“ไซอิ๋ว วานรผู้พิทักษ์” (MONKEY KING : HERO IS BACK) ภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยมที่ได้รับความนิยมและเสียงชื่นชมกับผลงานที่สร้างประวัติศาสตร์แห่งวงการแอนิเมชันของจีน กวาดรายได้รวมกว่า 900 ล้านหยวน ถือเป็นแอนิเมชันที่โกยรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ กับเรื่องราวตำนานของ ไซอิ๋ว ที่มีการปรับแต่งได้อย่างดีเยี่ยมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่อันน่าทึ่งของการสร้างภาพยนตร์ไซอิ๋วของจีน โดยในเรื่องนี้ ไซอิ๋ว ไม่ใช่เทพวานรสุดเก่งที่มีความสามารถเพียบพร้อมดั่งที่เรารู้จัก แต่กลับเป็นวานรที่สูญเสียอิทธิฤทธิ์ ขี้กังวล ส่วน พระถังซัมจั๋ง กลับเป็นเณรน้อยสุดน่ารักและแสนกล้าหาญ ซึ่งมีความเลื่อมใสศรัทธาในความเป็นมหาเทพผู้ปกป้องตั้งแต่เริ่มจำความได้ ส่วน ตือโป๊ยก่าย ยังคงความตลกขบขัน ขี้ขลาดและเห็นแก่กินไม่เปลี่ยน โดยเหตุผลที่ทุกคนมาพบกันคือการร่วมสู้รบกับปีศาจร้ายและช่วยปกป้องชีวิตของชาวบ้าน

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ไซอิ๋ว บุกขึ้นไปถล่มสวรรค์ และพิชิตทหารสวรรค์ของเง็กเซียนฮ่องเต้ลงได้ราบคาบทั้งหมด แต่เขากลับถูกกำราบโดย พระยูไล และถูกสะกดจองจำอยู่ใต้ภูเขาเบญจคีรี โดยเรื่องราวนี้ถูกเล่าขานต่อกันไปอย่างกว้างขวางจากรุ่นสู่รุ่น จนกระทั่งทุกคนให้ความนับถือมหาเทพวานรว่าเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่และที่มีอิทธิฤทธิ์กล้าแกร่ง จน 500 ปีผ่านไป เณรน้อยเจียงหลิว ได้หลงเข้าไปในหุบเขาและดึงยันต์ศักดิ์สิทธิ์ที่สะกด ไซอิ๋ว ไว้ออกโดยบังเอิญ ไซอิ๋ว จึงหลุดพ้นจากโซ่ตรวนที่ขึงรั้งไว้ได้ แต่อำนาจสะกดยังคงไม่หมดไปเพราะปลอกเหล็กที่รัดข้อมือไว้ยังคงอยู่ ทำให้ฤทธิ์เดชของมหาเทพวานรยังคงถูกกดไว้เหลือเพียงฝีมือการต่อสู้แสนธรรมดา

ระหว่างการเดินทาง เจียงหลิว และ ไซอิ๋ว ได้พบ ตือโป๊ยก่าย โดยบังเอิญ และได้พบกับเหล่าปีศาจแต่ ไซอิ๋ว กลายเป็นเพียงผู้ไร้ซึ่งความสามารถ จึงเอาชนะปีศาจไม่ได้ แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะแบกรับหน้าที่การเป็นมหาเทพผู้ปกป้อง โดยพา ตือโป๊ยก่าย ออกติดตามไปช่วย เณรน้อยเจียงหลิว เขาได้สู้รบอย่างเต็มความสามารถ แต่เนื่องจากสูญเสียอิทธิฤทธิ์เขาและเณรน้อยจึงพ่ายแพ้และถูกปีศาจเล่นงาน เขาจึงรู้สึกเสียใจและโกรธแค้นมาก จนเกิดเป็นแรงกระตุ้นให้ปลดปล่อยพลังที่ถูกสะกดไว้ออกมา และกลับเป็นมหาเทพผู้ทรงฤทธิ์เดชดังเดิม อีกทั้งยังสามารถเอาชนะปีศาจทั้งหลายได้สำเร็จสมกับการเป็น “ไซอิ๋ว วานรผู้พิทักษ์”