“สตาร์วอร์ส : ซิธชำระแค้น” (STAR WARS : REVENGE OF THE SITH) ภาคสุดท้ายในไตรภาคแรก ของภาพยนตร์ชุดระดับตำนานที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด โดยกวาดรายได้ทั่วโลกปิดท้ายความสำเร็จไปกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดของปีค.ศ. 2005 โดยได้ จอร์จ ลูคัส สุดยอดผู้กำกับและผู้เขียนบทมือทองที่สร้างสรรค์ภาพยนตร์เรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นมารับหน้าที่กำกับและเขียนบทเช่นเดิม พร้อมด้วยทีมนักแสดงคุณภาพ นำโดย ยวน แม็กเกรเกอร์, นาตาลี พอร์ตแมน, เฮย์เดน คริสเตนเซน และ เอียน แมคเดียร์มิค ที่กลับมาร่วมส่งท้ายในบทสรุปของภาพยนตร์ชุดสุดยิ่งใหญ่เรื่องนี้

การต่อสู้แห่งหายนะครั้งสุดท้ายของสงครามโคลนได้แผ่ขยายไปทั่วกาแล็กซี่ ชีวิตของ อนาคิน สกายวอล์กเกอร์ (เฮย์เดน คริสเตนเซน) ที่ตอนนี้กลายเป็นอัศวินเจได และได้แต่งงานอย่างลับๆ กับวุฒิสมาชิกหญิง แพดเม่ อมิดาล่า (นาตาลี พอร์ตแมน) เกิดความรู้สึกขัดแย้งขึ้นภายในจิตใจ เนื่องจากความกลัวที่จะต้องสูญเสียคนรักไป ทำให้เขาต้องตกเป็นเหยื่อของ แพลพาทีน (เอียน แมคเดียร์มิค) สมุหนายกสูงสุดผู้ทรยศ ที่ได้เปิดเผยให้ อนาคิน ล่วงรู้ถึงพลังของด้านมืด และชักนำให้เขากลายเป็น ดาร์ธ เวเดอร์

ในขณะเดียวกัน โอบีวัน-เคโนบี (ยวน แม็กเกรเกอร์) รับรู้ได้ถึงความขัดแย้งภายในจิตใจของ อนาคิน และพยายามที่จะหาทางช่วยเหลือ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ อีกทั้ง ซิธ ลอร์ด ผู้ลึกลับที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เลวร้ายทั้งหมด ได้ออกอุบายเพื่อหาทางทำลายเหล่าเจได โดยกล่าวหาว่าเหล่าเจไดตั้งตัวเป็นกบฏ ทำให้ โอบีวัน-เคโนบี และปรมาจารย์โยดา (แฟรงค์ ออซ) ต้องหลบหนีไปตั้งตัว การเผชิญหน้ากันของฝ่ายสาธารณรัฐกับฝ่ายแบ่งแยกมาถึงช่วงเวลาสำคัญที่นำไปสู่การตัดสินใจที่จะกำหนดชะตากรรมของกาแล็กซีในอนาคต