขาจึงน่าจะทำงานง่าย เตชัสยังไม่ทันจะตอบตกลง ผู้การพิทยาก็เห็นด้วยทันที ทำให้เตชัสจึงจำเป็นต้องไปสมัครเป็นช่างไฟคาเฟ่นั่น
ทุกคนต่างพากันกรี๊ดกร๊าดชอบใจที่เตชัสจะเข้ามาเป็นช่างไฟที่คาเฟ่ ยกเว้นก็เพียงลินินที่ไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องพบต้องเจอนายเตชัสตลอดเวลาด้วย นี่เธอจะหนีนายนี่ไม่พ้นหรือไง เตชัสเหมือนรู้ว่าลินินไม่ชอบหน้าเขา เขาก็ยิ่งอยากจะแกล้ง เตชัสแกล้งทำเป็นถูกตาต้องใจลินินมากกว่าสาวในคาเฟ่คนอื่น
แต่ก็ถูกเดือนกับดาวก็ยังไม่วายป้ายสีลินินว่าลินินเป็นคนเรื่องมากและเลือกนั่งคุยกับแขกกระเป๋าหนักประเภทเสี่ยหรือหนุ่มหน้าตาหล่อขั้นเทพเท่านั้น ทั้งสองจึงยิ่งเหม็นขี้หน้ากันเข้าไปอีก
ลินินฉายแววนักร้องออกมาจนไปเข้าตา ครูฉลอม นักแต่งเพลงสังกัดค่ายเพลงชื่อดัง ที่เป็นที่นับหน้าถือตาและทุกคนในวงการให้ความเคารพในความสามารถและความเมตตา ฝีมือการแต่งเพลงของครูฉลอมเข้าขั้นเทพ พวกนักร้องที่อยากโด่งดังเป็นดาวคาเฟ่มักประจบสอพลอเพื่อขอให้เขาแต่งเพลงดีๆให้ ครูฉลอมถูกตาต้องใจในน้ำเสียงและนิสัยของลินิน จนทำให้ลินินได้เป็นนักร้องที่คาเฟ่ ลินินดีใจที่ในที่สุดความฝันของเธอก็เป็นจริง แต่ก็เหมือนกับทุกขลาภ เพราะเมื่อได้ดีย่อมมีคนอิจฉา เดือนกับดาวหมั่นไส้หมั่นหาเรื่องกระทบกระทั่งลินินตลอด แต่ทุกครั้งคนอื่นมักจะเห็นว่าเธอผิดเพราะเป็นฝ่ายหาเรื่องทั้งสองสาวก่อนนั่นเอง
ครูนิหน่าปลอบใจลินินให้สงบอารมณ์เสียบ้างเพราะคติของงานบริการก็คือหากมีปัญหาใดๆเกิดขึ้นผู้ให้บริการต้องเป็นฝ่ายผิดเสมอ เดือนซึ่งนึกชอบหมวดเตชัสเป็นพิเศษพยายามทอดสะพานหวังจะจับหมวดหนุ่มพาหล่อนออกไปเที่ยวข้างนอกต่อ หมวดเตชัสอยากโชว์พาวเขาจึงซื้อชั่วโมงพาเดือนออกไปแต่ที่แท้เขากลับพาหล่อนไปแค่ร้านข้าวต้มใกล้ๆกับนิวหรรษาคาเฟ่เท่านั้นเอง เดือนกลับมาคุยฟุ้งว่าหมวดหนุ่มรักใคร่หล่อน อนาคตข้างหน้าเขาอาจจะพาหล่อนออกจากคาเฟ่แล้วไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันข้างนอก ลินินได้ยินก็แกล้งยกมือโมทนาสาธุส่งให้ซะเลย
นักร้องสาวได้ฟังจังหวะดนตรีหวานเศร้าเพลงเดิมซ้ำๆกันบ่อยเข้าก็ชักชินหู แต่ที่สำคัญ เนื้อเพลงที่เธอได้ยินเป็นเนื้อเพลงที่เธอร้องติดปากโดยไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงได้ร้องออกมาได้ แต่เนื้อหาเพลงนั้นเธอไม่รู้จะหาฟังได้จากที่ไหน ตกดึกลินินฝันเห็นหญิงสาวคนหนึ่งนั่งห้อยขาบนขอบหน้าต่างท่ามกลางแสงจันทร์ หญิงสาวผู้นั้นคือผู้ฮัมจังหวะดนตรีที่ลินินได้ยินทุกคืน ครั้นลินินจะลุกขึ้นไปหาหญิงสาวลึกลับคนนี้หล่อนก็ไม่อาจจะขยับเขยื้อนตัวหรือแม้แต่จะอ้าปากถามชื่อเธอออกไปก็ยังทำไม่ได้ วันต่อมาลินินนำเรื่องที่หล่อนถูกผีอำเมื่อคืนไปเล่าให้ป้าโฉมฟัง ป้าโฉมตกใจมากถึงกับปากคอสั่นทำท่าจะเป็นลมแต่ไม่ยอมอธิบายความอะไร ยิ่งสร้างความสงสัยจนอยากจะรู้เรื่องของหญิงสาวลึกลับมากขึ้น
ป้าโฉมเอาข่าวไปปูดให้พวกคนทำงานทุกคนฟัง ผลก็คือพวกพนักงานแม้แต่นักร้องหญิงชายก็พากันสวมสร้อยห้อยประคำกันเป็นแถว บางรายเป็นหนักถึงกับผูกด้ายสายสิญจน์ที่ข้อมือ แต่ละคนมีอาการล่อกแล่กคล้ายผวาอะไรสักอย่างตามๆกัน เสี่ยเด่นภูมิรีบตามอาจารย์โตมาทำพิธีสยบสิ่งชั่วร้ายในคาเฟ่ แต่กลับทำให้ทุกคนผวาหนักเพราะจู่ๆตุ๊กแกตัวเป้งก็ตกลงใส่ขันน้ำมนจนกระจาย ลินินได้เห็นพิธีกรรมนี้แต่หล่อนกลับคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหลไร้สาระ ครูนิหน่าให้ด้ายสายสิญจน์หล่อนผูกข้อมือแต่หญิงสาวก็ปฏิเสธเพราะถือว่าตัวเองเป็นคนดีผีย่อมคุ้มครอง
แต่สิ่งที่หญิงสาวคิดนั้นกลับไม่เป็นผลเพราะนับวันลินินก็จะฝันร้ายเห็นหญิงสาวลึกลับในสภาพหน้าเขียวช้ำตาโปนมายืนปลายเตียงพร้อมยื่นมือแกว่งไกวไปมา ก่อนลินินจะรู้สึกตัวตื่นหล่อนก็ได้ยินเสียงหญิงสาวลึกลับคนนั้นร้องบอกว่าช่วยด้วย. นับเป็นปริศนาสำหรับสาวมั่นอย่างลินินยิ่งขึ้น ลินินใช้วิธีไปตักบาตรแผ่กุศลให้กับหญิงสาวลึกลับคนนี้จนพบกับหมวดเตชัสซึ่งจะขี่รถผ่านหน้าหล่อน หมวดหนุ่มแกล้งจอดรถแซวว่าลินินจะทำบุญเพื่อล้างบาปที่เคยหลอกต้มสามีชาวบ้านหรือเปล่า ลินินโมโหมากถึงกับเผลอตัวปาถุงข้าวกับแกงใส่ชายหนุ่มจนทำให้เตชัสสกปรกเลอะเทอะ เดือนรู้เข้าก็เอาไปฟ้องเสี่ยเด่นภูมิออดอ้อนให้เสี่ยไล่ลินินออกจากงานโทษฐานที่ลินินทำร้ายพนักงานด้วยกัน แต่เสี่ยเด่นภูมิไม่บ้าจี้ตาม
ลินินยังติดใจเรื่องเสียงดนตรีของหญิงสาวลึกลับฮัม แต่เมื่อไม่มีใครสามารถเฉลยคำตอบนั้นได้ หญิงสาวจึงตัดสินใจเข้าไปถามครูฉลอมพร้อมกับฮัมดนตรีเพลงนั้นให้ครูนักแต่งเพลงฟัง ครูฉลอมถึงกับหน้าซีดอึ้งอย่างตกใจไปชั่วขณะ ลินินคิดว่าครูฉลอมจะต้องรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่ หญิงสาวเพียรถามเอาความจริงจากเขา เดือนกับดาวเข้าใจผิดนึกว่าลินินคิดจะให้ท่าครูฉลอมเพื่อหลอกเขาแต่งเพลงพิเศษให้ร้อง ทั้งคู่จึงช่วยกันวางแผนสกัดดาวรุ่งสุดฤทธิ์ทั้งๆที่แต่ไหนแต่ไรมานักร้องสาวคู่นี้ก็ไม่กินเส้นกันเลย ลินินหมั่นไส้แกล้งพูดไปว่าหล่อนคิดจะทำอย่างนั้นจริงๆแม้จะต้องสูญเสียอะไรเพื่อแลกเปลี่ยนกันบ้างก็ยอม แล้วหากว่าหล่อนโด่งดังขึ้นมาในวันข้างหน้าก็จะขจัดพวกนักร้องมาเฟียออกไปจากนิวหรรษาให้หมด นักร้องสาวทั้งสองทุกข์หนักกลัวลินินจะเด่นดังกลบชื่อเสียงของพวกหล่อนในวันข้างหน้า จึงสุมหัวกันวางแผนจะกำจัดลินินออกไปจากเส้นทางหากิน แม้จะต้องใช้วิธีเหี้ยมโหดก็ตาม เจ้านพบอดี้การ์ดดูแลความปลอดภัยหรือเรียกง่ายๆก็คือนักเลงคุมคาเฟ่กลายเป็นเครื่องมือที่สองนักร้องสาวหว่านล้อมให้เป็นคนกำจัดลินินออกไป ทีแรกเจ้านพก็เริ่มต้นด้วยการพูดจาแทะโลมนักร้องสาว แต่พอลินินทำเฉยเมยเจ้านี่ก็หนักข้อกล้าลวน ลามแตะเนื้อต้องตัวหล่อน ลินินจำเป็นต้องสอนท่าแม่ไม้มวยไทยที่หล่อนร่ำเรียนมาจากบ้านนอกจนเจ้านพตาปิดแก้มโปนไปหลายวัน
ฤทธิ์เดชไม่ธรรมดาของนักร้องสาวทำให้เดือนกับดาวต้องทบทวนแผนใหม่รัดกุมขึ้น เจ้านพทำท่าจะถอดใจไม่กล้าลวนลามลินินแต่มันก็ต้องแพ้ใจกับเงินค่าจ้างของสองนักร้องสาว นอกจากนี้ดาวยังบอกว่าถ้าสามารถกำจัดลินินไม่ว่าจะแบบเป็นหรือแบบตายสำเร็จ หล่อนจะยอมเป็นของขวัญดิ้นได้มอบเป็นรางวัลพิเศษให้นอกเหนือจากเงินค่าจ้าง เจ้านพคิดหาทางจัดการลินินเต็มที่แบบไม่ผลีผลาม ลินินรู้ตัวว่ากำลังมีภัยจึงไปฝึกวิธีป้องกันตัวที่สโมสรเรียนรู้การป้องกันตัวแห่งหนึ่งตอนกลางวัน หล่อนพบเตชัสที่มาเป็นครูพิเศษที่นี่เช่นกัน หมวดหนุ่มต้องโกหกบอกว่าเขามาเรียนวิชาป้องกันตัวเช่นกัน เตชัสแกล้งพูดแซวหล่อนว่าจะฝึกไว้ปะทะกับพวกเมียหลวงหรือแฟนๆลูกค้าพิเศษหรือไง ลินินหมั่นไส้ความปากเสียของเตชัสจึงชวนเขาดวลหมัดบนเวทีมวยท่ามกลางนักเรียนศิลปะป้องกันตัวหลายสิบคน เตชัสคิดว่าหล่อนจะเป็นหมูจึงรับคำท้า แต่กลายเป็นว่าเขาต้องถูกหมัดเล็กแต่หนักของนักร้องสาวเข้าจนเห็นดาวหลายครั้ง หมวดหนุ่มหาวิธีเอาคืนเมื่อเขาฝึกศิลปะป้องกันตัวให้ลินินแล้วล็อกร่างหล่อนกดลงกับพื้นและจูบหล่อนอวดสายตาลูกศิษย์ชุดเดิมได้สำเร็จ
บุษยาลูกสาวคนเล็กของเด่นภูมิ นิสัยเปรี้ยวใช้เงินเปลืองชอบคั่วหนุ่มหล่อ จนเขาต้องส่งไปชุบตัวต่างประเทศกลับมาเมืองไทยพร้อมกับความหวังที่จะเป็นนักร้อง บุษยาคิดจะเปลี่ยนลุคส์นักร้องสาวในสังกัดให้ร้องและเต้นแบบสากลตามรูปแบบที่หล่อนพบจากต่างประเทศ แต่พอครูนิหน่าฝึกท่าเต้นของวิทนีย์ หรือมาดอนน่าให้นักร้องและแด๊นซ์เซอร์ทีไรก็มักจะเกิดเหตุจนไม่อาจจะฝึกซ้อมได้เสียร่ำไป ทีแรกบุษยาคิดว่าทุกคนเสแสร้งแกล้งทำหล่อนจึงสั่งทุกคนว่าห้ามหยุดซ้อมเต้นเด็ดขาดโดยหล่อนจะเป็นคนฝึกซ้อมท่าเต้นให้เอง ผลออกมาก็คือบุษยาเต้นผิดคิวตกเวทีแต่แล้วทันใดนั้นเตชัสก็เข้ามาก่อนจะรับร่างของบุษยาไว้ได้ทัน แล้วนั่นจึงทำให้บุษยาตกหลุมรักเตชัสทันที สร้างความไม่พอใจให้กับเดือนซึ่งหมายตาหมวดหนุ่มเอาไว้ก่อนหน้าบุษยาแล้วแต่เดือนทำอะไรบุษยาไม่ได้เพราะเธอคือลูกสาวของเด่นภูมินั่นเอง
ลินินฝันเห็นหญิงสาวลึกลับสวมชุดราตรีงดงามยืนร้องเพลงอยู่กลางห้องบ่อยขึ้น แต่ลินินจับใจความเนื้อเพลงไม่ได้นอกจากเสียงจังหวะดนตรีเท่านั้น ครูฉลอมบอกหล่อนว่าเนื้อร้องของเพลงนี้ เขาจำได้ว่ามันอยู่ในห้อง แต่จำไม่ได้ว่าอยู่ที่ไหน ถ้าลินินอยากได้ต้องไปช่วยเขาหาที่ห้อง ลินินไปพบที่บ้านครูฉลอม ลินินตกใจมากเพราะสภาพต่างๆภายในห้องคล้ายกับห้องที่เธอฝันเห็นนักร้องสาวยืนร้องเพลงมาก เดือนกับดาวยังมุ่งหมายจะยืมมือเจ้านพกำจัดคู่แข่งสาวต่อไป เจ้านพกับพรรคพวกวางแผนดักฉุดลินินหลังจากฝึกศิลปะป้องกันตัวข้างนอก แต่ลินินก็ฝันเห็นหญิงสาวลึกลับมาบอกว่าตัวเองจะถูกคนดักทำร้าย เธอจึงพกสเปรย์พริกไทยกับเครื่องช็อตไฟฟ้าติดตัวไปด้วย ทุกอย่างเป็นไปตามความฝัน หมวดเตชัสพาดาบเติ้ลมาช่วยเหลือเพราะเขาก็ฝันเห็นเหตุการณ์เช่นเดียวกัน ลินินไม่เชื่อคิดว่าหมวดหนุ่มกุเรื่องขึ้นมาเพื่อจะจีบหล่อนมากกว่า
นับวันก็จะเกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นในนิวหรรษาคาเฟ่มากขึ้น ลินินฝันเห็นหญิงสาวลึกลับลอยเข้ามาหาพร้อมชี้นิ้วขึ้นไปบนเพดานห้องพัก เป็นเช่นนี้ติดต่อกันถึงสามคืน ลินินเลยหาบันไดปีนขึ้นไปค้นหาอะไรที่นั่น หล่อนพบกระดาษยันต์และตัวเลขสีแดงคล้ายสีเลือดเขียนเป็นตัวเลขสามตัวชัดเจน ลินินอุตริซื้อหวยจากแม่ค้าที่นำลอตเตอรี่เข้ามาขายในคาเฟ่ดูเล่นๆทั้งๆที่หล่อนไม่ใช่คอหวยแต่ปรากฏว่าเธอถูกรางวัลที่ห้าพร้อมเลขท้ายสามตัวบนจังจัง พวกพนักงานพากันคาดคั้นถามว่าหล่อนไปได้เลขนี้มาจากไหน ซึ่งลินินก็ตอบไปตามความจริงว่าได้มาจากห้องพักของหล่อนนั่นเอง แต่น่าแปลกมากที่ไม่ยักจะมีใครกล้าตามเข้ามาพิสูจน์ความจริงในห้องนั้นแต่พากันวงแตกฮือกันไปหมด
ลินินถูกหวยติดต่อกันถึงสามงวด งวดที่สามหล่อนฝันเห็นหญิงสาวลึกลับสวมชุดถือศีลมายืนส่งภาษามือลูบไล้เสื้อผ้าที่เธอสวมแล้วชี้มาที่ตัวลินินดั่งจะสื่อความหมายบางอย่าง ลินินตื่นขึ้นมาพยายามแปลความหมายแต่นึกไม่ออก หล่อนจึงนั่งรถกลับบ้านนอกเพื่อไปหาลุงแผนซึ่งเคยเป็นอาจารย์เรืองไสยศาสตร์ขมังเวทย์มาก่อน เมื่อลุงแผนฟังเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆที่ลูกสาวเล่า แกก็ขอเวลาหลานสาวนั่งทางในเพื่อค้นหาคำตอบจนพบว่าแท้ที่จริงแล้วหญิงสาวลึกลับก็คือดวงวิญญาณภูตสาวตนหนึ่ง ที่เธอวนเวียนมาพบลินินไม่ใช่เพื่อหลอกหลอนหรือคิดร้ายแต่เพราะต้องการจะขอความช่วยเหลืออย่างใดอย่างหนึ่งจากลินินมากกว่า ซึ่งลุงแผนก็ไม่อาจจะรู้ได้เช่นกันว่าภูตสาวอยากจะให้หลานสาวของแกช่วยเหลือเรื่องอะไรและวิธีไหน ทีแรกนางผินจะมอบสร้อยหลวงพ่อขลังให้หลานสาวคล้องติดตัวเพื่อป้องกันตัวพ้นจากวิญญาณภูตสาวแต่ลุงแผนบอกว่าไม่ต้อง แต่อยากให้ลินินค้นหาทางสื่อสารกับวิญญาณภูตสาวจนรู้ว่าวิญญาณตนนั้นต้องการความช่วยเหลืออย่างไร สิ่งแรกที่ลินินคิดคือต้องหมั่นทำบุญทำใจให้ว่างเปล่าอย่าหวาดกลัวอะไรแต่จงแผ่เมตตาให้มากๆ
ขณะเดียวกันเตชัสได้แอบเข้าไปในห้องของเด่นภูมิทำทีไปตรวจเช็คระบบไฟฟ้าจนได้หลักฐานการทำผิดกฎหมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการค้ามนุษย์ ค้ายาเสพติด แต่เตชัสไม่รู้เลยว่าเด่นภูมิกับจักรพลกำลังย้อนกลับมาที่ห้อง ทันใดนั้นเตชัสจึงตัดสินใจวิ่งหลบสองพ่อลูกออกมา ก่อนที่เตชัสจะวิ่งเข้าไปซ่อนตัวในห้องของลินิน ก่อนที่เขาจะแปลกใจเมื่อเด่นภูมิและจักรพลไม่กล้าที่จะเข้าห้องลินิน เตชัสจึงรอดได้อย่างหวุดหวิด แต่เหมือนชะตาจะเล่นตลก เมื่อเตชัสเห็นกระดาษยันต์แผ่นหนึ่งติดอยู่ที่เพดาน เตชัสเผลอทำยันต์แผ่นนั้นหลุดออกมา ทันใดนั้นภายในห้องก็บังเกิดหมอกควันสีขาว นับตั้งแต่วินาทีนั้น ความวุ่นวายโกลาหลก็พลันเกิดขึ้นในนิวหรรษาคาเฟ่ลามไปถึงพวกนักเที่ยวก็ยังไม่วายพบเจอเรื่องแปลกประหลาดกึ่งสะพรึงกลัวไปตามๆกัน
เสี่ยเด่นภูมิเริ่มใจคอไม่ดีเพราะชักมีเรื่องที่เหนือธรรมชาติอยู่บ่อยครั้งและสองพ่อลูกก็รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เขาจึงต้องไปเชิญอาจารย์โตมาทำพิธีปัดรังควานเป็นการใหญ่ แต่คราวนี้ลินินถูกพลังลี้ลับบังคับให้บุกเข้าไปทำลายพิธีจนพิธีล่ม หลังจากนั้นวิญญาณภูตสาวก็ปรากฏตัวแสดงอิทธิฤทธิ์จนทุกคนที่อยู่ในพิธีจนกระเจิดกระเจิงคนละทิศละทาง ยกเว้นอาจารย์โตคนเดียวเท่านั้นที่ยังเอาอยู่ ลินินถูกเดือนกับดาวรุมเล่นงานหาว่าลินินถูกผีเข้า แต่ก่อนที่เด่นภูมิและพวกเดือนกับดาวจะทำร้ายลินิน เตชัสจำต้องออกโรงเข้าปกป้อง ก่อนที่ความจริงจะเฉลยว่าแท้ที่จริงแล้วเตชัสคือผู้หมวดหนุ่มที่แฝงตัวมานั่นเอง เด่นภูมิกับจักกรพลโกรธมากที่โดนเตชัสดัดหลัง จนสองพ่อลูกไล่ออกและกำชับหมายหัวเตชัสไว้ว่าห้ามย่างกรายเข้ามาในคาเฟ่อีก ไม่อย่างนั้นเกิดอะไรขึ้น เขาจะไม่รับผิดชอบ
ลินินโกรธที่โดนเตชัสหลอกเธอมาตลอด แม้ว่าเตชัสจะพยายามอธิบายเหตุผล แต่ลินินก็ไม่ฟัง แต่เตชัสก็ต้องแปลกใจว่าทำไมเขาต้องพยายามอธิบายให้ลินินฟังด้วย แต่หมวดเตชัสก็ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ไปสืบหาความจริงเรื่องการหายตัวไปของหญิงสาวหลายคน หมวดหนุ่มต้องมีข้ออ้างว่าไปเที่ยวโดยการเคี่ยวเข็ญดาบเติ้ลไปเที่ยวนิวหรรษากับเขา ดาบเติ้ลไม่อยากไปเพราะเขาไม่ค่อยถูกกับเรื่องผีๆเท่าไหร่ แต่ฝืนหมวดหนุ่มไม่ได้อีกอย่างหนึ่งคือดาบเติ้ลแอบชอบบุษยามานานแล้ว บุษยาดีใจที่เห็นหมวดหนุ่มมาเป็นแขกประจำเช่นเดียวกับเดือนที่เข้าใจว่าหมวดเตชัสพิศวาสเธอ ลูกสาวเจ้าของร้านกับนักร้องดาวเด่นจึงแข่งกันทำคะแนนมัดใจหมวดหนุ่ม ผิดกับลินินซึ่งไม่อยากจะเฉียดกรายเข้าไปใกล้ แม้เขาจะส่งดาบเติ้ลมาคะยั้นคะยอให้หล่อนไปนั่งคุยด้วย เสี่ยเด่นภูมิมาหาเรื่องเตชัสกับดาบเติ้ลเพราะรู้ว่าทั้งคู่มาที่นี่เพื่อหาหลักฐานในการจับเขานั่นเอง แต่จู่ๆไฟก็ดับพรึ่บ เสียงจังหวะดนตรีเร้าใจกลายเป็นเพลงเศร้าหวาน ทุกคนเห็นลินินยืนเด่นบนเวทีกำลังร้องเพลงนั้น บรรดาแด๊นเซอร์สาวทั้งหลายพากันรำอ่อนช้อย สิ่งที่ทุกคนเห็นต่อมาคือลินินลอยขึ้นสูงไปชิดเพดานแล้วกรีดร้องโหยหวนยืดยาว โต๊ะเก้าอี้ต่างๆในร้านปลิวกระจัดกระจาย นักเที่ยวทั้งหลายพากันหาที่หลบเอาตัวรอดชุลมุน กว่าเหตุการณ์เขย่าขวัญจะยุติลงก็กินเวลานานหลายนาที แต่พอไฟทุกดวงสว่างพรึ่บขึ้นตามปรกติ เหตุการณ์ต่างๆก็กลับสู่ภาวะปรกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นักเที่ยวทุกคนพากันลืมเรื่องราวเขย่าประสาทไปหมดยกเว้นหมวดเตชัสคนเดียวที่จดจำภาพและสิ่งต่างๆทุกอย่างได้เป็นอย่างดี
ลินินไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น หล่อนเก็บความอัดอั้นกลับมานั่งร้องไห้พูดระบายอยู่ในห้องพักนักร้อง นักร้องสาวรู้สึกเหมือนมีใครมาโอบกอดลูบผมเธอเบาๆแต่หญิงสาวมองไม่เห็นใครสักคน ผลจากความสวยบวกสุ้มเสียงลีลาร้องเพลงดี นับวันลินินก็มีแขกนักเที่ยวให้ความสนใจยิ่งขึ้นจนเบียดบังรัศมีนักร้องดาวเด่นอย่างพวงดาวกับพราวเดือน สองสาวหาทางกลั่นแกล้งเพื่อกำจัดลินินสารพัด พราวเดือนแอบโรยดินประสิวใส่ในตลับแป้งฝุ่นของลินินหวังแกล้งให้คู่แข่งสาวหน้าตายับเยิน แต่วิญญาณภูตสาวที่เฝ้าติดตามลินินก็สลับตลับแป้ง จนพราวเดือนหน้าตาเห่อพองตาปิดเพราะกรรมตามสนอง พวงดาวแกล้งเอาหมามุ่ยไปโรยใส่ชุดนักร้องลินิน แต่ภูตสาวก็สลับเปลี่ยนชุดนักร้องกับพวงดาว นักร้องสาวตัวแสบต้องร้องเพลงไปเกาไปเป็นที่ครึกครื้นของบรรดานักเที่ยว เสี่ยเด่นภูมิเห็นแววดาวเด่นของลินินส่องประกายชัดขึ้น เขาจึงคิดรวบหัวรวบหางลินินให้อยู่กับเขาตลอดไป โดยวางแผนกับลูกชายเรื่องมอมยาลินิน งานนี้พวงดาวกับพราวเดือนพากันเห็นดีเห็นงามตาม ทุกคนวางแผนหลอกลินินให้ดื่มน้ำส้มผสมยานอนหลับ เสี่ยเด่นภูมิคิดว่าตัวเองจะได้ขึ้นสวรรค์ แต่เขากลับถูกผีสาวในร่างลินินหลอกจนต้องโดดหน้าต่างห้องหนี จักรพลหวังว่าตัวเองจะได้เป็นคนต่อไป เมื่อเห็นลินินออกมาเปิดประตูห้องชวน แต่เขาก็เป็นอีกคนที่ถูกวิญญาณผีสาวเล่นงานจนสลบเหมือดคาหน้าประตูห้องนอนของลินินนั่นเอง
เสี่ยเด่นภูมิตามอาจารย์โตมาทำพิธีสะกดวิญญาณผีสาวตนนี้อีกครั้ง ก่อนอาจารย์โตจะทำสำเร็จเขาก็ถูกลินินซึ่งโดนวิญญาณภูตสาวเข้าสิงยั่วยวนจนเขาเคลิบเคลิ้ม ลินินใช้ผ้าซิ่นครอบหัวอาจารย์โตทำให้วิชาอาคมทั้งหลายของอาจารย์โตเสื่อมสลายทันที ภูตสาวแสดงตัวหลอกหลอนอาจารย์ปราบผีจนเสียสติหนีกระเจิงเข้าป่า หลังจากนั้นผีสาวก็ไปหาครูฉลอมที่บ้านพักดีแต่ว่าหลวงลุงจรูญญาติผู้ใหญ่ของครูนักแต่งเพลงมาเยี่ยมและพักอยู่ด้วยภูตสาวจึงเข้าไปทำอะไรครูฉลอมไม่ได้
ระยะหลังๆมานี้คนทำงานในนิวหรรษาคาเฟ่พากันสงสัยพฤติกรรมไม่อยู่กับร่องกับรอยของลินิน จนแขกเริ่มหดหาย เพราะแขกที่มาเที่ยวมักจะเจอดีจนจับไข้หัวโกร๋นไม่เว้นแต่ละวัน พวกพนักงานก็ทยอยพากันลาออกไปหางานใหม่ทำ บุษยาหาว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะลินินคนเดียว แต่ถึงอย่างไรเสี่ยเด่นภูมิก็ไม่ยอมไล่นักร้องสาวออกเสียที เสี่ยเด่นภูมิถูกผีสาวเข้าสิงเขาประกาศต่อหน้าลูกสาวและพนักงานทั้งหมดว่าเขาไม่มีวันไล่ลินินออกจากงานนักร้องแน่ ป้าโฉมบอกบุษยาว่านางมั่นใจว่าเสี่ยเด่นภูมิน่าจะถูกผีสิงแน่ บุษยาไม่เชื่อแต่จักรพลซึ่งพบเจอมากับตัวเองจนเชื่อเรื่องนี้สนิท เขาปรึกษาครูฉลอม ครูนักแต่งเพลงจึงไปขอเครื่องลางของขลังจากหลวงตาจรูญมาให้สองพ่อลูกสวมเพื่อคุ้มครองป้องกัน เว้นแต่บุษยาคนเดียวที่ไม่ยอมสวมมิหนำซ้ำหล่อนยังท้าทายวิญญาณทั้งหลายเสียอีก ผลก็คือหญิงสาวถูกวิญญาณผีสาวเข้าสิงให้สวมชุดนุ่งน้อยห่มน้อยขึ้นไปเต้นโคโยตี้ ดาบเติ้ลซึ่งถูกหมวดเตชัสสั่งให้มาซุ่มดูสถานการณ์รีบพาบุษยาลงจากเวทีแล้วพาหล่อนออกจากคาเฟ่ เมื่อบุษยารู้สึกตัวหล่อนกลับกล่าวหาว่าดาบเติ้ลคิดมิดีมิร้ายต่อหล่อนจนเอาไปฟ้องหมวดเตชัส หมวดหนุ่มแสร้งคาดโทษดาบเติ้ลแต่แท้จริงเขารู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร เสี่ยเด่นภูมิวางแผนกับลูกชายนำยันต์ศักดิ์สิทธิ์ของหลวงตาจรูญไปติดประตูด้านในห้องพักของลินิน วิญญาณผีสาวจึงอ่อนพลังลง พราวเดือนแกล้งเอาน้ำมนต์สาดใส่ลินินกลางคาเฟ่เพราะรู้ว่าวิญญาณผีสาวแทบจะสิ้นฤทธิ์แล้ว
ลินินกลุ้มใจที่ทุกคนในนิวหรรษาคาเฟ่พากันกลัวหล่อนจนไม่มีใครอยากจะพูดคุยด้วยยกเว้นครูนิหน่าที่มักจะโชคดีจากหวยที่ลินินบอก จึงเปลี่ยนจากศัตรูมาเป็นมิตรเพราะหวยแท้ๆ พวงดาวกับพราวเดือนกลั้นแกล้งใส่ร้ายลินินว่าถูกเตชัสจ้างมาเป็นสายให้ตำรวจ เด่นภูมิรู้อย่างนั้นจึงไม่ลังเลที่จะไล่ลินินออกทันที หญิงสาวตั้งใจจะกลับบ้านแต่คืนนั้นหล่อนก็ฝันเห็นวิญญาณผีสาวมาขอร้องหล่อนให้อยู่ที่นี่ต่อไปเพื่อช่วยเหลือเธอแต่ผีสาวยังไม่ทันบอกว่าช่วยเรื่องอะไร ลินินก็ตื่นขึ้นเสียก่อน
นักร้องสาวเล่าเรื่องนี้ให้ครูนิหน่าฟัง ครูนิหน่าก็ไม่อาจจะเฉลยข้อสงสัยของลินินได้ เป็นจังหวะเดียวกับที่ลุงแผนโทรมาบอกว่านางผินล้มป่วย บุษยาป้ายสีนักร้องสาวให้หมวดเตชัสฟังว่าลินินถูกผีเข้าสิงจริงจึงกลัวพ่อหล่อนจะหาหมอผีมาจับวิญญาณเข้าหม้อเลยหนีกลับบ้านนอก หมวดหนุ่มกึ่งเชื่อกึ่งไม่เชื่อ เขาจึงขอให้ครูนิหน่ากับแฟนหนุ่มพาไปพบลินินที่บ้าน ทั้งสองทะเลาะกันด้วยเรื่องนี้ ลินินน้อยใจมากที่ไม่มีใครเลยจะเข้าใจหล่อนเลย ลุงแผนแนะนำหลานสาวให้ไปบวชชีพราหมณ์ถือศีลแปดอยู่วัดสักเจ็ดวัน หมวดเตชัสกลับเข้าใจผิดคิดว่าลินินจะหนีปัญหาโดยการไปบวชชี เขาตามไปหาหญิงสาวที่วัดจึงได้รู้ว่าที่แท้ลินินแค่มาบวชชีพราหมณ์เท่านั้น หมวดหนุ่มยังไม่วายกระแนะกระแหนลินินว่าหล่อนบวชหนีบาป ลินินยอมรับแล้วย้อนเขากลับไปว่าคนบาปอย่างหล่อนยังสำนึกผิดแล้วเขาล่ะเคยคิดจะใส่ชุดขาวอุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรบ้างหรือเปล่า หมวดหนุ่มซึ่งยังไม่เคยเข้าวัดถือศีลจริงจังมาก่อนแค่คิดว่าอยากจะปฎิบัติธรรมบ้างจึงตัดสินใจสวมชุดขาวถือศีลอยู่วัดเดียวกับลินินเสียเลย
สองหนุ่