มาดามบ้านนา
มาดามบ้านนา
 

มาดามบ้านนา

ละครก่อนข่าว จันทร์ - ศุกร์ เวลา 18.50 น.

บทประพันธ์ : วัตตรา บทโทรทัศน์ : ปณธี

พงศกร โตสุวรรณ , ปภาวดี ชาญสมอน , นิชานันท์ ฝั้นแก้ว , ธาราเขต เพ็ชร์สุกใส , ชาลีน่า ไบเลย์ , ณัฐภัทร จิรภาวสุทธิ์ , พิมพาภรณ์ เสริมพณิชกิจ , สกลรัฐ พันเทศ , ปริษา ทนาวิวัฒน์ , ภัทรานิษฐ์ คำกำพุด

เรื่องย่อมาดามบ้านนา

เรื่องราวของมหาบัณฑิตสาวบ้านนา ที่ตกกระไดพลอยโจนสวมรอยเป็นคู่หมั้นของว่าที่นักการทูตหนุ่ม เพื่อสืบคดีการตายอย่างมีเงื่อนงำ ของนักวิทยาศาสตร์ที่เธอเคารพรัก ขณะเดียวกันเธอก็ถูกทดสอบอย่างหนักเพื่อพิสูจน์ว่าเหมาะสมกับตำแหน่งภรรยาของนักการทูตหรือไม่ การสืบหาความจริงจึงเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ท่ามกลางความรักของทั้งคู่ที่ค่อย ๆ ก่อตัว

ณ. ใจกลางมหานครกรุงเทพ คฤหาสถ์หลังงามคราคร่ำไปด้วยไฮโซทั่วฟ้าเมืองไทย นักข่าวอีกหลายสำนัก ทุกคนถูกเชิญมางานเปิดตัว ฟ้าคราม หนุ่มหล่อ เท่ห์ ปากจัด เลขาฯท่านทูต และกำลังเป็นเซเลบดังในฐานะเป็นว่าที่ท่านทูตอนาคตไกล ลูกชายเพียงคนเดียวของ ตระการ และ พวงคราม นางามเลิศ สองสามีภรรยานักธุรกิจยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย การเปิดตัวของฟ้าคราม ทำให้เค้าเป็นที่หมายปองของสาวน้อยสาวใหญ่ในทันที ขณะที่งานเลี้ยงดำเนินไป ข้าวปั้น หรือ ปัญชรี นาสุดไกล กับ พีรพงศ์ เพื่อนสนิท ปลอมตัวเข้ามาเป็นพนักงานเสิร์ฟในงานเพื่อสืบเรื่องบางอย่าง นั่นก็คือ...  

การตายของ ดร.ปิตินันท์  อรุณพรรค ผู้ที่ทำการวิจัยเรื่องสายแร่ ที่ถูกคนร้ายฆ่าทั้งครอบครัว คดีนี้เป็นที่รู้กันทั่วประเทศเมื่อ 10 ปีก่อน ข้าวปั้นแอบทำวิจัยเรื่องสายแร่นี้เงียบๆ ไม่เคยบอกให้ใครรู้ และอีกเหตุผลคือ ข้าวปั้นต้องการหาตัวร้ายตัวจริงที่สั่งฆ่าดร.ปิตินันท์และครอบครัวอย่างโหดเหี้ยม ไม่ใช่แพะรับบาปอย่างที่เป็นอยู่นี้ ข้าวปั้นรู้มาว่า ตระการเป็นหนึ่งในทีมวิจัยของดร.ปิตินันทร์ที่ไปทำวิจัยเกี่ยวกับดินที่ภาคอีสานก่อนที่ดร.ปิตินันทร์จะถูกฆ่ายกครัว ข้าวปั้นจึงคิดว่าการได้เข้ามาในบ้านหลังนี้ อาจจะทำให้เธอพบเบาะแสเกี่ยวกับงานวิจัยเรื่องสายแร่ และข้อมูลเกี่ยวกับคนร้ายตัวจริง

ระหว่างที่ข้าวปั้นกับพีรพงศ์แยกกันไปทำงาน ข้าวปั้นดันไปเห็นฟ้าครามกับ แพตตี้ เซเลบเน็ตไอดอล กำลังพลอดรักกัน ข้าวปั้นตกใจมาก แต่ฟ้าครามดันหันมาเห็นเข้าพอดี จึงได้โอกาสผละจากแพตตี้ที่พยายามลวนลามเค้า แต่ข้าวปั้นดันเข้าใจผิดไปแล้ว ข้าวปั้นตกใจรีบวิ่งหนี ฟ้าครามรีบตามไป ทำให้แพตตี้โมโหมาก ข้าวปั้นถูกฟ้าครามจับตัวเอาไว้ได้ ข้าวปั้นพยายามปิดหน้าปิดตา ประกอบที่ตรงนั้นค่อนข้างมืด ทำให้ฟ้าครามไม่เห็นหน้า จังหวะนั้น ข้าวปั้นจัดการเตะผ่าหมากฟ้าครามและหนีออกมาได้สำเร็จ ฟ้าครามทั้งเจ็บทั้งจุก

ข้าวปั้นรีบฉุดพีรพงศ์ให้ออกจากงาน ฟ้าครามรู้ว่าข้าวปั้นปลอมตัวเข้ามาเพราะพนักงานเสิร์ฟตัวจริงสองคนถูกขังอยู่ในห้องเก็บของ ฟ้าครามสงสัยว่าข้าวปั้นเป็นใครกันแน่!!! 

ณ ทุ่งบ้านนา... ข้าวปั้นเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านเกิด แต่กลับต้องช็อกตะลึงงัง เมื่อ เพิ่มบุญ กับ ลาวัลย์ พ่อและแม่ขอร้องให้ข้าวปั้นไปสวมรอยแต่งงานกับลูกชายเจ้าของธุรกิจชื่อดัง เพื่อปลดหนี้จากการเสียรู้หลงกลเล่นแชร์ข้าว ไม่ให้ที่นาผืนสุดท้ายของครอบครัวต้องถูกยึด!!!

สาเหตุของเรื่องวุ่นๆเกิดจากคำสัญญา !!! ระหว่าง ครอบครัว “นาสูงส่ง” กับ ครอบครัว “นางามเลิศ” ที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาแต่อดีต จนรักใคร่กัน ถึงกับสัญญากันว่าหากมีลูกเป็นชายและเป็นหญิงก็อยากจะให้ลูกทั้งสองครอบครัวได้แต่งงานกัน แต่ปัญหาก็คือ ปานรวี สาวใจแตก รักสวยรักงาม ใฝ่ฝันอยากเป็นดารา ลูกสาวคนเดียวของ ประเดิม-มาลี นาสูงส่ง กลับมีคนรักชอบพออยู่แล้ว คือ กำลาภ ลูกชาย เสี่ยกำพล ตั้งสติธรรม นายหน้าค้าที่ดิน แต่เบื้องหลังประกอบธุรกิจผิดกฎหมายทั้งเปิดบ่อน เปิดซ่อง ค้ายา ฯลฯ ปานรวีจึงเหวี่ยงวีนอาละวาดไม่ยอมถูกจับคลุมถุงชนเด็ดขาด หากพ่อแม่บังคับเธอจะฆ่าตัวตาย ประเดิมและมาลีกลัวลูกสาวจะคิดสั้นจริงๆ และก็ไม่อยากผิดคำสัญญาต่อเพื่อน จึงคิดจะส่งลูกสาวคนอื่นไปสวมรอยเป็นปานรวีแทน โดยคิดว่าหากฝ่ายชายเป็นคนปฏิเสธการแต่งงานครั้งนี้เอง ตนทั้งคู่ก็จะไม่ผิดคำพูด ไม่เสียเพื่อน ไม่เสียลูก..ดังนั้น ประเดิมกับมาลีจึงมาใช้อำนาจการเป็นเจ้าหนี้บีบบังคับให้เพิ่มบุญและลาวัลย์ส่ง ข้าวปั้น ไปทำภารกิจแต่งงานแทนลูกสาวตนนั่นเอง  

เพิ่มบุญและลาวัลย์พยายามชักแม่น้ำทั้งห้ามาทำให้ข้าวปั้นยอมแต่งงานล้างหนี้ ทั้งขอร้อง กราบกราน บีบบังคับ ข่มขู่ อาละวาด แต่ยังไงข้าวปั้นก็ไม่ยอมแต่งงาน ข้าวปั้นยืนกรานว่าจะหาเงินด้วยวิธีอื่นมาใช้หนี้ แต่พอข้าวปั้นได้รู้ว่าผู้ชายที่เธอจะต้องไปสวมรอยแต่งงานด้วยนั้น คือ ฟ้าคราม ข้าวปั้นจึงตอบตกลงรับภารกิจสวมรอยแต่งงานทันที

ข้าวปั้นบอกพ่อแม่ว่าจะยอมสวมรอยเป็นปานรวีไปแต่งงาน เพื่อรักษาที่นาของพ่อแม่ มีข้อแม้ว่าพ่อกับแม่จะต้องปกปิดความจริงเรื่องการศึกษาที่แท้จริงของเธอ ข้าวปั้นจะแสร้งทำตัวเป็นสาวใจแตกแบบเดียวกับที่ปานรวีเป็น  เพื่อไม่ให้ฟ้าครามและครอบครัวรู้

ฟ้าครามขัดใจพ่อกับแม่ไม่ได้ จึงตั้งเงื่อนไขขึ้นมาเพราะคิดว่าข้าวปั้นที่ปลอมตัวเป็นปานรวีทำไม่ได้แน่นอน นั่นก็คือ 

“ในเวลา 3 เดือนที่เขาพักร้อนอยู่ที่เมืองไทย ถ้าข้าวปั้นไม่ผ่านบททดสอบคุณสมบัติของการเป็นมาดามท่านทูตทุกข้อ ก็จะไม่มีงานแต่งงานเกิดขึ้น” 

เพราะจริงๆแล้วฟ้าครามก็หาทางที่จะหลีกเลี่ยงการคลุมถุงชนของพ่อแม่ในครั้งนี้เช่นกัน แต่เป็นการเลี่ยงแบบไม่ให้พ่อแม่ต้องเสียหน้าและเสียใจ

ข้าวปั้นยอมรับการทดสอบทุกอย่าง เพื่อให้ได้แต่งงานกับฟ้าคราม มันจะได้สะดวกต่อการทำภารกิจของเธอ  ข้าวปั้นจำต้องทำตามบททดสอบบ้าๆบอๆที่ฟ้าครามตั้งขึ้นมาให้ดีที่สุด เพราะกลัวว่าจะถูกขับไล่ แล้วจะอดได้หลักฐานหรือเบาะแส

คนที่ช็อคกับเรื่องนี้มากที่สุดก็คือ พีรพงศ์ เค้าค้านหัวชนฝา เพราะแอบรักข้าวปั้นมานาน และเค้าก็เข้าใจว่าฟ้าครามเป็นเพลบอย จึงเป็นห่วงข้าวปั้นมากกว่าปกติ แต่ข้าวปั้นบอกว่าไม่ต้องกังวล เธอเตรียมทั้งเครื่องช๊อตไฟฟ้า น้ำตาเทียม พริกไท เอาไว้จัดการฟ้าคราม ถ้าหากฟ้าครามเกิดหน้ามืดตามัวทำอะไรเธอขึ้นมา

ข้าวปั้นย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของฟ้าคราม เธอทำตัวเป็นพวกบ้านนอกเข้ากรุง หลงแสงสี พูดจาเสียงดังจนทำให้ฟ้าครามรำคาญ ผิดกับพ่อและแม่ของฟ้าครามที่ดูจะชอบอกชอบใจในตัวข้าวปั้น

บททดสอบเริ่มต้นขึ้น ข้าวปั้นถูกฟ้าครามออกคำสั่งให้รับหน้าที่ดูแลเรื่องอาหารการกินทุกมื้อในบ้าน ถูกทดสอบทำอาหารไทย-จีน-ฝรั่ง-นานาชาติ ทดสอบทำงานบ้านงานเรือน ส่งไปเรียนภาษาอังกฤษ...แต่แรกๆ ข้าวปั้นต้องเล่นเนียนว่าเป็นเพียงสาวบ้านนาจบม.6 ทำให้ต้องแกล้งทำทุกอย่างออกมาอย่างกระท่อนกระแท่น ทำตัวเป็นคนโง่ เพื่อตบตาฟ้าคราม.....ฟ้าครามทำเป็นโมโห ประกาศเส้นตาย....ถ้าการทดสอบมารยาทในการเข้าสังคมของข้าวปั้นยังไม่ได้เรื่อง งานแต่งงานจะถูกยกเลิก!!!!!  แต่เป้าหมายของข้าวปั้นยังไม่บรรลุ เพราะฉะนั้นการทดสอบนี้.....ต้องเริ่ด!!!!เพื่อต่อเวลาให้ได้อยู่ที่กรุงเทพและใกล้ชิดฟ้าครามต่อไป
ฟ้าครามเล่าเรื่องนี้ให้ ญาดา เพื่อนสนิทของเค้าฟัง ญาดาต่อว่าฟ้าครามว่าใจร้าย รังแกได้แม้กระทั่งผู้หญิง ฟ้าครามว่าเค้าไม่เคยวางใจผู้หญิงคนไหนในโลกยกเว้นญาดา เพราะอดีตเค้าเคยผิดหวังจากรักแรก เค้าจึงไม่คิดจะมีผู้หญิงคนอื่นอีก  

ฟ้าครามพาข้าวปั้นไปงานเลี้ยงปาร์ตี้นักเรียนนอก เพราะไม่คิดว่าคนที่จบการศึกษาแค่มัธยม 6 จะสามารถทำได้ หารู้ไม่ว่าข้าวปั้นทำได้ทุกอย่าง เลือกชุดใส่ได้อย่างมีรสนิยม วางตัวดีจนเป็นที่ประทับใจของเพื่อนๆ และในงานเลี้ยงนั้น ทำให้ญาดาอดที่จะขำไม่ได้ เพราะแผนของฟ้าครามทำท่าว่าจะล้มเหลว ฟ้าครามใช้ไพ่ใบสุดท้าย คือพาข้าวปั้นออกไปเต้นรำ และนั่นเป็นสิ่งเดียวที่ข้าวปั้นไม่ถนัด ข้าวปั้นกลายเป็นตุ๊กตาที่ถูกลากไปลากมาทั่วทั้งฟลอร์ จนในที่สุด ข้าวปั้นเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง ฟ้าครามต่อว่าตอกย้ำความเป็นเด็กบ้านนอกใจแตกของข้าวปั้นต่อหน้าเพื่อนๆในงานเลี้ยง แต่ฟ้าครามกลับถูกญาดาและเพื่อนๆประณามว่าแล้งน้ำใจซะเอง ทำให้ฟ้าครามรู้สึกผิด

ข้าวปั้นเอ็นข้อเท้าอักเสบ ถูกหมอสั่งห้ามเคลื่อนไหว ตระการรู้สึกโกรธลูกชายมากจึงสั่งให้ชายหนุ่มต้องดูแลข้าวปั้นจนกว่าขาจะหายดี ข้าวปั้นแอบยิ้มเยาะที่ฟ้าครามต้องกลายมาเป็นคนรับคำสั่งของเธอ จึงแกล้งเป็นนั่นเป็นนี่อยู่บ่อยๆ อยากกินนู้นกินนี่ โดยเฉพาะส้มตำปูล้าร้า  ลาบ น้ำตก  ซึ่งข้าวปั้นก็ไม่คิดไม่ถึงว่าหนุ่มนักเรียนนอกว่าที่ท่านทูตอย่าง    ฟ้าครามจะมีสายเลือดพ่อครัวอีสานอยู่เต็มตัว แต่ในระหว่างที่ฟ้าครามต้องดูแลข้าวปั้นนั้น ฟ้าครามได้เห็นเอกสารงานวิจัยของ ดร.ปิตินันท์ ที่ซุกอยู่ในตู้เสื้อผ้าของหญิงสาว ฟ้าครามไม่เข้าใจว่าเด็กใจแตกที่เรียนจบแค่ม.6 อย่างข้าวปั้นจะสนใจอ่านงานวิชาการด้วย ข้าวปั้นเกรงความลับเกี่ยวกับการสลับตัวระหว่างเธอกับปานรวีจะแตกก่อนเวลาอันควร จึงโกหกไปว่าไม่ได้เอามาอ่าน แต่จะเอาไปชั่งกิโลขาย

ฟ้าครามต้องพาพ่อกับแม่ออกไปทานอาหารเที่ยงกับภริยาทูต ข้าวปั้นอ้างว่าขาเจ็บ ขออยู่เฝ้าบ้าน แต่จริงๆแล้วเธอหาโอกาสจะเข้าไปค้นในห้องทำงานและห้องนอนของตระการมากกว่า ระหว่างที่กำลังรื้อหาเบาะแส อยู่ๆตระการกลับเข้ามา ข้าวปั้นหาทางหลบซ่อน และเผลอทำกิ๊บติดผมหล่นในห้อง เมื่อฟ้าครามมาพบกิ๊บนั้น จึงคิดเอาว่าข้าวปั้นแอบเข้าห้องนอนพ่อ คงคิดจะรวบหัวรวบหางพ่อของตนด้วย กลายเป็นเรื่องวุ่นวายใหญ่โต ยิ่งทำให้ฟ้าครามจับตาดูพฤติกรรมของข้าวปั้นมากยิ่งขึ้น.....

ด้านพีรพงศ์บังเอิญช่วยญาดาจากการที่โดนคนร้ายลวนลาม เธอให้ค่าตอบแทนเค้า แต่พีรพงศ์ไม่รับ ยิ่งทำให้ลูกคุณหนูที่แวดล้อมไปด้วยคนที่เข้ามาหาผลประโยชน์กับเธอ...ประทับใจในตัวพีรพงศ์ ญาดาให้นามบัตรพีรพงศ์เอาไว้ และบอกให้โทรหาเธอได้ทุกเมื่อถ้าพีรพงศ์เดือดร้อน   

ท่านบดี นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ สนใจอยากร่วมลงทุนกับตระการ แต่ฟ้าครามรู้มาว่าท่านบดีไม่ใช่นักธุรกิจที่มือสะอาด จึงเตือนพ่อ ทำให้ตระการหาทางเลี่ยง ท่านบดีไม่พอใจ แต่ยังไม่กล้าทำอะไรวู่วาม เสี่ยกำพลเสนอตัวจะจัดการตระการให้ แต่ท่านบดีห้าม ทำให้เห็นว่าเสี่ยกำพลทำงานให้กับท่านบดี

ฟ้าครามเริ่มไม่ไว้ใจในตัวข้าวปั้นมากจากพฤติกรรมลับๆล่อๆหลายอย่าง ฟ้าครามจึงว่าจ้าง ไอ้บ่อน ลูกชายวัยรุ่นตัวแสบของป้าใย แม่ครัวประจำบ้านคอยจับตาดูข้าวปั้นทุกฝีก้าว และคอยรายงานให้เขารับรู้ตลอด
ด้านแพตตี้รู้ข่าวว่าฟ้าครามจะแต่งงานกับข้าวปั้นก็หัวเสีย เธอกับพิ้งกี้ เพื่อนสนิท แทคทีมกันไปหาเรื่องข้าวปั้น ตอนแรกเธอคิดว่าข้าวปั้นจะเป็นสาวบ้านนาคนซื่อ แต่ที่ไหนได้ แพตตี้กับพิ้งกี้กลับโดนข้าวปั้นจัดการซะจนวิ่งหนีกลับไปแทบไม่ทัน ทำให้แพตตี้แค้นใจมาก 

ไอ้บ่อนเห็นข้าวปั้นออกจากบ้าน จึงรายงานฟ้าครามให้สะกดรอยตามไป ฟ้าครามตามไปจนพบว่า ข้าวปั้นแอบนัดพบกับพีรพงศ์ ฟ้าครามเข้าใจผิด คิดว่าสองคนนี้แอบรักกันลับหลังตน ฟ้าครามทั้งเจ็บแปลบทั้งโมโหที่ถูกสาวใจแตกสวมเขา ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีคุณค่าพอจะเป็นมาดามทูตอย่างเขา โดยไม่รู้เลยว่า แท้จริงแล้วข้าวปั้นขอให้พีรพงศ์ช่วยหาข้อมูลเกี่ยวกับงานวิจัยสายแร่อย่างลับๆ
ข้าวปั้นจับได้ว่าไอ้บ่อนแอบตามเธอ และไอ้บ่อนก็ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเธออย่างจริงจัง ข้าวปั้นสืบจนรู้ว่าไอ้บ่อนแอบหลงรักน้องอ้อย สาวใช้ข้างบ้าน จึงช่วยไอ้บ่อนทำให้น้องอ้อยประทับใจ ข้าวปั้นจึงซื้อใจไอ้บ่อนได้สำเร็จ และให้ไอ้บ่อนโกหกฟ้าครามว่าข้าวปั้นไม่มีอะไรน่าสงสัย

ด้านพีรพงศ์เอางานวิจัยเล่มที่สองของดร.ปิตินันท์มาให้ข้าวปั้น ซึ่งเล่มที่ได้มานั้นบางและเหมือนเป็นงานที่ทำค้างอยู่ เนื้อหาบอกเพียงว่าดินที่ดร.ปิตินันท์และคณะนักศึกษาของเขาศึกษานั้นมีดินจากทุ่งบ้านนาที่พบว่ามีสายแร่  ส่วนพิกัดและแผนที่นั้นเป็นเพียงหัวข้อที่ขึ้นต้นไว้ แต่ไร้เนื้อความ ข้าวปั้นสงสัยเรื่องพิกัดของสายแร่ และอยากรู้ว่าคณะนักศึกษาของดร.ปิตินันท์นับสิบคนนั้น หายไปไหนกันหมด
ข้าวปั้นคิดหาตัวกลุ่มนักศึกษาเหล่านั้นให้เจอ!!!

ข้าวปั้นเดินทางไปที่บ้านพักของดร.ปิตินันท์ที่ปัจจุบันปิดตายเป็นบ้านร้างเพียงลำพัง มีเพียง ตาเชื่อม คนเฝ้าบ้านเก่าแก่อยู่คนเดียว แต่ในบ้านนั้น ไม่มีหลักฐานอะไรหลงเหลืออยู่ ราวกับว่าใครบางคนเข้ามาเก็บกวาดหลักฐานต่างๆออกไปหมดเรียบร้อยแล้ว ข้าวปั้นไม่ได้เบาะแสอะไรกลับไป และยังไม่รู้ตัวเลยว่า การมาที่บ้านนี้ได้ถูกบันทึกภาพเอาไว้โดยใครบางคนแล้ว

ฟ้าครามไม่พอใจที่ข้าวปั้นแอบติดต่อกับพีรพงศ์ตลอดเวลา ฟ้าครามจึงจงใจบังคับข้าวปั้นให้ไปร่วมงานแถลงข่าวเกี่ยวกับการจัดประกวดนางงามครกทองคำ ที่จัดขึ้นโดยชมรมนักธุรกิจชาวอีสาน พวงครามในฐานะประธานชมรมรับผิดชอบการจัดงานทุกอย่าง โดยที่ในงานนั้น ฟ้าครามวางท่าเป็นเจ้าข้าวเจ้าของข้าวปั้นอย่างออกหน้า จนมีปากมีเสียงกับข้าวปั้นตลอดทั้งงาน แล้วข้าวปั้นก็ได้เจอกับปานรวีที่มารับจ๊อบเป็นพริตตี้ของงาน ปานรวีประทับใจในความสง่าและ  ดูดีของฟ้าคราม ยิ่งพอรู้ว่าคือชายหนุ่มที่ตนปฏิเสธ ยิ่งเสียดาย ถึงกับคิดอยากจะเลิกกับกำลาภที่ไม่เอาไหน วันๆก็เอาแต่อวดเบ่งทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของเธอต่อหน้าทุก ๆ คน

ปานรวีลากข้าวปั้นแยกออกมาจากในงานเพื่อบอกว่าเธออยากจะเฉลยความจริง เธออยากแต่งงาน อยากเป็นเมียทูต จะไม่พึ่งข้าวปั้นอีกต่อไป ข้าวปั้นพยายามขอร้องว่าอย่าเพิ่งรีบบอก เพราะเธอยังไม่ได้เบาะแสอะไรเลย แต่ปานรวีไม่ฟัง คิดจะไปบอกความจริงกับฟ้าคราม แต่มีเหตุให้ปานรวีบังเอิญได้ยินฟ้าครามต่อว่าข้าวปั้นเสียก่อน ฟ้าครามตำหนิข้าวปั้นเสียๆหายๆ และเผยความในใจว่า เขาไม่เคยพิศวาสในตัวปานรวีเลย ทั้งน่าเบื่อและน่ารำคาญที่สุด ไม่ใฝ่เรียน ทำตัวไร้ค่า ฟ้าครามยังพูดเปรียบเทียบปานรวีกับข้าวปั้น บอกให้ดูข้าวปั้นเป็นตัวอย่าง ได้ทุนเรียนต่อได้ดิบได้ดีไปถึงไหนต่อไหนแล้ว...ข้าวปั้นรู้ได้ทันทีว่าฟ้าครามแอบมีใจให้เธอมาตั้งแต่เด็ก เช่นเดียวกับที่เธอก็มีใจให้เขาเช่นกัน ข้าวปั้นอยากจะบอกความจริง ว่าเธอไม่ใช่ปานรวีที่เขาเกลียด เธอคือข้าวปั้นที่เขารักต่างหาก แต่อยู่ๆปานรวีกลับเดินเข้ามาแนะนำตัวเองว่าชื่อข้าวปั้น (ปานรวีสวมรอยเป็นข้าวปั้น) ข้าวปั้นตัวจริงได้แต่อึ้ง กล้ำกลืน  

ปานรวี(ที่หลอกฟ้าครามว่าคือข้าวปั้น)เข้ามาในชีวิตของฟ้าคราม สวมรอยว่าตนเองก็ประทับใจฟ้าครามมาตั้งแต่เด็ก แม้จะต้องมั่วบ้าง แถๆไปบ้าง แต่ก็ทำให้ฟ้าครามประทับใจได้ และฟ้าครามก็ดูจะชอบปานรวีอย่างเปิดเผย (เพราะเข้าใจว่าคือดญ.ข้าวปั้น) ผิดกับพ่อแม่ฟ้าคราม ป้าใยและไอ้บ่อนที่ไม่ถูกชะตาปานระวีอย่างมาก เพราะพออยู่ต่อหน้าฟ้าคราม ปานระวีจะทำตัวเป็นนางเอกผู้แสนดี แต่พอลับหลัง ก็จะกลายร่างเป็นนางร้าย ฟ้าครามเล่าเรื่องปานรวีที่โกหกว่าเป็นข้าวปั้นให้ญาดาฟัง ทำให้ญาดารู้ว่าผู้หญิงที่เป็นรักแรกของฟ้าครามคือข้าวปั้น ญาดาสงสารข้าวปั้นที่โกหกว่าเป็นปานรวีอย่างมาก นั่นทำให้ญาดากับข้าวปั้นได้มีโอกาสคุยกัน และญาดาก็ได้รู้ว่าพีรพงศ์เป็นเพื่อนสนิทกับข้าวปั้น ข้าวปั้นพอเดาออกว่าญาดาแอบชอบพีรพงศ์จึงหาทางช่วย แต่กลับเจอพีรพงศ์ต่อว่า เค้าเสียใจที่ข้าวปั้นพยายามจะเป็นแม่สื่อเค้าให้กับผู้หญิงอื่น ทั้งๆที่พีรพงศ์ชอบข้าวปั้น ข้าวปั้นอึ้งที่ได้รู้ความจริง

กำลาภเข้ามาเห็นฟ้าครามนั่งสวีทกับแฟนของตนอยู่ก็เข้ามาจะมีเรื่องกับฟ้าคราม จนปานรวีต้องพากำลาภออกไปก่อนความแตก ปานรวีหลอกกำลาภว่ายังรักกำลาภเหมือนเดิม ส่วนฟ้าครามก็แค่เรื่องเส้นสายในการเข้าสู่วงการ กำลาภเชื่อและไว้ใจปานรวีหมดใจ ปานรวีโล่งอก โดยไม่รู้ว่าพีรพงศ์อยู่บริเวณนั้น และได้ยินสิ่งที่ปานรวีโกหกทั้งหมด ปานรวีข่มขู่พีรพงศ์ว่าถ้าปากโป้งเรื่องนี้แม้แต่นิดเดียว ตนจะให้พ่อยึดที่นาของข้าวปั้น แล้วรับรองว่าจะไม่มีใครได้มีความสุขกันสักคน พีรพงศ์รักข้าวปั้นมาก จึงไม่เผยเรื่องนี้กับใคร

ในที่สุด ฟ้าครามก็คบกับปานรวีอย่างเปิดเผย (ฟ้าครามเข้าใจว่าคือข้าวปั้น) โดยไม่สนใจว่าพ่อกับแม่จะว่ายังไง ปานรวีคอยยุให้ฟ้าครามยกเลิกสัญญาในอดีตของพ่อแม่ แล้วมาแต่งงานกับตนแทน 
ข้าวปั้นพยายามไม่ใส่ใจเรื่องฟ้าครามกับปานรวี แต่ก็ออกอาการจนพีรพงศ์จับสังเกตได้ พีรพงศ์เตือนให้โฟกัสที่ภารกิจเพื่อส่วนรวมก่อน เพราะมีข่าวมาบอก เกี่ยวกับ ดร.วนัส  เปี่ยมกิตติ อาจารย์ธรณีวิทยาที่เคยสอนอยู่ในจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ เป็นนักศึกษาหนึ่งในสิบคนที่สมัครใจไปวิจัยดินที่ภาคอีสานกับดร.ปิตินันท์

ข้าวปั้นกับพีรพงศ์เดินทางไปที่บ้านของดร.วนัส ปานรวีรู้ จึงใส่ไฟข้าวปั้นให้ฟ้าครามฟัง แต่ฟ้าครามดันหึง จึงรีบตามไปสมทบ

บ้านของดร.วนัสนั้นอยู่ในป่าลึก เหมือนจะหลบซ่อนตัวจากสังคม กว่าข้าวปั้นจะเข้าไปถึงได้แทบกระอักเลือด    ทีแรกดร.วนัสปฏิเสธไม่ต้อนรับผู้ใด ยิ่งพอรู้ว่าข้าวปั้นมาด้วยเรื่องงานวิจัยดินทุ่งบ้านนาดร.วนัสก็ถึงกับลนลาน วิ่งหนี จนกลายเป็นเรื่องวุ่นวาย เพราะดร.วนัสลื่นไถลหล่นไปในชั้นหิน จนเกือบจะตาย โชคดีที่ข้าวปั้นมาช่วยเอาไว้ได้ทัน สุดท้าย ดร.วนัสก็ไว้ใจข้าวปั้นกับพีรพงศ์ ยอมเล่าความจริงว่างานวิจัยของดร.ปิตินันท์ ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากท่านบดี แต่เมื่อหัวหน้าทีมเขียนรายงานให้เจ้าของทุนทราบในเบื้องต้นว่าค้นพบที่ดินที่มีสายแร่ ด้วยความละโมบโลภมาก ท่านบดีเร่งรัดจะเอาแผนที่พิกัดที่มีสายแร่ แต่ดร.ปิตินันท์เห็นว่าทรัพย์ในดินนั้นเป็นสมบัติของแผ่นดิน เขาจึงประกาศหยุดงานวิจัยนี้และคืนเงินทุนที่เหลือครึ่งหนึ่งให้กับท่านบดี ตั้งแต่นั้นมา ชีวิตของ ดร.ปิตินันท์ก็หาความสุขไม่ได้เลย มีคนตามราวีข่มขู่ตลอด จนสุดท้ายก็ถูกฆ่าล้างครัว กลุ่มนักศึกษาทั้งสิบคนก็ถูกตามราวีจนหลายคนต้องเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ย้ายที่อยู่ บางคนก็หนีไปเรียนต่างประเทศ ดร.วนัสถึงต้องมาหลบอยู่ในป่าเช่นนี้ ทุกคนคาดเดาว่าเป็นฝีมือของท่านบดี แต่ไม่มีใครกล้าออกมาพูดหรือให้ข้อมูลใดๆ.....

ข้าวปั้นอยากจะไขความกระจ่างในคดีนี้ แต่ดร.วนัส ห้ามไม่ให้ข้าวปั้นรื้อฟื้นเรื่องนี้ขึ้นมาอีก เพราะจะเป็นอันตราย ข้าวปั้นดื้อดึงจะต้องทำให้สำเร็จ เพราะถ้ามีนายทุนจ้องจะตะครุบสายแร่ที่ทุ่งบ้านนาจริง ข้าวปั้นก็จะต้องปกป้องสมบัติของแผ่นดิน และจะต้องคืนความยุติธรรมให้คนที่ทำเพื่อส่วนรวมอย่างดร.ปิตินันท์ด้วย

ในระหว่างทางขากลับ ข้าวปั้นกับพีรพงศ์ถูกคนร้ายขี่มอเตอร์ไซค์ประกบเพื่อข่มขู่ว่าจะเอาชีวิต ทั้งสองคนต้องสู้และพากันหนี เกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่โชคดีที่ฟ้าครามซึ่งขับรถตาม เข้ามาช่วยเอาไว้ได้ทัน ข้าวปั้นรู้ว่านี่คือการข่มขู่ เป็นสัญญาณเตือนว่าให้หยุดสืบเรื่องสายแร่ทุ่งบ้านนาเพราะครั้งหน้าคงไม่ไว้ชีวิต แต่ข้าวปั้นกลับฮึกเหิม ยิ่งต้องทำให้สำเร็จ ในขณะที่ ฟ้าครามโวยวายว่าข้าวปั้นกับพีรพงศ์ทำอะไรกันอยู่ ทำไมมีคนร้ายไล่ตาม ข้าวปั้นบอกว่าเป็นผัวเก่าที่ตามมาราวีเพราะยังตัดใจจากตนไม่ได้ ฟ้าครามไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ

นอกจากข้อมูลที่ได้จากดร.วนัสแล้ว ข้าวปั้นยังรู้มาอีกด้วยว่าเวลานี้ชาวบ้านทุ่งบ้านนาหลายครอบครัว ได้ขายที่ดินให้กับนายทุนไปแล้ว ผ่านนายหน้าอย่างเสี่ยกำพลกับกำลาภนั่นเอง และนายทุนใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังการกว้านซื้อที่ดินทุ่งบ้านนาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ท่านบดี นั่นเอง...ยิ่งทำให้ข้าวปั้นต้องเข้าถึงตัวดร.บดีให้ได้!!!

ฟ้าครามลากข้าวปั้นกลับมาบ้าน ทั้งสองคนทะเลาะกันบ้านแทบแตกอย่างไม่มีใครยอมใคร ญาดารู้เรื่องจากฟ้าครามจึงบอกว่าฟ้าครามรักข้าวปั้น และกำลังทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ฟ้าครามปฏิเสธว่าไม่ได้คิดอะไรกับข้าวปั้น ทั้งๆที่เริ่มไม่แน่ใจ

ข้าวปั้นถูกลอบทำร้ายอีกหลายครั้ง และในแต่ละครั้ง ก็มักมีฟ้าครามอยู่ด้วย จนฟ้าครามชักไม่เชื่อว่าข้าวปั้นจะโดนราวีจากผัวเก่า เค้าพยายามคาดคั้น แต่ข้าวปั้นไม่ตอบ ฟ้าครามสงสัยว่าข้าวปั้นจะทำอะไรที่ผิดกฎหมาย จึงเริ่มหวาดระแวง 

การประกวดนางงามครกทองคำ ที่จัดขึ้นที่ทุ่งบ้านนามีทั้งประเภทสวยงามและประเภทตลกขบขัน  ปานรวีตั้งใจจะเข้าประกวดประเภทสวยงาม ฟ้าครามสนับสนุน แต่ก็แอบบังคับใส่ชื่อข้าวปั้นขึ้นประกวดด้วย เพราะเจตนาจะให้ข้าวปั้นขายหน้า ทีแรกข้าวปั้นจะขอถอนชื่อ แต่เมื่อรู้ว่าผู้ชนะและรองจะได้รับการเลี้ยงแสดงความยินดีจากสปอนเซอร์ของการจัดงาน ซึ่งก็คือ ท่านบดี ทำให้ข้าวปั้นมุ่งมั่นในการประกวด เพื่อเข้าใกล้ท่านบดี เพราะเธอเชื่อลึกๆว่าท่านบดีต้องอยู่เบื้องหลังการฆ่ายกครัวของดร.ปิตินันท์แน่นอน

ข้าวปั้นจึงมุ่งมั่นตั้งใจฝึกซ้อมเพื่อเป็นนางงามอย่างเต็มที่ โดยมีฟ้าครามคอยมาช่วยสอน

ในระหว่างการฝึกเป็นนางงาม ข้าวปั้นได้รับการติดต่อจากเพิ่มบุญและลาวัลย์ ที่หนีหัวซุกหัวซุนออกจากทุ่งบ้านนาเพราะมีคนลอบทำร้าย เผาบ้าน พ่อแม่บอกว่าให้เห็นแก่ความปลอดภัยของตัวเอง หยุดสิ่งที่ทำอยู่ซะ อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเลย แต่ข้าวปั้นบอกว่าตอนนี้สิ่งที่เป็นปริศนา คือ แผนที่พิกัด ที่ระบุตำแหน่งที่แน่ชัด ว่าบริเวณไหนของทุ่งบ้านนามีสายแร่อยู่ ถ้าหาแผนที่พิกัดเจอและส่งให้ทางราชการ สายแร่ที่ถือว่าเป็นสมบัติของชาติของแผ่นดินก็จะไม่ตกไปอยู่ในมือคนละโมบ และข้าวปั้นมั่นใจว่าแผนที่พิกัดอยู่ที่ท่านบดีแน่ หากเธอชนะการประกวดนางงาม เธอก็จะได้เข้าไปในบ้านของท่านบดี ข้าวปั้นรู้สึกว่าถอยหลังไม่ได้อีกแล้ว

ในการประกวด แพตตี้ที่ถูกเชิญมาเป็นคณะกรรมการ เห็นข้าวปั้นลงประกวดก็ไม่พอใจ หาทางกลั้นแกล้ง ขังข้าวปั้นเอาไว้ในห้อง แต่สุดท้ายฟ้าครามก็ตามมาช่วยเอาไว้ ทำให้ข้าวปั้นขึ้นประกวดได้ทัน ทำให้แพตตี้ประหลาดใจอย่างมาก ข้าวปั้นตอบคำถามได้อย่างเฉลียวฉลาดมีไหวพริบและที่สำคัญภาษาอังกฤษของเธอดีราวกับนักเรียนนอก ในขณะที่ปานรวีพูดภาษาได้อย่างสเน็คๆฟิชๆ สร้างความฉงนสงสัยให้ฟ้าครามมาก เพราะเขารู้สึกว่า ข้าวปั้น(ที่เขาคิดว่าคือปานรวี) คนนี้ไม่เหมือนคนที่จบแค่มัธยมปลาย แต่เหมือนระดับด็อกเตอร์เลยทีเดียว...แล้วผลการตัดสินที่ออกมา ข้าวปั้นได้เป็นรองอันดับหนึ่ง ปานรวีคือผู้ชนะตัวจริง แต่ความเฉลียวฉลาดของข้าวปั้นโดนใจท่านบดีที่มานั่งเป็นกรรมการอย่างมาก ถึงกับเรียกให้มาพบเป็นการส่วนตัวหลังเวที ข้าวปั้นทำใจดีสู้เสือ แต่ทันทีที่เข้ามาถึง ท่านบดีก็ทำเจ้าชู้ใส่ เข้ามากอดข้าวปั้นอย่างถือวิสาสะ ข้าวปั้นโปรยเสน่ห์และออดอ้อนจะขอไปที่บ้านท่านบดีให้ได้ แต่อยู่ๆฟ้าครามโผล่มาเห็นภาพนั้น ผลุนผลันชกท่านบดี จนกลายเป็นเรื่องใหญ่ ฟ้าครามประกาศว่าข้าวปั้นคือว่าที่ภรรยาตน ท่านบดีไม่มีสิทธิ์ทำอย่างนี้

ข้าวปั้นต่อว่าฟ้าครามว่าไม่มีสิทธิประกาศว่าตนเป็นภรรยา เพราะฟ้าครามเองก็ยังมีปานรวีอยู่อีกคน ไม่ได้คิดจะยกย่องให้เธอเป็นมาดามอยู่แล้ว ฟ้าครามสับสนในตัวเอง ว่าเขารักใครกันแน่ ระหว่างข้าวปั้น(ที่เขาเข้าใจว่าคือปานรวี) กับปานรวี(ที่เขาเข้าใจว่าคือข้าวปั้น) 

ในงานเลี้ยงต้อนรับนางงามที่บ้านท่านบดี ข้าวปั้น ปานรวี นางงามอันดับ3-4-5 และสื่อบางคน ถูกเชิญมาร่วมงาน ฟ้าครามตามมาด้วยในฐานะผู้ดูแลจากชมรม ข้าวปั้นหลอกให้ท่านบดีที่หลงเสน่ห์ พาเข้าไปในห้องทำงานด้านใน เพื่อหาหลักฐานที่ยืนยันการกระทำผิดของท่านบดี ข้าวปั้นหลอกให้ท่านบดีเข้าไปรอในห้องนอน เพื่อจะได้โหลดข้อมูลออกมาจากคอมพิวเตอร์ส่วนตัว แต่ก็เจอแต่ภาพวาบหวิวของสาวญี่ปุ่น ไม่มีอะไรที่ใช้งานได้เลย จนกระทั่ง ข้าวปั้นแอบเข้าไปในห้องนอน แต่อยู่ๆฟ้าครามสะกดรอยตามเข้ามา ซักถามว่าข้าวปั้นคิดทำอะไร เป็นโจรหรือไง ข้าวปั้นสั่งให้ฟ้าครามเงียบๆ และค้นจนเจอช่องลับที่มีตู้เซฟซ่อนอยู่ ข้าวปั้นพยายามจะเปิดเซฟแต่ไม่รู้รหัส จึงใช้เสน่ห์ยั่วยวนท่านบดี หวังจะให้ท่านบดีโชว์บารมี เปิดตู้เซฟให้ดู แต่หารู้ไม่ว่า ท่านบดีเห็นพฤติกรรมของ  ข้าวปั้นทั้งหมดผ่านวงจรปิด ข้าวปั้นและฟ้าครามถูกจับได้ ไม่สามารถหนีรอดไปได้ ฟ้าครามเพิ่งรู้ความจริงว่าข้าวปั้นกำลังสืบเรื่องดร.ปิตินันท์ และตนเองก็พลอยมาตกระกำลำบากไปด้วย

ท่านบดีคิดกำจัดข้าวปั้นและฟ้าคราม แต่ก็กลัวเป็นคดีความเพราะฟ้าครามเป็นถึงว่าที่ทูต จึงคิดจะกักตัวเอาไว้ก่อน โดยจะพาไปขังที่บ้านร้างของดร.ปิตินันท์ แต่ระหว่างนั้น อยู่ๆก็มีกลุ่มคนบุกเข้ามาช่วยเหลือข้าวปั้นและฟ้าครามออกไปได้ ท่านบดีแค้นและคิดตามตัวข้าวปั้นมาให้ได้

ข้าวปั้นกับฟ้าครามพบว่าคนที่ช่วยเหลือพวกตนออกมานั้นก็คือ เพิ่มบุญ ลาวัลย์ ดร.วนัส และ กลุ่มนักศึกษาที่เคยอยู่ในทีมของดร.ปิตินันท์นั่นเอง ทั้งหมดรวมตัวกันอยู่ในเซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่ง ข้าวปั้นสับสนแปลกใจไปหมด เพิ่มบุญจึงเล่าที่มาที่ไปให้เข้าใจว่า พวกตนเป็นทีมของดร.ปิตินันท์ในอดีต ดร.ปิตินันท์รู้ดีว่าตัวเองกำลังมีอันตรายจึงได้ฝากฝังลูกสาวคนเล็กให้พวกตนช่วยดูแล พาหนีไปอยู่ที่ทุ่งบ้านนาเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล เพราะไม่อยากให้มาข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ อยากให้ช่วยเลี้ยงดูให้เติบโตมาอย่างปลอดภัย และลูกสาวคนที่ว่าก็คือ ข้าวปั้น นั่นเอง..ข้าวปั้นไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของเพิ่มบุญกับลาวัลย์ แต่ข้าวปั้นคือลูกสาวของดร.ปิตินันท์ต่างหาก..และการที่ข้าวปั้นสนใจในคดีดร.ปิตินันท์ถือเป็นความผูกพันทางจิตวิญญาณของพ่อลูกอย่างที่อธิบายไม่ได้ ข้าวปั้นย้อนคิดทบทวน และค้นพบว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอได้รับการดูแลห่วงใยอย่างอ้อมๆจากคนต่างๆเหล่านี้มาตลอด ข้าวปั้นได้เข้าใจชาติกำเนิดของตัวเอง ในขณะเดียวกัน ฟ้าครามก็ได้รู้ความจริงว่าข้าวปั้นคนนี้คือข้าวปั้นจริงๆที่เขาเคยแอบรักในวัยเด็ก แต่ที่ต้องสวมรอยเป็นสาวใจแตกเพราะต้องการปลดหนี้แทนครอบครัว

ฟ้าครามบอกเลิกกับปานรวี!!!

ปานรวีอกหัก เกลียดชังข้าวปั้นที่เป็นมารความรัก เธอจึงหันไปหลอกใช้กำลาภอีกครั้ง ให้ส่งคนไปจัดการข้าวปั้น แต่ปานรวีก็ทำไม่สำเร็จ กำลาภถูกฟ้าครามจับตัวส่งตำรวจ ร้อนถึงเสี่ยกำพลต้องมาประกันตัวออกไป กำลาภจึงได้ตาสว่างว่าโดนปานรวีหลอกใช้ กำลาภซ้อมปานรวีจนอาการปางตาย ข้าวปั้นผ่านมาเห็นและช่วยเอาไว้ ทำให้ปานรวีสำนึกผิด และขอโทษข้าวปั้น 

ข้าวปั้นวางแผนจะจัดการท่านบดี โดยใช้งานเลี้ยงต้อนรับคณะทูตและภริยาเป็นฉากบังหน้า ขอให้ฟ้าครามเปลี่ยนแปลงสถานที่จัดงานมาเป็นที่ทุ่งบ้านนาเพื่อให้ได้บรรยากาศแบบไทยๆ ทุกคนแต่งตัวสวยงามอลังการท่ามกลางบรรยากาศขุนเขาและท้องนา แต่ความจริงแล้ว ข้าวปั้นปล่อยข่าวว่าค้นพบแผนที่พิกัดของดร.ปิตินันท์ และจะเปิดเผยตำแหน่งสายแร่ในงานครั้งนี้ เพื่อตั้งใจลวงให้ท่านบดีมาติดกับ ท่านบดีทราบข่าว รีบตอบตกลงจะไปงานเลี้ยงต้อนรับทูตทันที คิดจะชิงแผนที่พิกัดและคิดจะจัดการกับกลุ่มนักศึกษาของดร.ปิตินันท์ รวมถึงทายาทที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ให้เป็นหนามแทงใจอีกด้วย

ในงานเลี้ยงนั้น ข้าวปั้น ฟ้าคราม พีรพงศ์ ญาดา (ที่ตอนนี้รู้ความจริงทั้งหมดแล้ว) ช่วยกันซ้อนแผน หลอกล่อให้ท่านบดีเผยความจริงเรื่องในอดีตออกมา ว่าเขาคือคนสั่งฆ่าครอบครัวดร.ปิตินันท์เอง รวมถึงลูกศิษย์ของดร.ด้วย เพราะดร.ไม่ยอมให้แผนที่พิกัดกับเขา และขู่จะแฉเรื่องของเขาอีกด้วย และตอนนี้ที่ดินทุ่งบ้านนากว่าครึ่งก็เป็นของเขาแล้ว ถึงไม่มีแผนที่พิกัด แต่ถ้าที่ดินเป็นของเขาทั้งหมด สายแร่มันก็ต้องเป็นของเขาอยู่ดี และเขาจะกลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆของประเทศ แต่หารู้ไม่ว่า การเผยไต๋ครั้งนั้น ได้ถูกต่อออกจอทีวียักษ์ของงานเลี้ยงเรียบร้อยแล้ว ท่านบดีหลงกลสารภาพความจริงด้วยตัวเอง หมดโอกาสพลิกลิ้นใดๆอีก ท่านบดีชักปืนออกมา เค้าไม่ยอมถูกจับ ท่านบดีส่ายปืนไปทั่ว และยิงฟ้าคราม ข้าวปั้นกระโดดเข้าขวางจนตัวเองถูกยิงล้มลงและสิ้นสติไป ท่านบดีถูกจับ!!! ความจริงถูกเปิดเผยพร้อมหลักฐานในกล่องเหล็กที่เพิ่มบุญไปเอามาจากบ้านที่ทุ่งบ้านนาคือสมุดบันทึก และของประจำตัวเด็กคือสายรัดข้อมือเมื่อแรกคลอด  ใบแจ้งเกิดและภาพถ่ายของเด็กหญิงข้าวปั้นตั้งแต่แรกเกิดจนถึงภาพสุดท้าย4วันก่อนที่ดร.ปิตินันท์และภรรยาจะถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม

คดีเก่าถูกรื้อฟื้นขึ้นมา กลุ่มนักศึกษาที่เคยติดตามดร.ปิตินันท์พ้นข้อกล่าวหาที่ท่านบดีใส่ร้ายว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมยกครัว ทุกคนเป็นอิสระ
ฟ้าครามดูแลข้าวปั้นจนอาการดีขึ้น และออกจากโรงพยาบาล  

ข้าวปั้นได้มอบแผนที่พิกัดให้กับรัฐบาล เธอได้รับมอบสมบัติทุกชิ้นของดร.ปิตินันท์คืนจากรัฐบาล เมื่อรัฐบาลส่งเครื่องมือตรวจหาสายแร่ไปทุ่งบ้านนาก็พบว่าท้องนาเนื้อที่ไม่กี่สิบไร่ของเพิ่มบุญนั่นเองคือแหล่งที่ค้นพบสายแร่ทองคำ แต่เมื่อมีปริมาณไม่มากพอรัฐบาลจึงสงวนที่ตรงนั้นไว้ให้เป็นที่ศึกษาหาข้อมูลของนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งอีสาน หรือมหาวิทยาลัยทั่วประเทศที่อยากมาดูงาน

ข้าวปั้นให้เพิ่มบุญกับลาวัลย์ดูแลบ้านของดร.ปิตินันท์ พลิกฟื้นบ้านร้างให้กลับมามีชีวิตชีวา โดยทั้งสองมีรายได้จากเงินดอกเบี้ยที่ได้ค่าเวนคืนที่ดินจากรัฐบาลหลายสิบล้าน ส่วนตัวเธอเสนอตัวเองอาสาเป็นผู้ดูแลศูนย์ศึกษาดินและสายแร่แห่งทุ่งบ้านนาบ้านเกิดของเธอ แต่เธอจะต้องสรุปผลงานวิจัยของดร.ปิตินันท์ เพื่อบินไปนำเสนอผลงานที่ต่างประเทศ ตามที่ดร.ต้องการเสียก่อน

ตระการและพวงครามเมื่อรู้ความจริงจากประเดิมถึงเหตุผลที่ต้องมีการสลับตัวว่าเป็นความประสงค์ของปานรวี สองสามีภรรยาไม่ได้โกรธที่เพื่อนทำเช่นนั้น แต่จะให้ฟ้าครามหมั้นกับปานรวีตัวจริง แต่ฟ้าครามปฏิเสธ เพราะเขารักข้าวปั้น แต่ข้าวปั้นกลับผลักไสให้เขาไปแต่งงานกับปานรวี เพราะหลังจากเหตุการณ์ทุกอย่างคลี่คลาย ปานรวีมาขอฟ้าครามกับข้าวปั้นตรงไปตรงมา ว่ารักฟ้าคราม ขอให้ข้าวปั้นหลีกทางให้ ข้าวปั้นรับปากว่าจะหลีกทาง และเธอก็ตัดใจไม่ติดต่อกับฟ้าครามอีก 

สิ้นสุดวันพักร้อนของฟ้าคราม เขาติดต่อข้าวปั้นไม่ได้ เหมือนข้าวปั้นหลบหน้า เขาตัดสินใจบินกลับไปทำงานต่อโดยไม่มีโอกาสบอกลาข้าวปั้นแม้แต่คำเดียว
ปานรวีรู้ว่าฟ้าครามจากไปโดยไม่ลา ก็เป็นการตอบคำถามที่ดีที่สุดว่าฟ้าครามไม่ได้รักปานรวีเลย ปานรวีเสียใจมาก

ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ข้าวปั้นถูกเรียกชื่อไฟนอลคอลล์ เธอรีบวิ่งไปที่เกตอย่างเร็วที่สุด แต่กลับชนเข้ากับฟ้าครามที่กำลังจะไปที่เกตเช่นกัน ทั้งสองได้เจอกันที่สนามบินแบบไม่คาดคิด ฟ้าครามไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป เขาขอร้องข้าวปั้นให้รับรักและยอมเป็นมาดามของเขา ข้าวปั้นไม่มีเหตุผลอะไรจะต้องปฏิเสธ เธอตอบตกลงจะเป็นมาดามของเขา ทั้งคู่กอดกันกลม ก่อนจะพบว่าทั้งสองคนถือตั๋วไฟท์เดียวกัน และถูกเรียกชื่อไฟนอลคอลล์อีกแล้ว..ทั้งคู่จูงมือกันรีบวิ่งไปขึ้นเครื่องบินอย่างมีความสุข!!!

แนะนำตัวละครมาดามบ้านนา

แกลลอรีมาดามบ้านนา