ทนายสื่อรัก
ทนายสื่อรัก
 

ทนายสื่อรัก

ละครบ่าย อาทิตย์ 16.30 น.

บทประพันธ์ : สหมงคล เทเลวิชั่น ทีม บทโทรทัศน์ : สหมงคล เทเลวิชั่น ทีม

รพีภัทร เอกพันธ์กุล,เอมี่ กลิ่นประทุม,เชื้อชาติ วงษ์สวัสดิ์,ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล

เรื่องย่อทนายสื่อรัก

ตามที่ได้สืบพยานและหลักฐานเด่นชัด จึงขอตัดสินให้ปลัดมีความผิดจริง ตามสำนวนฟ้องของ ปอย ทนายสื่อรัก จึงขอสั่งให้จำเลยรับผิดชอบคดีหัวใจที่ปลัดเป็นผู้ก่อ โดยการสานต่อให้จบ

————————————————————————————————

ปอย (เอมิกา กลิ่นประทุม) ทนายสาวเพิ่งเรียนจบจากกรุงเทพฯ กลับมาช่วยงาน ยิ่งยง (ทศพล ศิริวัฒน์) ทนายรุ่นเก๋าผู้เป็นพ่อที่เปิด บริษัท ยิ่งยงทนายความ โดยมีสโลแกน  “ว่าความตามวงเงิน” สามารถพลิกคดีดำเป็นขาว ผิดเป็นถูกได้เสมอ โดยที่เธอยังไม่รู้ความจริงในข้อนี้

ปอยลูกสาวที่แสนจะรักความยุติธรรมของยิ่งยง สืบรู้และเสียศรัทธาในตัวผู้เป็นพ่อ จึงคิดเปิดโปง เมื่อควบคุมปอยไม่ได้ ยิ่งยง จึงไล่ปอยออกจากบริษัท แถมปอยยังเกิดน้อยใจผู้เป็นพ่อที่มีแม่ใหม่ จึงหนีออกจากบ้าน

คนแสบเข้าเส้นอย่างปอยไม่ออกจากบ้านมามือเปล่าแน่  เธอหอบเอาสมบัติทุกอย่างที่ผู้เป็นแม่ทิ้งไว้ให้ รวมถึงกรรมสิทธิ์ในที่ดินอันเป็นที่ตั้งของบริษัทยิ่งยงทนายความด้วย... ปอยจงใจจะสร้างความคับแค้นให้กับยิ่งยง ซึ่งเธอทำสำเร็จ

ปอยประกาศอุดมการณ์ที่จะพิสูจน์ว่า “กฎหมายมีไว้ป้องกันคนดี ไม่ใช่เปลี่ยนผิดให้เป็นถูก ช่วยคนชั่วให้ลอยนวล” และยังเชื่ออีกว่า แม้จะมีกฎหมายเป็นแนวทางในสังคม แต่กฎแห่งความดี ไม่เบียดเบียน ยอมรับในผิดชอบชั่วดี ก็เป็นกฎที่แข็งแรงในสังคม เช่นกัน

ปอยย้ายมาอยู่ที่ร้านเสริมสวยของ ป้าเม้า (วชิรา เพิ่มสุริยา) เพื่อนสุดที่รักของแม่ปอย ป้าเม้ารักปอยเหมือนกับลูกแท้ๆ ของตัวเอง

ปอยเลือกร้านเสริมสวยของป้าเม้าเป็นแหล่งข้อมูล ป้าเม้ามี กิ๊ฟ (ชวัลกร  วรรธนพิสิฐกุล) เป็นลูกเลี้ยงที่ถอดแบบความซ่ามาจากเธอ ทุกคนจึงเรียก กิ๊ฟ ว่า กิ๊ฟซ่า เพราะเธอสวยซ่า เซ็กซี่ เร้าร้อน จนดับความเย็นของร้านชานมไข่มุกที่เธอเป็นเจ้าของ  กิ๊ฟซ่า  จะซ่าเป็นพิเศษกับ ลาเต้ (เชื้อชาติ วงษ์สวัสดิ์) เธอมีเป้าหมายสูงสุดที่จะเป็น  “แฟนลาเต้”  ชายหนุ่มในอุดมคติที่เธอแอบรัก  และแน่นอนว่า กิ๊ฟซ่าไม่พอใจปอย

ปอย แวะเวียนมาขอคำปรึกษาจาก  มหาแม่น (อาจารย์ประมาณ เลืองวัฒนะวณิช) ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆ ของแม่ปอยและเป็นอาจารย์ด้านกฎหมายคนแรกของเธอ มหาแม่นเป็นทนายความเก่าชื่อดังจากกรุงเทพฯ ที่อดีตเคยว่าความผิดพลาด จึงเกิดเป็นปมในใจ  เขาละทางโลกและผันตัวมาเป็นมัคคทายก โดยมี หลวงพ่อเมตตา (บดินทร์ หมู่หมื่นศรี) เป็นผู้ปรึกษาทางธรรม

ปอยเกิดไอเดียที่จะทำให้ชาวบ้านอำเภอยิ่งจะรวยอยู่ในกฎแห่งความดี ไม่เบียดเบียนกัน  และยอมรับความผิดชอบชั่วดีได้ด้วยตัวเอง จึงเปิดบริษัท ทนายสื่อรัก เพื่อรับปรึกษาและคลี่คลายปัญหาของคนในอำเภอยิ่งจะรวย บ้านเกิดของเธอ ซึ่งชาวบ้านทุกคนหวังจะรวยสมชื่อ พวกเขาทำทุกอย่างโดยไม่คำนึงถึงหลัก กฎหมาย และ ศีลธรรม เธอหวังเพียงว่า บริษัท ทนายสื่อรัก จะทำให้อำเภอยิ่งจะรวยกลับมารักและสามัคคีกันดังเดิม

การกระทำครั้งนี้ของปอยเกิดผลสองประการตามมาคือ 1.ทนายยิ่งยงผู้ยิ่งใหญ่ได้โอกาสแก้เผ็ดปอย ด้วยการประกาศท้าทายปอย ว่า  หนึ่งปีหลังจากนี้ไป ให้ปอยทำให้ชาวบ้านอยู่ร่วมกันอย่างสันติด้วยสิ่งที่ปอยเรียกว่า “กฎแห่งการอยู่ร่วมกัน” และเป้าหมายใหญ่ของการเดิมพันในครั้งนี้ก็คือ “การเปลี่ยนแปลง เสี่ยอ๋า (ชูษี เชิญยิ้ม) ให้กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี” ถ้าปอยทำไม่สำเร็จ  ปอยจะต้องยกสมบัติของแม่ที่หอบหิ้วออกจากบ้านไป  ซึ่งรวมถึงที่ดินอันเป็นที่ตั้งของบริษัท ยิ่งยงทนายความ ให้กับยิ่งยง ด้วย ปอยรับคำท้าของยิ่งยง  ศึกสายเลือดจึงเกิดขึ้น

ชื่อของปอยเข้าหู  จะเด็ด ใจเพชร (รพีภัทร เอกพันธ์กุล)  ปลัดหนุ่มหน้าใหม่ไฟแรง ลูกศิษย์ก้นกุฏิของหลวงพ่อเมตตา แห่งวัดยิ่งศรัทธาธรรม  ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน เขากลับมาเป็นปลัดที่อำเภอยิ่งจะรวย เนื่องจากทราบข่าวว่า อิทธิพลมืดกำลังครอบงำชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านเห็นแก่ตัวและเกิดเรื่องมโนสาเร่ต่างๆ มากมาย

ผลประการที่ 2. การเปิดบริษัท ทนายสื่อรัก ทำให้จะเด็ดเกิดความไม่ไว้ใจ เพราะไม่เชื่อว่า ลูกไม้จะหล่นไกลต้น เขาจับตาเฝ้าระวังและต้องการค้นหาความจริงว่าปอยต้องการอะไรจากชาวบ้านกันแน่ !!!  จึงร่วมมือกับ จ่าเฉย  (โยกเยก เชิญยิ้ม) ตำรวจคนสนิทที่รักความยุติธรรม ให้ช่วยคอยสอดส่องดูแลความเรียบร้อยภายในอำเภอ

เมื่อเกิดเรื่องมโนสาเร่ที่เกินกว่าปอยจะแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้เอง เธอจึงขอความช่วยเหลือจากมหาแม่น และพยายามพิสูจน์ว่าตัวเองต่างจากผู้เป็นพ่อ จนสามารถทำให้จะเด็ดเห็นความตั้งใจจริงของเธอ  ทนายสาวและปลัดหนุ่มจึงร่วมมือกันปกป้องหมู่บ้านจากผู้ไม่หวังดี  จนค่อยๆ เกิดเป็นความรัก ส่วนบุคคลที่เป็นอันตรายหวังผลประโยชน์จากชาวบ้าน  กลับเป็นผู้มีอิทธิผลมืดอย่าง เสี่ยอ๋า และตระกูลสูบโลหิต ของ คุณนายชะอ้อน (เจเนท เขียว) นั่นเอง !!!

การทำงานของทนายสาวและปลัดหนุ่มอย่างเที่ยงตรง ขัดผลประโยชน์ของเสี่ยอ๋า มหาอิทธิพล  เจ้าพ่อคุมวินมอเตอร์ไซค์เถื่อน    อดีตลูกศิษย์วัดของหลวงพ่อเมตตา ที่ความโลภเข้าครอบงำ ทำงานสกปรกทุกชนิด เขาใช้อิทธิพลของตัวเองกดขี่ชาวบ้าน เสี่ยอ๋า รัก อ๋อง (กัญจ์ ภักดีวิจิตร) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด  ใครทำอ๋องเจ็บ ต้องเจ็บกว่าอ๋องสองเท่า !!! คิดว่าตัวเองหล่อ เท่ห์ เก่ง และแกร่งเหมือนพระเอกนักบู๊ เขามักทำทุกอย่างตามอำเภอใจ โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้อื่น ไม่มีใครสามารถขัดขวางเขาได้  ยกเว้นปอยผู้หญิงที่อ๋องหลงรักแบบหัวปักหัวปำ เขาเห็นว่าเธอ สวย เผ็ด ดุ น่าจะเหมาะกับเขา และเขาจึงกลายเป็นคู่ปรับคำสำคัญของ ลาเต้  (ชื่อเดิม “แต้” แต่เปลี่ยนเป็นลาเต้เพราะรู้สึกว่ามันคลาสสิกกว่า)  ลาเต้ทายาทคนเดียวของ เฮียต็อก (สุรชัย  สมบัติเจริญ) เจ้าของร้านฮ่อเจี๊ย ร้านกาแฟเก่าแก่ชื่อดังของอำเภอ ลาเต้เป็นหนุ่มขี้อาย ไม่ค่อยพูด และชอบผู้หญิงที่เป็นผู้นำ เขาแอบหลงรักปอยและคอยช่วยเหลือเธอในการคลี่คลายเรื่องราววุ่นวายต่างๆ ของชาวบ้าน

คุณนายชะอ้อน สูบโลหิต เจ้าของตลาดยิ่งจะรวย คือคนแรกที่ปอยเลือกจะผูกมิตรด้วย เพราะนอกจากคุณนายชะอ้อนจะเป็นผู้ทรงอิทธิผลฝ่ายหญิงที่สามารถคัดง้างกับเสี่ยอ๋า ผู้มีอิทธิพลฝ่ายชายได้  ปอยยังรู้จุดอ่อนว่า  ตั้งแต่สามีคนที่สามของคุณนายชะอ้อนตายไป คุณนายชะอ้อน ทั้งเล็ง ทั้งเล็ม ทั้งตอด มหาแม่น มาตลอด แต่มหาแม่นก็ปฏิเสธ เหตุผลหลักคือ กลัวตาย เพราะสามีคุณนายชะอ้อนตายไปแล้วทั้งสามคน ปาดุ๊ก (แมทธิว ดีน) ปาลิม่า (ชมพูนุช ปิยธรรมชัย) และเปี๊ยก (ด.ช.คณิศร สุวรรณศรี)  ลูกของ คุณนายชะอ้อน เป็นผลผลิตของสามีทั้งสามคน คนละพ่อ

การเข้าไปผูกมิตรสร้างฐานกำลังกับครอบครัวคุณนายชะอ้อน... ปอยได้รับความร่วมมือจากดุ๊ก ที่สมาคมคนเกลียดความเค็มของ คุณนายชะอ้อน ชอบเรียกด้วยความสะใจว่า ปลาดุก เมื่อมีปอย นชีวิตดุ๊ก ที่มีอาการเรียบร้อยจนมีพิรุธก็รู้สึกอุ่นใจที่มีพี่สาวห้าวๆ  แรงๆ อย่าง ปอย มาดูแล  เปี๊ยกลูกชายจอมซนคนสุดท้อง มีความสามารถพิเศษคือ  นำความหายนะมาให้ครอบครัวสูบโลหิตไม่เว้นแต่ละวัน เปี๊ยก ก็รักและชื่นชมปอยไม่แพ้กับดุ๊ก แต่ความรู้สึกแบบนี้ไม่มีในใจของปาลิม่า ลูกสาวคนกลางที่ไม่สวย และยังขี้วีนของคุณนายชะอ้อน เพราะข้อหารุนแรงคือ ปอยรวยและสวยกว่า และอาจเป็นคู่แข่งที่แย่งจะเด็ดไปจากปาลิม่าได้ 
ยิ่งนานวัน ยิ่งมีเรื่องมโนสาเร่เกิดขึ้นในอำเภอไม่ว่าจะเป็น เรื่องยืมเงินแต่ไม่ใช้,  เรื่องขโมยเงินแม่ยาย , เรื่องปืนรั้วแอบดูลูกสาวชาวบ้าน, เรื่องวิวาทไล่ที่, เรื่องที่จอดรถหน้าบ้าน, เรื่องแซงคิวซื้อกล้วยทอด ฯลฯ  ก็จะได้รับการไกล่เกลี่ยและแก้ไขโดยความสามารถของทนายสาวและปลัดหนุ่ม
ปอย จะเด็ด และ มหาแม่น จะร่วมมือกันช่วยชาวบ้านให้หลุดพ้นจากอิทธิมืดที่ครอบงำจิตใจโดยใช้ กฎหมาย และ ศีลธรรม ได้หรือไม่ ความรักของทนายสาวและปลัดหนุ่มจะลงเอยอย่างไร ต้องติดตาม

————————————————————————