ยมบาลเจ้าขา ปี 2
ยมบาลเจ้าขา ปี 2
 

ยมบาลเจ้าขา ปี 2

ละครก่อนข่าว จันทร์ - ศุกร์ เวลา 16.30 น.

บทประพันธ์ : รสอุบล-สุคนธรส บทโทรทัศน์ : อรุณแก้ว พุทธรักษา

อนุวัฒน์ ชูเชิดรัตนา,กรรณาภรณ์ พวงทอง,ธนากร ศรีบรรจง,อาทิตยา ทองวิชิต,ธีรภัทร์ สุวรรณดี,ชัชฎาภรณ์ ธนันทา,เอก รังสิโรจน์

เรื่องย่อยมบาลเจ้าขา ปี 2

จากอพาร์ตเม้นต์ของลลิต ประตูนรกได้หมุนเคลื่อนอีกครั้ง ด้วยสาเหตุจากบาปกรรมอันหนาหนักที่เกิดขึ้นบนโลกมนุษย์ ได้ไปก่อกวนประตูเชื่อมมิติแห่งกาลเวลา และครั้งนี้ประตูนรกได้เคลื่อนตัวมายังโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ทางเชื่อมได้เปิดขึ้นอีกครั้ง ณ ห้องดับจิต สถานที่ที่ไม่มีใครต้องการเฉียดใกล้แม้ในช่วงเวลากลางวัน

“นพ. มังกร สืบบุญ” แพทย์หนุ่มไฟแรง อายุ 30 ปี มีความแปลกแหวกแนวกว่าเพื่อนๆ ที่จบแพทยศาสตร์บัณฑิตทั่วไป เพราะเขาเลือกที่จะเรียนต่อสาขานิติเวชวิทยา หรือ นิติเวชศาสตร์ (Forensic  Medicine) นายแพทย์มังกรเป็นคนหนุ่ม มาดนิ่ง สุขุม มีความกวนตีนอยู่ลึกๆ บางครั้งเขานิ่งฟังคนพูดมากๆ ก็จะสวนกลับด้วยคำพูดสั้นๆ ที่กระแทกใจคน เข้าทำนองพูดน้อยต่อยหนัก นายแพทย์มังกรใช้ชีวิตเรียบง่าย อาศัยที่คอนโดไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก ชอบอาหารฟาสฟู้ดเพราะง่ายและเร็ว แม้จะรู้ว่ามันไม่ค่อยดีกับสุขภาพ แต่บางครั้งก็ฝากท้องกับร้านอาหารของโรงพยาบาล  ปัจจุบันนายแพทย์มังกรทำงานที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง (ที่เดียวกับประตูนรกเปิดเชื่อม)
*** แพทย์ทางนิติเวชจะมีประจำที่โรงพยาบาลศิริราชตลอด 24 ชั่วโมง สามารถไปถึงยังสถานที่ที่เกิดเหตุได้ตลอดเวลา ***

ชีวิตของนายแพทย์มังกร เริ่มเข้าสู่โหมดความวุ่นวายมากขึ้น เมื่อได้มารู้จักกับนักข่าวสาวอาชญากรรมมือใหม่ไฟแรง ชื่อ “น้ำหวาน” หรือ มธุรส เรียงอักษร นักข่าวสาวสวยอายุ 24 ปี เป็นนักข่าวหน้าใหม่ที่เพิ่งได้รับการบรรจุงานเป็นนักข่าวสายอาชญากรรม สำหรับนักข่าวสาวคนอื่นๆ งานสายอาชญากรรมอาจจะเป็นสายที่เอาไว้อันดับท้ายๆ แต่ไม่ใช่กับน้ำหวาน น้ำหวานกลับเลือกที่จะทำข่าวอาชญากรรม เพราะน้ำหวานมีความมุ่งมั่นที่จะทำข่าวเพื่อช่วยเหลือประชาชน ช่วยเหลือสังคม นำความจริงมาเผยแพร่ และนำคนร้ายมาลงโทษ

น้ำหวานต้องส่งสกู๊ปงานและภาพข่าวให้ได้อย่างน้อยวันละ 1 สกู๊ป ชีวิตการทำงานของน้ำหวานจึงต้องเกาะติดอยู่กับโรงพัก โรงพยาบาล รวมทั้งมูลนิธิร่วมกตัญญู ปอเต็กตึ๊ง เพื่อหาข่าวให้ได้ น้ำหวานเป็นสาวตัวเล็กๆ คล่องแคล่ว แต่โก๊ะๆ เปิ่นๆ ซุ่มซ่ามในบางเวลา เพราะความเร่งรีบตามข่าวของเธอ เธอจึงไม่ชอบแต่งหน้า เวลาจะไปทำงานน้ำหวานจะทาครีมกันแดด แต่ทาแป้งเด็ก แล้วก็ทาลิปมัน แค่นี้ก็เหนอะปากมากพอแล้ว

เรื่องเดียวที่ทำให้เธอลำบากใจก็คือ การทำงานของเธอ ทำให้ไม่มีเวลาให้กับ “น้ำฝน” น้องสาวเพียงคนเดียวของเธอ น้ำฝนต้องรอคอยเธอกลับมาดูแล ซึ่งบางครั้งเธอก็ทำหน้าที่ได้ไม่ดีเท่าที่ควร พ่อแม่ของน้ำหวานและน้ำฝน เสียชีวิตไปแล้วทั้งคู่ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หลังจากที่น้ำหวานได้รับใบปริญญาได้ไม่นาน โชคดีที่พ่อแม่ทิ้งบ้านทาวน์เฮ้าส์ไว้ให้ 1 หลัง และเงินอีกจำนวนหนึ่ง น้ำหวานได้งานทำทันทีหลังเรียนจบ เธอจึงตั้งใจที่จะใช้ชีวิตแบบประหยัดมัธยัสถ์ เก็บเงินที่พ่อแม่เหลือไว้ให้ไว้เป็นค่าเล่าเรียนของน้ำฝน

สำนักข่าวของน้ำหวาน อยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลที่นายแพทย์มังกรทำงานอยู่ แถมคอนโดของนายแพทย์มังกรก็ยังอยู่ซอยเดียวกับบ้านทาวน์เฮ้าส์ของน้ำหวานด้วย บางครั้งนายแพทย์มังกรขับรถผ่านบ้านน้ำหวาน เขาเห็นน้ำฝนออกมานั่งเล่นหน้าบ้านคนเดียวบ่อยๆ ดูแล้วน่าสงสาร มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ลูกบอลของน้ำฝนกระเด็นออกมากลางถนน โชคดีที่เขาเบรกรถไว้ได้ทัน จากการพูดคุยวันนั้น นายแพทย์มังกรจึงได้รู้ว่าน้ำฝนมีพี่สาว ชื่อน้ำหวานและเป็นนักข่าวจอมป่วน ที่ชอบมาป้วนเปี้ยนที่ทำงานของเขานั่นเอง นายแพทย์มังกรสงสารน้ำฝน จึงมักหาเวลาซื้อขนมมาฝากและนั่งเล่นเป็นเพื่อนบ่อยๆ จนกลายเป็นเพื่อนซี้ต่างวัย บางครั้งเขาจะได้ยินน้ำฝนพูดคุยกับใครบางคน น้ำฝนแนะนำให้เขารู้จักกับทอง แต่เขามองไม่เห็นใคร นายแพทย์มังกรคิดว่า อายุของน้ำฝนโตเกินกว่าจะมีเพื่อนในจินตนาการแล้ว แล้วที่น้ำฝนพูดมันหมายความว่าอย่างไร?? เรื่องนี้ทำให้นายแพทย์มังกรสนใจน้ำฝนมาก และกะว่าจะหาเวลาพูดกับน้ำหวาน เพราะคิดว่าน้ำฝนอาจจะผิดปกติก็เป็นได้ กุมารทอง ไม่พอใจเล็กน้อย สุวานและสุวรรณพากันหัวเราะยั่วเย้ากุมารทอง จนพญายมต้องปรามและบอกกุมารทองว่า การที่เค้าไม่เห็น ไม่ได้หมายความว่าเขาดูถูก หรือไม่เห็นความสำคัญ เรื่องที่มีคนเห็นพวกเราอย่างเด็กที่ชื่อน้ำฝน ถือว่าเป็นเรื่องพิเศษ ไม่ใช่ว่ามนุษย์ทุกคนจะสามารถเป็นได้

หนูทอง สงสารน้ำฝนที่พ่อแม่ตายหมดแล้ว พญายมอธิบายว่าบุญกรรมคนเราทำมาไม่เท่ากัน แม้ว่าบิดามารดาจะจากไป แต่ก็ยังมีพี่สาวที่คอยรักและห่วงใย กุมารทองแย้งว่า แต่ก็ไม่เห็นมีเวลาให้น้องสาวเท่าไหร่เลย สุวานและสุวรรณส่ายหน้าบอกว่า จะให้พี่สาวอยู่ด้วยตลอด 24 ชม. ก็ไม่ต้องทำงานกันพอดี พญายมมองทางหมอหนุ่ม ที่ชื่อมังกร แล้วเปรยว่า นายแพทย์คนนี้เป็นคนดีและเถรตรง พวกเราจะต้องเจอกับมนุษย์ผู้นี้มีมากมายหลายครั้ง นับจากวันนี้เป็นต้นไป .......... กุมารทองสงสัยว่า เพราะอะไร สุวานและสุวรรณบอกว่า เหมือนบุพเพสันนิวาส คราวก่อนชะตาของพวกเราต้องกันกับมนัส นายตำรวจหนุ่ม แต่คราวนี้ กลับเป็นนายแพทย์มังกร พญายมหัวเราะบอกว่า อย่างเด็กน้อยที่ชื่อน้ำฝน ซึ่งสามารถมองเห็นเจ้าหนูทองได้ ก็ถือว่ามีอะไรที่พิเศษเหนือกว่าเด็กทั่วๆ ไป เนื่องจากในอดีต น้ำฝน เจอประสบการณ์เฉียดตายมาก่อน จนไข้สูงเกิดอาการชัก วิญญาณของพ่อและแม่ที่กำลังโดนเราพิพากษาร้อนรนทนไม่ไหว ขออนุญาตมาดูแลลูก ครั้งนั้นเราได้อนุญาตไป แต่ทำให้เด็กน้อยคนนี้ได้เห็นตัวเราโดยบังเอิญ จึงได้รับพลังพิเศษไปจากเราโดยไม่รู้ตัว สุวานสุวรรณทูลถามพญายมว่า พลังพิเศษนี้จะดำรงอยู่ตลอดไปหรือไม่ พญายมยิ้มบอกว่าเรื่องนี้ไม่มีใครสามารถตอบได้ ขึ้นอยู่กับบุญบารมีที่ติดตัวมาแต่ดั้งเดิม บางทีเมื่อโตขึ้น จิตเริ่มไม่นิ่งไม่บริสุทธิ์พลังพิเศษเหล่านี้ก็จะถูกลบเลือนไปก็เป็นได้

หน้าบ้านทาวเฮ้าส์ของน้ำฝน “มานพ” วินมอเตอร์ไซค์ อายุ 26 ปี มองเข้ามาในบ้านอย่างสงสัย แล้วมองรถเก๋งหรูที่จอดหน้าบ้าน (รถของนายแพทย์มังกร) ใครมาวะ?? พอน้ำฝนเดินออกมากับนายแพทย์มังกร .. มานพก็มองอย่างระแวง น้ำฝนบอกเพื่อนหนูเอง แล้วแนะนำให้พี่มานพ รู้จักกับพี่หมอมังกร .. มานพมองมังกรไม่ไว้ใจ นายแพทย์มังกรหน้านิ่งรู้ว่ามานพคิดยังไง บอกลาน้ำฝนขึ้นรถจากไป  มานพยื่นถุงก๋วยเตี๋ยวให้น้ำฝนพลางเตือนว่า อย่าเที่ยวเปิดประตูรับคนแปลกหน้าเผื่อมันเป็นโรคจิต น้ำฝนยิ้มพลางมองก๋วยเตี๋ยวในถุง บ่นว่าก๋วยเตี๋ยวอีกแล้วเหรอ มานพเกาหัวบอกพี่น้ำหวาน ฝากมาให้นี่ ไม่ชอบเหรอ น้ำฝนเบ้ปากบอกอยากกินไอติมกับน้ำขวด มานพหัวเราะบอกว่าอาหารแบบนั้นพี่สาวห้ามไม่ใช่หรอ แต่แล้วก็เรียกน้ำฝนซ้อนท้ายบอกไปปากซอยกันพี่เลี้ยงเอง พวกพญายม สุวานสุวรรณ กุมารทอง มองมานพและน้ำฝน พญายมบอกว่า เห็นมั้ยเจ้าหนูทอง แม้จะอาภัพบิดามารดา แต่บุญเก่ายังพอมี ถึงได้พบเจอแต่คนดีๆ .... พญายมพูดเพียงเท่านั้น ก็ชะงัก บอกกับพวกสุวานสุวรรณและกุมารทองว่า ได้เวลางานของพวกเราอีกแล้ว .....

มีการแจ้งเหตุการณ์ตายขึ้น พวกมูลนิธิ (ประมาณปอเต็กตึ๊ง ร่วมกตัญญู) มาที่สถานที่เกิดเหตุ เสียงหวอเปิดครวญครางน่ากลัวและเร่งเร้าความรู้สึก  พวกพญายมปรากฏกายขึ้นมองทางด้านหน้าสถานที่แห่งนั้น

“ดาว” สาวมาดทอมบอย เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ (เป็นเจ้าหน้าที่ น.เขต ได้เงินเดือนจากทางมูลนิธิ ทำงานเป็นอาชีพ) เดินทะลุผ่านกลุ่มพญายมไปด้วยความเร่งรีบ เธอต้องการไปถึงตัวผู้เคราะห์ร้ายให้รวดเร็วที่สุด ผู้เคราะห์ร้ายอาจจะยังมีชีวิต และเธอต้องช่วยกู้ชีพให้เร็วที่สุด

ความจริงดาวเป็นคนกลัวผีที่สุด แต่มีจิตใจมุ่งมั่นในการช่วยเหลือคนมากกว่า พญายมบอกกุมารทองว่า ดาวคือ ตัวอย่างของคนในสังคมที่แม้จะอยู่ในชนชั้นล่าง เงินเดือนน้อย แต่มีความเสียสละ และชอบช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ดาวมีสัมผัสพิเศษเจอผีบ่อย เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นผี บางครั้งผีก็มาบอกจุดเกิดเหตุ หรือมาขอความช่วยเหลือจากดาว คนรอบๆ ตัวดาว คิดว่าดาวเป็นพวกผิดเพศที่เพี้ยนๆ

ทั้งดาวและมานพ อาศัยอยู่ในแฟลตเดียวกัน เป็นคู่กัดลับฝีปากกันเป็นประจำ แม้จะไม่ค่อยถูกชะตา แต่ก็คอยช่วยเหลือกันอยู่ในที เพราะเป็นคนจิตใจดีทั้งคู่

ดาวต้องพาคนเจ็บและศพมาส่งที่โรงพยาบาลของนายแพทย์มังกรบ่อยๆ ดาวแอบชอบนายแพทย์มังกร แต่เพราะมาดทอมบอยของดาว ทำให้หมอมังกรไม่ทันได้รับรู้ความรู้สึกของดาว ในขณะเดียวกันนายแพทย์มังกรกลับประทับใจน้ำหวาน นักข่าวสาวจอมยุ่ง ส่วนมานพก็หลงรักน้ำหวานด้วย ถึงแม้ภายนอกนายแพทย์มังกรกับน้ำหวานจะดูไม่ค่อยจะถูกกัน นายแพทย์มังกรออกจะรำคาญน้ำหวานที่มาคอยตื๊อทำข่าว  แต่ใจจริงแล้วนายแพทย์มังกรประทับใจน้ำหวาน ที่เป็นผู้หญิงสู้ชีวิต แถมยังต้องดูแลน้องสาวคนเดียว จากความประทับใจก็กลายเป็นความรักในที่สุด

เรื่องราวของนายแพทย์มังกร น้ำหวาน มานพ ดาว และน้ำฝน ล้วนมีชะตาต้องกัน เมื่อพวกเขาต้องมาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ กับประตูมิติของนรกที่เชื่อมมายังห้องดับจิต นายแพทย์มังกรไม่เชื่อเรื่องผี แต่กลับต้องมาเจอเรื่องขนหัวลุกที่พิสูจน์ไม่ได้บ่อยๆ เมื่อวิญญาณที่ไม่ยินยอมพร้อมใจตายปรากฏให้เห็น ด้วยติดค้างเรื่องทางโลก กระทบไปถึงน้ำหวาน นักข่าวอาชญากรรมที่มาป้วนเปี้ยนตามข่าวกับนายแพทย์มังกร กุมารทองต้องมาช่วยเหลือนายแพทย์มังกรและน้ำหวานไม่ให้โดนวิญญาณที่มีดวงจิตอาฆาตทำร้าย รวมทั้งยังต้องช่วยสุวานและสุวรรณตามล่าวิญญาณโหดหลายดวงที่พยายามหลบหนีการจับกุม

กุมารทองที่เฝ้ามองอยู่ถามพญายมว่า นี่คือการเรียนรู้ชีวิตมนุษย์ครั้งใหม่ของหนูใช่หรือไม่ พญายมตอบว่า ถูกแล้ว คนเหล่านี้ คือ ฟันเฟืองสำคัญที่จะเป็นสื่อกลางให้เราได้เรียนรู้ชีวิตมนุษย์ในยุคนี้ ...  เพราะไม่มีใครในโลกนี้ที่จะหลีกหนีกรรมของตนได้พ้น หากต้องการพ้นจากนรก มีทางเดียว คือ รักษาศีลให้มั่นคงเข้าไว้ สุวานและสุวรรณได้ฟังก็หัวเราะออกมาดังกึกก้อง ด้วยรู้ว่าเป็นสิ่งยากยิ่งเพราะมนุษย์ทุกคนอุดมไปด้วยกิเลสนานาชนิดนั่นเอง ...
***********************************************

แกลลอรีGalley ยมบาลเจ้าขา ปี 2