ละอองดาว
ละอองดาว
 

ละอองดาว

ละครหลังข่าว พุธ - พฤหัสบดี เวลา 20.30 น.

บทประพันธ์ : พนมเทียน บทโทรทัศน์ : สรรพชัย เกิดอุทัย

ทิสานาฏ ศรศึก,อรรคพันธ์ นะมาตร์,ปุณยาพร พูลพิพัฒน์,เคลลี่ ธนะพัฒน์,ปภาดา กลิ่นสุมาลย์,แม็กกี้ อาภา,กรเศก โคนินทร์,ดนัย สมุทรโคจร,เดือนเต็ม สาลิตุล

เรื่องย่อละอองดาว

เรื่องย่อละครละอองดาว

20 ปีที่แล้ว กลางดึกคืนหนึ่ง ด.ช. กรกฏ ในวัย 10 ปี กำลังนอนหลับในห้องนอน ได้ยินเสียงรถของบิดาแล่นเข้ามาก็ตื่นขึ้น รีบวิ่งลงไป เพื่อจะพบว่า ดร.ไกร ท่านบิดา ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีระดับต้นๆของเมืองไทย กำลังส่ง ‘ห่อผ้า’ ที่พันร่างทารกน้อยที่กำลังแผดเสียงร้องไห้แก่ คุณชวนชม พี่เลี้ยงของเขา ก่อนจะหันมาบอกกรกฏว่า… พ่อพาน้องมาให้ลูกดูแล คุณชวนชมถามว่าทารกนี้มีชื่อว่าอะไร ดร.ไกร เงยหน้ามองท้องฟ้าที่กระจ่างไปด้วยแสงดาว ยิ้มบางพลางพูดว่า…ละอองดาว… เด็กคนนี้ชื่อ ละอองดาว

เวลาผ่านไป 5 ปีต่อมา กรกฎ อายุได้ 17 ปี ออกจะรำคาญที่ ‘ยายแตน’ หรือ ละอองดาว เด็กน้อยตัวอ้วนกลม อายุ 7 ปีคอยเดินตามเขาไปไหนต่อไหน และยังทำน้ำหกใส่รายงานของเขาอีก ในขณะที่เขากำลังเผลอพูดโทรศัพท์จีบหญิงอยู่ กรกฏโกรธตวาดใส่ ยายแตน ที่ได้แต่ตัวสั่นบอก ขอโทษค่ะๆ

ดร.ไกร ดุกรกฏ ออกคำสั่งว่า กรกฏมีหน้าที่เพียงต้องคอยดูแลน้อง ทำให้กรกฏหงุดหงิดและพาลไม่ชอบหน้ายายแตนเพิ่มไปอีก

เวลาต่อมา ดร.ไกร ส่งกรกฏไปเรียนต่อที่อเมริกา กรกฏไม่อยากไป แต่ ดร.ไกรยืนกราน กรกฏขัดท่านบิดาไม่ได้

วันเดินทาง กรกฏเดินหน้าบึ้งผ่านหน้าเด็กหญิงแตนที่ยืนกับชวนชม มาส่งเขาพลางก้มไหว้เขา แต่กรกฏไม่สนใจ ขึ้นรถจากไป มีเด็กหญิงแตนมองตามจนลับตา

แล้วเวลาต่อจากนั้น กรกฏและละอองดาว ก็แทบจะไม่ได้พบหน้ากัน เพราะ ดร.ไกร ก้ส่งละอองดาวเข้าโรงเรียนประจำในคอนแวนต์แห่งหนึ่ง ที่เข้มงวดอย่างยิ่งในการอบรมกิริยามารยาทตามแบบฉบับ กุลสตรี

เวลาผ่านไปอีก 10 ปี ในแถวของนักเรียนคอนแวนต์ที่กำลังจะเดินไปสวดมนต์ในโบสถ์ มล.ชลทิชา และ เริงใจ ต่างเหลียวหา ละอองดาว สาวน้อยผมเปียแว่นตาขอบหนา ที่กำลังรีบร้อนวิ่งมาเข้าแถว
ละอองดาว เริงใจ และชลทิชา ออกจะเป็นกลุ่มที่แอบแก่นในความเจ้าระเบียบของแม่ชีที่คอยควบคุมดูแล ระหว่างการเรียนการทำเค้ก เริงใจ แอบหยิบเครื่องปรุงใส่กระเป๋าไป เพื่อตอนกลางคืน สาวน้อยทั้งสาม แอบไปต้มบะหมี่กินในระหว่างที่คนอื่นๆหลับ แต่ก็ไม่พ้นเจอ แม่ชีมาจับได้  แต่กลับทำให้ทั้งสามสาวสนิทสนมกันมากขึ้น

ละอองดาวกลับบ้านมา ระหว่างรถที่แล่นเข้าบ้าน ก็สวนกับรถที่กำลังพา กรกฏออกจากบ้านไปสนามบิน กรกฏนั่งขรึมๆ มีละอองดาวได้แต่มองตาม ชวนชมบอกว่า กรกฏกลับมาอยู่บ้านเกือบเดือน จำเพาะต้องไปวันที่ละอองดาวกลับบ้าน ละอองดาวกลับบอกว่า กรกฏก็คงไม่อยากพบหน้าเธอสักเท่าไหร่

ดร.ไกร คุยกับละอองดาว ย้ำให้ละอองดาวรู้ว่า เขารักเธอเพียงไร แต่ไม่อาจให้เธอใช้นามสกุลของเขา ไม่ใช่เพราะรังเกียจ แต่อยากให้เป็นสิ่งที่ย้ำเตือนว่า ละอองดาวไม่ใช่ลูกกำพร้าที่เกิดมาโดยไร้คนสนใจ แต่ละอองดาวต้องจำไว้ ว่าเธอคือ ตัวแทนความรักของ พ่อแม่ที่แท้จริงของเธอ ก่อนนอนคืนนั้น ละอองดาวเปิดหน้าต่างมองท้องฟ้า ดาราพราย พูดเบาๆฝากลมไปบอกว่า คุณพ่อคุณแม่..ไม่ต้องห่วงลูกนะคะ..ดาวสบายดี..

เวลาผ่านไป จากท้องฟ้า ไม้คฑาถูกโยนขึ้นฟ้า และตกลงมาใส่มือของ ละอองดาว สาวสวยสะพรั่งวัยสิบแปดที่กำลังเดินเป็นดรัมเมเยอร์ งานกีฬาสี เริงใจ และ ชลทิชา เดินถือธงสีอยู่เบื้องหลัง มีเด็กชายหนุ่มๆ จากที่อื่นมามุงดูในงานโรเรียน โดยแม่ชีคอยบอกให้ยามจับตามองหนุ่มๆอย่างไม่ไว้ใจ จนถึงช่วงพัก มล.ชลทิชา บอกว่า จะมีท่านอามารับ และวันนี้ทุกคนจะไปนอนที่บ้านของเธอ และบุรุษหนุ่มที่ก้าวเข้ามาในรอบรั้วคอนแวนต์ ที่ทำให้ทุกคนหันมามองตามในความสง่างามนั้นคือ ท่านชายสดายุ


ท่านชายพาสามสาวมาส่งบ้าน สาวสามพูดคุยกันเรื่องที่ต่างก็ต้องแยกย้ายไปเรียนต่อต่างประเทศ ละอองดาวไม่อยากไป แต่ขัด ‘คุณพ่อ’ คือ ’ดร.ไกร’ ไม่ได้

เช้าวันต่อมา ขณะละอองดาวเดินเล่นในสวยบ้านของชลทิชา ก็ต้องหลบแอบหลังต้นไม้ เมื่อเห็นสตรีหนึ่งกำลังร้องไห้ตัดพ้อที่ท่านชายสุดายุไม่ยอมรับรักแลปล่อยให้เธอคิดว่าท่านชายมีใจ ท่านชายเอ่ยขอโทษด้วยความเสียใจ ที่ไมตรีของท่านชายทำให้สตรีนางนั้นคิดมากและทุกข์ใจ เมื่อสตรีนางนั้นกลับออกไป ท่านชายก็เอ่ยเสียงดังว่านั่นใคร ออกมา ละอองดาวละล้าละลังจะเดินหนี ชายกระโปรงก็ไปเกี่ยวกับหนามพุ่มไม้ ไปไม่ได้ จนท่านชายมาปรากฏตรงหน้าเธอ ละอองดาวอ้ำอึ้ง ท่านชายย่อเข่าลงไปปลดกระโปรงจากพุ่มกิ่งไม้ให้ ก่อนจะยิ้มน้อยๆ ถามว่า เธอคงคิดว่าฉันเป็นคนใจร้ายสินะ ละอองดาวตอบไม่ถูก ท่านชายก็หัวเราะ บอกแต่ว่านี้แหละละอองดาวธรรมชาติที่ไม่ค่อยดีนักของผู้ชาย ที่มักจะวิ่งหนีเมื่อความรักวิ่งเข้ามา ผู้หญิงที่ฉลาด จึงมักยืนอยู่กับที่ เพื่อให้ความรักวิ่งมาหาเอง ละอองดาวหน้าแดงพูดอะไรไม่ถูก


ละอองดาวบินไปเรียนต่อทางยุโรป ในขณะที่ กรกฎใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกา


ดร.ไกร นั่งเพียงลำพัง เริ่มร่างจดหมายที่จะมอบให้ละอองดาวเมื่อเธออายุครบ 25 ปี

เวลาปัจจุบัน อีก 4 ปี ต่อมา กรกฏและผดาชไม กำลังพร่ำคำรักกัน กรกฏให้สัญญาว่า เมื่อกลับประเทศไทย เขาจะรีบขอบิดา แต่งงานกับ ผดาชไม แต่เธอกลับหัวเราะว่ายังไม่ต้องรีบขอเวลาเธออีกปีเพื่อทำงานที่มีสัญญาไว้กับทางค่ายเพลง ค่ายหนังให้เสร็จก่อน ทั้งสองมีความสุขมาก กรกฏโทรทางไกลมาหา ดร.ไกร พูดเป็นนัยๆว่า มีคนที่เขาหมายปอง ดร.ไกรอึ้งไป ก่อนจะโทรหาอรรถเร่งให้ทำเอกสารที่สั่งไว้ให้เรียบร้อย

ที่บ้านเบญจรงค์ ละอองดาวกลับมาจากยุโรปแล้ว ภาพอาหารหลากหลายในครัวที่ถูกบรรจงจัดแต่งด้วยฝีมือละอองดาว คนในครัวครึกครื้น
ละอองดาวไปตาม ดร.ไกร ในห้องทำงาน พบ คุณอรรถ ทนายความกำลังคุยกับ ดร.ไกร และกำลังจะลากลับ ละอองดาวรีบให้คุณชวนชมจัดอาหาร ขนมที่ทำใส่กล่องให้ไปด้วย

ดร.ไกร สุขภาพไม่ดีนัก ปฎิเสธคำขอจากละอองดาวที่อยากไปหางานทำ บอกว่าละอองดาวไม่เหมาะจะลดตัวไปเป็นลูกจ้างของใครทั้งนั้น ละอองดาวซาบซึ้งในความรักและเมตตาของ ดร.ไกร

วันต่อมา ดร.ไกร ล้มในห้องทำงาน ละอองดาว และชวนชมไปพบ ก็เพียงร่างที่ไร้ลมหายใจแล้ว ละอองดาวเสียใจมาก จัดงานศพในบ้านเบ็ญจรงค์ คุณอรรถ เป็นผู้ส่งข่าวให้กรกฏทราบ

กรกฏ เบ็ญจรงค์ ลูกชายของดร.ไกร เบ็ญจรงค์ ต้อเดินทางกลับจากต่างประเทศ เพื่อมาร่วมงานศพของบิดาและรับมรดกหลายหมื่นล้านที่ดร.ไกร ผู้เป็นบิดาได้ทำพินัยกรรมไว้ให้ ภายใต้เงื่อนไขว่าเขาต้องแต่งงานกับละอองดาวหรือแตน ที่ในสายตาของกรกฎเห็นว่าแตนเป็นเด็กกะโปโล หน้าตาเหมือนมองโกเลียน อ้วนป้อม และถ้าเขาไม่ทำตามประสงค์ของผู้ตาย มรดกก้อนโตก็จะตกเป็นสาธารณกุศลไป ส่วนกรกฏจะได้รับเพียงเงินเดือนเป็นรายเดือนเท่านั้น มันทำให้กรกฏต่อต้านพินัยกรรมฉบับนี้ เพราะมันไม่ยุติธรรมสำหรับเขาเลย แค่เงินเดือนมันจะไปพอใช้อะไรกัน เพราะเขาเป็นลูกแท้ๆ และมีสิทธิ์โดยชอบธรรม แต่คุณอาอรรถทนายประจำตระกูล ก็แจ้งว่า

ในกรณีนี้กรกฏต้องทำตามความต้องการของเจ้าของมรดกระบุไว้ในพินัยกรรม แล้วมีทางไหนบ้างที่จะทำให้เงื่อนไขเรื่องการแต่งงานนั้นเป็นโมฆะ เพราะกรกฏก็มีแฟนที่กำลังตามกลับมาจากอเมริกา คุณทนายเลยบอกว่าพินัยกรรมระบุว่าถ้าครบ 1 ปี ละอองดาวเป็นฝ่ายตัดสินใจปฏิเสธการแต่งงานกับเขา หรือแต่งงานกับคนอื่นไปก่อนเงื่อนไขนั้นจะเป็นโมฆะ กรกฏก็จะได้รับมรดกทั้งหมด
กรกฏหงุดหงิดมากแทบอาละวาดจนคนในบ้านไม่กล้าเข้าหน้า แต่กรกฏไม่ถามถึงละอองดาวเลย

วันที่ผดาชไมกลับมาจากเมืองนอก มีนักข่าวมากมายรายล้อม กรกฏต้องหลบอยู่ในรถด้านนอกที่จอดซ้อนกับรถแวน ที่เปิดได้สองประตู ผดาชไมโบกมือให้นักข่าว ขึ้นรถแวน พอปิดประตูบังสายตานักข่าว ก็ได้เปิดอีกประตูลงมา แอบขึ้นรถกรกฏไป

กรกฏได้เล่าเรื่องเงื่อนไขพิศดารในพินัยกรรมของดร.ไกร ผู้เป็นบิดาให้ผดาชไมฟัง ผดาชไมก็บอกว่า ไม่เป็นไรเธอรอได้

กรกฏให้สัจจะว่า เขาจะแต่งงานกับผดาชไมให้ได้ ผดาชไมเชื่อ เพราะไม่เห็นว่าละอองดาวในภาพลักษณ์ที่กรกฏเล่าจะมีอะไรมาทัดเทียมผดาชไมได้

กรกฏขอให้ธัชชัยเพื่อนรักช่วยจีบละอองดาวที เผื่อว่าละอองดาวจะตกหลุมรักธัชชัย และยิ่งได้แต่งงานกันยิ่งดี จะได้ทำให้พินัยกรรมฉบับพิศดารของดร.ไกร เป็นโมฆะ ซึ่งลึกๆแล้ว กรกฏก็รู้ว่าการทำแบบนี้มันดูเลวสิ้นดี แต่ทำไงได้ในเมื่อเขาเองก็มีแฟนแล้ว และพ่อก็ไม่เคยถามใจเขาสักคำว่าเห็นด้วยหรือเปล่า

คืนหนึ่งหลังสวดอภิธรรมดร.ไกรเป็นวันสุดท้าย กรกฏได้โทรไปคุยกับละอองดาวเรื่องเงื่อนไขในพินัยกรรมที่พ่อทำไว้ และบอกว่าตนมีคนรักอยู่แล้ว ละอองดาวคงเข้าใจ และขอให้ช่วยเขาในการพยายามทำให้เงื่อนไขเป็นโมฆะ และขอโทษด้วยที่เขาลืมเรื่องที่ละอองดาวมาขอพบ เสียงละอองดาวเรียบเฉย สุภาพ และไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ก่อนวางสายไป

กรกฏไม่รู้ว่า เขาเติมบาดแผลให้ผู้หญิงที่หยิ่งในศักดิ์ศรีอย่างละอองดาว ให้รู้สึกถูกหยามเหยียด อย่างรุณแรงเพียงใด

ผดาชไม พบแกงค์เพื่อนดาราสาวไฮโซ แกงค์ “Princess.” ที่ต่างก็มีผู้ติดตามมากมายใน instagram และทุกคนก็มาจากพื้นฐานฐานะที่ร่ำรวยอยู่แล้ว หรือมีคู่หมั่นหมายที่ล้วนเป็นเศรษฐี เมื่อถามผดาชไมถึงอนาคต ผดาชไมบอกว่าขอปิดเป็นความลับ แต่รับรองว่า ไม่น้อยหน้าใครในสังคม รวมทั้ง พ่อแม่ของผดาชไมที่เป็นเศรษฐีอยู่ต่างประเทศ ก็จะต้องให้ลูกสาว คบกับคนที่ศักดิ์ศรี ความร่ำรวยทัดเทียมกันเท่านั้น ผดาชไม ยิ้มๆ แต่มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก

ค่ำนั้น ผดาชไม แอบมาบ้านเล็กๆ หฃังหนึ่ง ผดาชไม แวะมาหา แม่เล็ก แม่แท้ๆ ของผลาชไม ที่เป็นแม่ค้าขายผักในตลาด ผิดกับความจริงที่สังคมรู้ว่า พ่อแม่เธอเป็นเศรษฐีอยู่ที่อังกฤษ เพราะตั้งแต่เข้าวงการ มีคนแนะนำ ผดาชไม ว่า ถ้าอยากบินสูง ภาพของผดาชไมต้องพรั่งพร้อม ซึ่งแม่ของผดาชไมเอง ก็ยอมรับในความด้อยต่ำของตัวเอง และไม่อยากทำร้ายลูก โดยเฉพาะ มีอดีตพ่อเลี้ยงขี้เหล้าเมายาคอยแวะเวียนมาก่อเรื่อง ขอเงินตลอดเวลา

แม่ของผดาชไมมีรูปผดาชไมเต็มบ้านด้วยความภาคภูมิใจ แต่ย้ำผดาชไมว่า แม่ไม่เคยบอกใครเลยว่า ผดาชไม เป็นลูก ผดาชไมรับปากว่า เมื่อเรื่องของเธอลงตัว ได้แต่งงาน แม่จะมีความสุขมีเงินทองมากๆ ไม่ต้องทำงานอีก แต่ตอนนี้ เรื่องจริงของผดาชไม ต้องเป็นความลับ

ตังแต่กรกฏกลับมาจากต่างประเทศ เขายังไม่เคยเจอละอองดาวเลย แม้จะอยู่ในรั้วบ้านเดียวกัน เนื่องจากอาณาเขตของบ้านนี้ไม่ใช่เล็กๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง กรกฏ จึงได้มีโอกาสลงมาเกินสำรวจบ้าน ตั้งแต่บริเวณที่เป็นสวนนก โรงรถ เรือนคนใช้ จนมาถึงตึกสีครีม ที่นั่นเด็กหญิงลูกหลานของคนรับใช้ ได้นำเขาไปรู้จักคนที่เธอเรียกว่า “คุณแม่” และนั่นเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับละอองดาวตัวจริงเสียงจริง สายจาของกรกฏจ้องจับอยู่ที่หญิงสาวรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าเกลี้ยงเกลาหมดจด ดวงตาดำขลับ เรียวปากได้รูปแม้จะไร้ซึ่งสีสัน แต่ใบหน้านั้นช่างชวนมองเหลือเกิน เด็กแตน ตัวอ้วนกลม หน้าตามองโกเลี่ยนคนนั้นจริงหรือนี่

ละอองดาง สุภาพ แต่ห่างเหินกับกรกฎ ไม่แสดงอาการขัแย้งใดๆ ไม่ว่าจะเรื่องไหนที่กรกฏร้องขอละอองดาว บอกว่าเธอสำนึกในความเป็น “ลูกเลี้ยง” ของบ้านนี้ที่เมื่อสิ้นคุณพ่อ เธอก็เท่ากับผู้อยู่อาศัยเท่านั้น กรกฏตกใจ บอกว่า เธอคือคนในครอบครัว เป็นน้องของเขา แต่ละอองดาวก็ยังเรียกกรกฏว่า คุณ แทนคำว่า พี่ อยู่ดี

กรกฏขอร้องให้ละอองดาวเป็นมัคคุเทศน์พาไปดูบริเวณบ้าน และในตึกใหญ่ พลางสังเกตละอองดาวตลอดเวลา สาวน้อยผู้นี้ไม่เพียงแต่มารยาทงามแลดูเป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว ละอองดาวยังฉลาดในการใช้คำพูด และการวางตัวด้วย ความคิดที่เคยมองเธอในแง่ลบค่ายๆ หายไประหว่างการทัวร์บ้านเบ็ญจรงค์

และในเย็นนั้นก็เป็นโอกาสดีที่เขาจะแนะนำหญิงสาวผู้มีศักดิ์เป็นน้องสาวของเขา ให้เป็นที่รู้จักกับธัชชัยเพื่อที่จะได้เริ่มแผนการที่เขาวางไว้  ดึงความสนใจของละอองดาวไปที่ธัชชัย ทนายหนุ่มผู้มีคุณสมบัติเพียบพร้อม ที่สำคัญ โสด และหลังจากที่ธัชชัยได้พบละอองดาว เขาก็เเทบจะตกหลุมรักเธอเลยก็ว่าได้ และสิ่งนี้ก็ไม่สามารถพ้นสายตาของกรกฏไปได้  แทนที่เขาจะพอใจ กลับกลายเป็นหงุดหงิดใจไปโดยไม่รู้ตัว

ตั้งแต่ที่ผดาชไมกลับมาจากอเมริกา เธอไม่ค่อยได้มีเวลาให้กับกรกฏเท่าไหร่นัก เพราะขณะนี้กรกฏได้ประจักษ์แล้วว่า เธอเป็นซุปตาร์ เป็นที่จับจ้องของวงสังคม ด้วยชาติตระกูล และความสามารถด้านการร้องเพลงของเธอ แต่ผดาชไมก็ยังยืนยันในความรักที่เธอมีต่อกรกฏ และจะรอคอยจนกว่ากรกฏจะเป็นอิสระจากพินัยกรรมของ ดร.ไกร ผดาชไมคิดว่าอย่างมากก็แค่ 3 ปี และกับมรดกสองหมื่นล้านบาทเธอรอได้ และจากที่กรกฏแฟนหนุ่มของเะออธิบายถึงรูปสมบัติ คุณสมบัติของละอองดาว ผดาชไมก็เห็นว่าไม่เห็นมีอะไรที่จะมาเป็นคู่แข่งเธอได้เลย
กรกฏพาผดาชไมมากราบศพบิดา ผดาชไม จึงได้พบละอองดาว ผดาชไมตะลึงไปบ้าง ที่ละอองดาวช่างต่างจากผู้หญิงที่กรกฏได่อธิบายไว้อย่างลิบลับ แต่กระนั้น คำว่าลูกกำพร้าก็ยังทำให้ผดาชไมรู้สึกว่าละอองดาวต่ำกว่าเธอ อาการพูดคุยอย่างสุภาพแต่เย้อหยิ่งของผดาชไมทำให้คุณชวนชมหมั่นใส้อยู่เหมือนกัน

กรกฏขอให้ละอองดาวไปช่วยเปิดเซฟในห้องบิดา เพราะต้องการเงิน ละอองดาวจะคืนกุญแจเซฟให้ กรกฏไม่ยอมรับ ละอองดาวจึงขอให้เขาเขียนใบรับเงินจากเงินสดห้าล้านในตู้เซฟที่เธอไม่เคยแตะต้อง เพื่อเป็นหลักฐานความบริสุทธิ์ของตัวเอง ในตู้เซฟ ละอองดาวพบจดหมายจาก ดร.ไกร ที่เขียนถึงเธอก็นำกลับมาเพียงอย่างเดียว

กรกฏ ไม่สบายใจนัก และยิ่งตอกย้ำให้เห็นความงดงามของ ละอองดาว ไม่ใช่ผู้หญิงที่หวังจับเขาเพื่อสมบัติอย่างที่เขาเคยคิด

ข้อความในจดหมายทำให้ละอองดาวร้องไห้หนัก ดร.ไกร ย้ำเรื่องความรักของพ่อที่มีต่อละอองดาว และย้ำเรื่องการขอให้ละอองดาวแต่งงานกับ กรกฏ รวมทั้งจะมีของขวัญพิเศษที่เตรียมไว้ให้เธอ เมื่อมีอายุครบ 25 ปี

กรกฏรถเสีย ในโรงรถมีรถจอดอีกหลายคัน กรกฏเลือกคันหนึ่งขับออกไปโดยไม่รู้ว่าเป็นรถของละอองดาว ยอดรักคนดูแลบ้าน มารายงานละอองดาว เธอก็ไม่ว่าอะไร บอกชวนชมว่า ไม่มีอะไรที่นี่เป็นของเธอ แม้ว่ารถคันนั้น ดร.ไกร จะซื้อให้เธอเป็นของขวัญ แต่ก็ยังจดทะเบียนเป็นชื่อ ดร.ไกร

ละอองดาว นั่งแท็กซี่ไปพบเพื่อนๆ ในร้านการแฟ มล.ชลทิชา เริงใจ ออกอาการหมั่นใส่ กรกฏ อย่างมากเมื่อทราบทุกเรื่องราว ละอองดาวปรึกษาเพื่อนๆ ว่าเธออยากหางานทำ

ระหว่างที่พูดคุยกัน มีเสียงกรี๊ดดังลั่นจากนอกร้าน สามสาวหันไปมอง พบ คำอินทร์ ซุปเปอร์สตาร์นักร้องขวัญใจวัยรุ่น เข้ามาในร้าน เขามีท่าทางเก๋ บวกยียวน และคอยโบกมือให้แฟนคลับที่ยืนกรี๊ดในทุกอิริยาบทของ คำอินทร์ คำอินทร์เข้ามาในร้าน เพื่อให้สัมภาษณ์นิตยสาร เมื่อพบกับ มล.ชลทิชา ก็เข้ามาทักทาย และมีท่าทีพึงใจละอองดาวทันทีที่ได้พบ มล.ชลทิชา เหน็บที่มาทำงาน เต้นกินรำกินที่เจ้าย่าไม่ชอบ คำอินทร์หัวเราะ บอกว่า ก็ถึงให้ทุกคนช่วยกันปิดเจ้าย่าไง เริงใจมองลีลาท่าทางไม่ธรรมชาติของคำอินทร์ อย่างขำขัน

ละอองดาวออกมาจากร้าน พบธัชชัย อาสามาส่งที่บ้าน เจอกรกฏ ที่ประหลาดใจที่เห็นทั้งสองมาด้วยกัน ธัชชัยบอกกรกฏว่า ช่วยพา “ไหกระเทียมต่อขา หน้าตามองโกเลีย” มาส่งไง กรกฏ ขอให้ละอองดาว เรียกตนว่าพี่ ละอองดาวยังไม่ยอม

ที่วังของ เจ้า พราวภางค์ เจ้าเพิ่งไล่คนดูแลออกไป และ นั่งร้องไห้หน้ารูปวาดของ จักราชัย โอรสที่สูญหายไป

ละอองดาว ไปสมัครงานที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ตามที่เริงใจบอก พบกรกฏ มากับ ผดาชไม เพราะผดาชไม อ้อนขอให้ซื้อเครื่องเพชร แต่กรกฏ เงินยังไม่พอ ผดาชไมซ่อนควาผิดหวัง กรกฏไม่พอใจที่ละอองดาวมาสมัครงาน บังคับให้กลับบ้าน ผดาชไมสงสัยว่าทำไมจึงต้องแคร์ เขาบอกมันให้เขาเสียชื่อไปด้วย  ละอองดาวน้อยใจ ผลุดผลันเดินหนีไปจนเกือบชนกับร่างๆ หนึ่ง

ร่างบุรุษหนุ่มนั่น คือ ท่านชาย สดายุ ท่านชายไม่เห็นกกฏและผดาชไม แต่เห็นสีหน้าละอองดาวไม่สู้ดี ก็พาไปนั่งดื่มน้ำชาเพื่อพูดคุย ทุกคนในห้องน้ำชาของโรงแรมหรูต่างกันมองท่านชายสดายุ ในรูปที่งามและชื่อเสียงของท่านชาย รวมทั้งเจ้าของโรงแรม มาต้อนรับท่านชายสดายุอย่างดี ผิดกับที่เคยพบละอองดาวแล้วทำเข้มใส่ ละอองดาวรู้สึกตัวลีบ แต่อบอุ่นกับ ท่านชายสดายุ

ท่านชายทราบเรื่องละอองดาวมาสมัครงาน และพาละอองดาวมาส่งที่บ้าน ในขณะที่กรกฏหวานฉ่ำกับผดาชไมที่คอนโดของผดาชไม ผดาชไม ของยืมรถกรกฏ คันของละอองดาวมาไว้ใช้ กรกฏให้ยืม ผดาชไมดีใจ

คืนนั้น ละอองดาว ยืนรับลมอยู่ ผดาชไมขับรถของตนมาส่งกรกฏ แล้วขับจากไป กรกฏเดินผิวปากสบายอารมณ์เข้าไปในบ้านของเขา ละอองดาวมองด้วยความเจ็บใจ

ทนายอรรถ แจ้งชวชมให้ละอองดาวมารับเงินเดือน ละอองดาวขอรับเฉพาะเงินเดือนเพื่อมาจ่ายคนในบ้านส่วนเงินส่วนตัวเธอไม่ขอรับ  และพูดเล่นๆ กับ อรรถว่าให้เก็บไว้เป็นเงินก้อน แต่แท้จริงนั้นเธอไม่อยากแตะเงินมรดกของกรกฏ

ท่านชายสดายุ มาเยี่ยม เจ้าพราวนภาค์ พบว่า กำลังต้องการครูใหญ่ของโรงเรียนอนุบาล จึงมาบอกหลานสาว ชลทิชา ชลิชา จึงนำความไปบอกต่อ ละอองดาว ละอองดาวดีใจขอไปสมัครงาน

ละอองดาวไปสมัครงานกับ มจ.พราวนภางค์ นพดล อดีตราชินีแห่งราชอาณาจักรศิขรินทร์ หลังจากพระสวามีสิ้นพระชนม์จึงย้ายมาอยู่ที่เมืองไทย และเปิดโรงเรียนอนุบาล นพดลสงเคราะห์รับเด็กกำพร้าจากทั่วทุกสารทิศให้มาเรียนหนังสือที่นี่ เมื่อครูใหญ่คนเก่าไปเรียนต่อ พระองค์หญิงก็ทรงประกาศหาครูใหม่ ใครมาก็ไม่ถูกใจเสียที จนกระทั่งได้พบกับละอองดาว ซึ่งมาสมัครเป็นครูที่นี่ เป็นชะตาฟ้าลิขิต เสด็จพระองค์เจ้าหญิงพราวนภารค์ ทรงถูกพระทัยละอองดาวเป็นอย่างยิ่ง รับเธอเข้าทำงานทันที

แต่ก็เหมือนบุญมีแต่กรรมบัง เมื่อกรกฏทราบว่าละอองดาวไปสมัครงานก็โกรธสั่งให้ไปลาออกไม่ให้ทำงาน ละอองดาวก็ไปลาออกทั้งๆ ที่ไม่ต้องการทำอย่างนั้น เธออยากใช้วิชาแม่บ้านการเรือนที่ร่ำเรียนมาให้เป็นประโยชน์ ที่สำคัญต้องการหารายได้จากน้ำพักน้ำแรงของตนเองด้วย แต่กรกฏไม่รับฟัง เขาบอกว่าเธอเป็นลูกสาว ดร.ไกร เบ็ญจรงค์ มหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ไม่ได้ลำบากลำบนอะไร ถ้าอยากใช้วิชาการเรือนที่ร่ำเรียนมา ก็ใช้กับที่บ้านเบ็ญจรงค์ที่เดียวก็พอ ละอองดาวจำต้องทำตามความต้องการของผู้ปกครองของเธอที่ชอบเอาตำแหน่งพี่ชายมาอ้าง

คำอินทร์ และผดาชไม มาเจอกันในงานถ่ายแบบนิตยสาร ความดังแลพพื้นฐานความร่ำรวยของคำอินทร์ ทำให้ผดาชไมสนใจ และเปิดทางให้อยู่ คำอินทร์ไม่ได้มีท่าทีสนใจอะไรนัก แต่ก็สนองท่าทีของผดาชไมอยู่บ้าง ผดาชไมทดสอบตลาดด้วยการถ่ายภาพกับ คำอินทร์ ลงอินสตาแกรม มีผู้ติดตามเพิ่มยอดสูงขึ้นเรือนแสนในวันเดียว ทำให้ผดาชไมเริ่มสนใจคำอินทร์อยู่บ้างเพื่อสร้างกระแส

วันหนึ่งทางวังนพดลโทรมาบอกละอองดาวว่าเสด็จพระองค์เจ้าพราวนภางค์ อาการไม่ค่อยดี ละอองดาวรีบไปเยี่ยม แต่พบว่าเสด็จพระองค์หญิงพราวนภางค์บรรทมอยู่ ทรงละเมอถึงใครสักคน พระหัตถ์กอดรูปชายหนุ่มคนหนึ่งไว้แนบพระอุระ ทราบภายหลังว่าคือ จักราชัย โอรสของเสด็จพระองค์หญิงพราวนภางค์ นพดลงค์ ที่ถูกถอดยศเพราะมาหลงรักหญิงคนไทย ก่อนจะไปใช้ชีวิตเป็นกบฏใต้ดินที่ฝรั่งเศสและเสียชีวิตที่นั่น และวันนั้นละอองดาวก็ได้พบเจ้าคำอินทร์ซึ่งเป็นหลานชายของหม่อมเจ้าหญิงพราวนภางค์ พอเจ้าคำอินทร์เห็นหน้าของละอองดาวเท่านั้น ความเจ้าชู้ซึ่งเป็นนิสัยติดตัวอขงเจ้าคำอินทร์ก็เริ่มทำงานทันที และก็เข้าทางเจ้าคำอินทร์ เมื่อหม่อมเจ้าหญิงพราวนภางค์ขอให้ช่วยไปส่งละอองดาว แต่เรื่องราวจะไม่ไปกันใหญ่ ถ้าไม่บังเอิญว่าเจ้าคำอินทร์พาละอองดาวอ้อมไปอีกทาง จนไปจอดติดไฟแดง ให้กรกฏที่จอดรถรอผดาชไมเสริมสวยอยู่เห็น กรกฏเดือดเป็นไฟ ลืมหน้าที่ของตนเองที่มีต่อแฟนสาวจนหมดสิ้น ขับรถตามรถเจ้าคำอินทร์มาจนถึงบ้านเบ็ญจรงค์ และเข้ามาวางท่าเจ้าของบ้าน จนละอองดาวงง อย่าว่าแต่ละอองดาวเลย น้าชวนก็งง หรือแม้แต่เจ้าคำอินทร์เองก็งงไม่แพ้กัน ที่สุดก็ขอตัวลากลับไป

ส่วนผดาชไม เริ่มบทบาทเจ้าของกรกฏ อ้อนขอจัดงานปาร์ตี้ที่ตึกของกรกฏ และมาพูดดีกับละอองดาว ขอให้ช่วยดูแลทำอาหารพร้อมให้ ชวนชมไม่พอใจ แต่ละอองดาวปรามชวนชม ว่าเขามาสั่งมาเราต้องทำ

วันงานผดาชไมแม้จะดูเหมือนสุภาพ แต่ปฏิบัติกับละอองดาวต่อหน้าสาวแก๊ง Princess ราวกับละอองดาวเป็นเพียงแม่บ้านธรรมดาคนหนึ่ง ทำให้ละอองดาวต้องซ่อนความช้ำใจและเข้มแข็งขึ้น แต่อาหารและการตกแต่งห้องอาหารด้วยมือของละอองดาว ทำให้คนมางานชมเปาะ ผดาชไมก็ยิ่งหมั่นไส้ และเกรงถูกแย่งความเด่นจากกรกฏ

ผดาชไมร้องเพลงด้วยท่าทางเซ็กซี่เย้ายวนกรกฏ ละอองดาวขอตัวกลับเรือนเล็กของตัวเอง ธัชชัยตามไปส่ง พาลให้กรกฏมองตามอย่างหมั่นไส้ ธัชชัยกลับมาก็ขอเดี่ยวเปียโนเพลงละอองดาว

จนวันหนึ่งผดาชไมไปหาละอองดาวถึงตึกสีครีม และพูดจาไม่ให้เกียรติ ขนาดน้าชวนชมที่ฟังอยู่ยังอ้าปากค้าง แต่ละอองดาวก็ตอกกลับผดาชไมอย่างตรงๆ ได้แสบไส้ พอกรกฏรู้ก็เดือดจนตามไปเล่นงานแฟนสาวถึงบ้าน ทั้งสองมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงที่ผดาชไมไม่ให้เกียรติละอองดาวน้องสาวเขา และนี่เป็นครั้งแรกที่กรกฏเดินจากผดาชไมมาโดยไม่ฟังเสียงที่แผดเรียกเขา ธัชชัยที่ไปเป็นเพื่อนโดยไม่ตั้งใจก็แปลกใจว่า ทำไมเพื่อนรักถึงเป็นฟืนเป็นไฟได้มากมายขนาดนี้ แม้แต่กรกฏเองก็ยังแปลกใจด้วยเลย

จากคำดูถูกของผดาชไมทำให้ละอองดาวกลับไปที่วงนพดล และของานที่เธอเพิ่งลาออกไปคืนและจะมาอยู่ที่วังเลย กรกฏรู้เรื่องก็ไม่ยอม พูดดีก็แล้วขอโทษก็แล้วละอองดาวก็จะไป กรกฏเลยบอกว่างั้นเขาจะไปเฝ้าเจ้าพราวนภางค์เอง เมื่อได้ไป ท่าหญิงก็ทรงเห็นอะไรบางอย่างแปลกๆ ระหว่างพี่น้องจำเป็นคู่นี้ แต่มันจะคืออะไรเล่า...ที่สุดกรกฏก็เอาชนะละอองดาวจนได้ การทำงานของละอองดาวเปลี่ยนจากการที่ต้องไปอยู่วังนพดล เป็นเช้าไปเย็นกลับตามความต้องการของเขา ละอองดาวก็พยายามทำงานด้วยดี และก็เป็นที่โปรดปรานอย่างมากของเจ้าหญิงพราวนภางค์ แม้จะขัดใจว่า ทำไมพี่ชายนอกไส้ถึงได้ตามจิกตัวเธอจัง ครั้งแรกจะออกไปหางานก็ไม่ให้ไป พอมีชายหนุ่มมาเทียวไล้เทียวขื่อ ก็มาปรามน้องสาวเสียอีก แถมแฟนก็ยังราวีเธอ กลัวว่าเธอจะไม่ยอมยกสมบัติให้แฟนหนุ่มซะอย่างนั้น

วันหนึ่งที่วังนพดล ละอองดาวได้พบกับพันตรีหม่อมเจ้าสดายุ มยุรฤทธิ์ อาของ ม.ร.ว.ชลทิช เพื่อนสนิทของละอองดาว ซึ่งทรงรู้จักละอองดาวมาตั้งแต่เด็ก ท่านเสด็จมาพร้อมเจ้าคำอินทร์เพื่อมาเยี่ยมเสด็จป้า จึงถือโอกาสเชิญละอองดาวไปร่วมงานวันเกิดที่วังมยุรฤทธิ์ของท่าน และในงานเลี้ยงถ้าหากหญิงคนไหนได้ออกเต้นรำกับท่านชายเป็นคนแรก คนนั้นคือคู่ครองของท่าน ผดาชไมหวังเกาะคนที่มีฐานะและชื่อเสียง เธอจึงหว่านเสน่ห์ท่านชายตลอดเวลา โดยไม่สนใจสายตาของกรกฏแม้แต่น้อย กรกฏเองก็คอยจับตาดูละอองดาว แต่เมื่อเห็นท่านชายสนใจเธอ เขาก็รู้สึกด้อยค่าไปทันที ในงานเลี้ยงของท่านชาย กรกฏดื่มเหล้าจัดย้อมใจอย่างประชดชีวิต

ผดาชไมเริ่มรู้ว่าละอองดาวเป็นคู่แข่ง จึงตามไประรานให้ละอองดาวเลิกยุ่งกับกรกฏและทวงหนังสือปฏิเสธการแต่ง เธอจึงเขียนหนังสือยกเลิกสัญญาการแต่งงานและนำไปให้กรกฏ แต่เขากลับจุดไฟเผาสัญญานั้นเป็นจุณ ละอองดาวมีหนุ่มๆ ทั้งธัชชัย, เจ้าคำอินทร์ และท่านชายสดายุมารุมจีบ ทำให้กรกฏรู้สึกหึงหวง แต่ก็แสดงออกอะไรมากไม่ได้ จึงได้แต่ตัดพ้อกับละอองดาวอย่างน้อยใจ ผดาชไมหาทางกลั่นแกล้งละอองดาวแต่ก็ทำให้เธอกับกรกฏได้อยู่กันตามลำพังบ่อยๆ กรกฏเศร้าหนักถึงกับกินเหล้าจัดจนกลายเป็นคนติดเหล้า ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ละอองดาวต้องมาคอยเฝ้าและสั่งคนในบ้านให้นำเหล้าไปซ่อนให้หมด แต่กรกฏก็อาละวาดหาเหล้ามากินจนได้

ในขณะที่กรกฏอาจมีสิทธิ์ชวดในเงินมรดก แม้เธอจะรักเขาเพียงใด แต่ผดาชไมย่อมไม่ยอมน้อยหน้าเพื่อนกลุ่ม “เจ้าหญิง” ที่ได้สามีรวยๆ งานแต่งหรูหราใหญ่โต ผดาชไม จึงโปรยเสน่ห์ใส่ ท่านชายสดายุ เมื่อท่านชายไม่เล่นด้วย ผดาชไมจำใจต้องรับไมตรีจากเศรษฐีหนุ่มใหญ่ ที่ชอบมีข่าวเปลี่ยนคู่ควงไม่ซ้ำหน้า นายพูนสวัสดิ์ โดยยังไม่ปล่อยมือจา กรกฏ … เพราะความรักเพียงอย่างเดียวมันไม่พอ

บนความคิดที่สับสนปนทุกข์ของกรกฏ กับความรู้สึกบางอย่างที่มันยิ่งเพิ่มทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ แม้จะเต็มไปด้วยทิฐิและไว้ตัวเข้าหากัน แต่มีสิ่งหนึ่งได้ก่อเกิดขึ้นกลางใจของคนทั้งสอง และเจริญงอกงามขึ้นทุกคืนทุกวัน กรกฏเข้าใจความรู้สึกนี้ แต่ก็พยายามโกหกตัวเองมาตลอด จนกระทั่งวินาทีสุดท้ายว่า เขาไม่ได้รักหล่อน...รักไม่ได้ เพราะเขาเองเป็นคนที่ไม่ต้องการละอองดาวมาตั้งแต่ต้น แต่เพราะทั้งความดี ความงามของเธอ มันค่อยแทรกผ่านหัวใจของเขาเข้ามาจนมันแผ่อาณาจักรเต็มพื้นที่ของหัวใจ มันช่างเจ็บปวดทรมานเหลือเกิน ที่รักแต่ต้องห้ามใจไม่ให้รัก ยิ่งปฏิเสธหัวใจตัวเองเท่าไหร่ ยิ่งทรมานตัวเองมากเท่านั้น

ช่วงเวลานั้นทั้งกรกฏและละอองดาวพยายามทำตัวห่างเหินกันเพื่อตัดความสัมพันธ์ทางใจ ดร.ไกร เขียนจดหมายไว้ก่อนตาย พร้อมด้วยสร้อยล็อกเกตฝากไว้ที่ทนายปรำจำตระกูล บอกว่าเมื่อละอองดาวอายุครบ 25 ปีเมื่อไหร่ให้นำของสองสิ่งนี้มาให้เธอ กรกฏนำของนั้นมาให้ละอองดาวที่วังนพดล เจ้าพราวนภางค์เป็นคนเปิดอ่านจึงได้รู้ว่าละอองดาวเป็นหลานของท่านที่ตามหามานาน 25 ปี เขารู้ทันทีว่าฐานะของตัวเองห่างไกลกันนัก

ผดาชไมแอบไปควงคู่กับพูนสวัสดิ์หวังเกาะคนรวย กรกฏจับได้คาหนังคาเขา และยังมีรูปเธอกับประจานหราในหนังสือพิมพ์แต่เธอก็ไม่ยอดรับผิด

เมื่อเรื่องของนายพูนสวัสดิ์พังทลาย และกรกฏบอกตัดเธออย่างไม่ใยดี ผดาชไมกลับโยนความผิดให้ละอองดาว และเผลอยิงละอองดาว

ขณะที่ผดาชไมกำลังตกตะลึงและกรกฏมารับสมอ้างว่าเป็นคนทำปืนลั่นใส่ละอองดาวเอง เขาเพียงบอกว่านี่คือคำขอโทษที่เขารักษาสัจจะไม่ได้ แต่นับจากนี้เขาไม่อยากเห็นหน้าเธออีก

ผดาชไมหัวใจบอบสลายกลับไปหาอ้อมอกคนที่รักเธอจริงคือ แม่ และตั้งสติเดินหน้าในชีวิตต่อไป โดยพาแม่ไปอเมริกาเพื่อเซ็นสัญญาเล่นภาพยนตร์ต่างประเทศ โดยคิดได้ว่า อนาคตคือสิ่งที่เธอสร้างได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งผู้ชายและเธอยังคงความเหย่อหยิ่งมาดนางพญาต่อไปได้ด้วยหัวใจร้าวราน

จนเมื่อถึงวันที่ท่านชายสดายุขอเธอแต่งงาน ด้วยความเห็นชอบของเจ้าพราวนภางค์ เมื่อกรกฏเผลอพูดแสดงความยินดี ละอองดาวก็ตอบตกลงรับหมั้นหมาย ท่านชายสดายุ

ในวันงานพิธีหมั้นของละอองดาว กรกฏตัดสินใจเขียนจดหมายยกสมบัติทั้งหมดให้กับสาธารณกุศลและคิดออกบวช

วันหมั้นละอองดาวเศร้าจนท่านชายสดายุ เลือกที่จะวางแหวนลงในฝ่ามือของเธอ แทนการสวมแหวนหมั้น และบอกอย่างสุภาพอบอุ่นว่า ให้เธอไปตามหาหัวใจที่แท้จริงของเธอ

ท่านชายสดายุ เตือนให้เธอทำตามที่หัวใจต้องการ ละอองดาวได้คิดรีบไปหากรกฏที่บ้าน กลับพบจดหมายที่เขาเขียนทิ้งไว้และเดินทางไปบวชแล้ว เธอจึงรีบตามไปง้อและปรับความเข้าใจกัน

หัวใจของละอองดาว เป็นของพี่ชายที่แสนดื้อ น่าหมั่นไส้ แต่หวานยิ่งนักที่ชื่อ กรกฏ เพียงคนเดียว

เรื่องย่อละครละอองดาว จบบริบูรณ์